“DREAM SCENARIO คืนนี้จงฝันถึงผม” ชื่ออาจจะดูเหมือนหนังโรแมนซ์ แต่เมื่อได้เห็นว่ามันมาจากค่าย A24 ก็รู้ทางได้เลยว่า ไม่ธรรมดาแน่นอน ผลงานการกำกับและเขียนบทโดย คริสตอฟเฟอร์ บอร์กลี (Kristoffer Borgli) จาก Sick of Myself ใครที่เคยชมก็จะรู้ดีว่า หนังมันป่วยขนาดไหน

การได้ “เจ้าพ่อหนังคัลท์แห่งยุค 20” อย่าง “ป๋าเคจ” นิโคลัส เคจ มารับบทนำ ย่อมทำให้ “คืนนี้จงฝันถึงผม” ทวีคูณความคัลท์ขึ้นไปอีกขั้น

ผู้กำกับ คริสตอฟเฟอร์ เล่าให้ฟังว่า ป๋าเคจ รู้สึกว่าเขาเข้าใจตัวละคร พอล แมทธิวส์ จริงๆ เขาเหมือนอยู่ในสังคมที่ให้ทัศนคติของผู้อื่นมาตัดสินว่า คุณเป็นคนแบบไหน ด้วยชื่อเสียงมากมายที่ถาโถมเข้ามาจากงานแสดง รวมถึงข่าวฉาว ข่าวลือสารพัดในช่วงเขาตกต่ำ เคจ สามารถเข้าถึงตัวละครได้อย่างน่าเชื่อถือ เขาเติบโตมาในครอบครัวที่มีชื่อในแวดวงวิชาการ พ่อของเขาเป็นอาจารย์ บทบาท พอล จึงไม่ไกลเกินตัวเขาเลย

นิโคลัส เคจ สวมบทเป็นศาสตราจารย์พอล แมทธิวส์ ชายสูงวัยคนหนึ่งที่มีอาชีพเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัย ซึ่งยังคงพยายามจะมีตัวตน ถูกเป็นที่ยอมรับ แต่แล้ววันดีคืนดีเขาก็กลายเป็นคนดังระดับประเทศแบบที่ตัวเองไม่ได้ทำอะไรเลย เพราะเริ่มมีคนจำนวนมากที่ฝันถึงเขา ทำให้เขาต้องรับมือและจัดการกับชื่อเสียงของตัวเองที่ดังแบบไม่ทันตั้งตัว โดยความดังก็มาพร้อมกับความโกลาหลต่าง ๆ ทว่า อยู่ดี ๆ เหตุการณ์ก็พลิกผันอีกครั้ง เมื่อความฝันที่เคยว่าดี กลับกลายเป็นฝันร้าย ทำให้เขากลายเป็นที่รังเกียจของทุกคน ก่อนชีวิตจะดำดิ่งลงสู่หุบเหวลึก ไปดูกันในโรงว่าเขาจะจัดการกับชีวิตของตัวเองอย่างไร?

จุดแข็งของ DREAM SCENARIO

ป๋าเคจออกโรงชื่นชมด้วยตัวเองเลยว่า สคริปต์หนังเรื่องนี้ยอดเยี่ยมที่สุดเท่าที่เขาเคยอ่านมา ส่วนหนึ่งอาจเพราะมันตรงกับชีวิตคนดังอย่าง เคจ ที่เคยพุ่งสู่จุดสูงสุด และร่วงลงสู่จุดต่ำสุดมาแล้ว และพวกเราทุกคนก็น่าจะมีช่วงชีวิตหนึ่งที่ related กับศาสตราจารย์พอล แมทธิวส์ แน่นอน

พล็อตอันทรงพลังสุดเจิดจ้า นี่คือพล็อตหนังที่ฉลาดล้ำ และสามารถเปรียบเปรยกับชีวิตของผู้คนในยุคโซเชียลมีเดียได้เป็นอย่างดี อยู่ดี ๆ คุณก็อาจจะดังเป็นพลุแตก แต่วันดีคืนดีคุณก็อาจจะถูกบูลลี่ ถูกเล่นงาน จนไม่มีที่ยืนในสังคมก็ได้ ยุคสมัยใหม่แห่งการล่าแม่มดที่น่ากลัวกว่าในอดีตหลายร้อยเท่า

การแสดงของ เคจ คงไม่ต้องพูดคุย หนังเรื่องนี้เขาไม่ได้ต้องมีคาแรกเตอร์ หรือพฤติกรรมที่แปลกประหลาดอะไร เป็นแค่คนธรรมดาที่ต้องเผชิญหน้ากับความแปลกประหลาดไม่ธรรมดา และป๋าเคจทำได้ดีเช่นเดิมไม่เปลี่ยนแปลง

ข้อคิดที่ได้จากหนังเรื่องนี้เป็นเหมือนข้อคิดปลายเปิด ที่แต่ละคนสามารถหยิบฉวยเอากลับบ้านไปได้ตามใจชอบ แล้วแต่ประสบการณ์ตรงของแต่ละคนเลย เป็นหนังที่มอบข้อคิดแสนธรรมดา เรียบง่าย แต่ทรงพลังเหลือเกิน

จุดอ่อนของ DREAM SCENARIO

ในยุคที่เราพูดถึงการ “บูลลี่” กันบ่อยครั้งมาก ๆ และพยายามรณรงค์ไม่ให้มันเกิดขึ้น อยากให้ทุกคนเคารพซึ่งกันและกัน รวมทั้งเคารพตัวเองด้วย แต่บ่อยครั้งที่การบูลลี่เกิดขึ้นแบบไม่ได้ตั้งใจ หรือการจะมอบข้อคิดดี ๆ ให้กับผู้คน ส่วนใหญ่คนเราก็มักจะเคยชินกับการนำตัวละครหรือสิ่งบางสิ่งมาบูลลี่ให้ดูย่ำแย่ เพื่อทำให้ผู้คนได้เห็นแสงสว่าง บังเกิดการหยั่งรู้ขึ้น แต่ในความเป็นจริงแล้ว เราไม่จำเป็นต้องบูลลี่ตัวละครเพื่อให้เกิดการคิดได้ หากมันเป็นไปในบริบทปกติ เป็นไปตามสามัญ ก็พอเข้าใจได้ แต่การยัดสถานการณ์แปลก ๆ พฤติกรรมแปลก ๆ เข้าไป เพื่อให้ตัวละครดูแย่ ดูน่าสมเพศ เพื่อให้คนดูรู้สึกคิดได้ ในทางกลับกันบางคนไม่ได้รู้สึกคิดได้ แต่รู้สึกเหมือนกำลังถูกบูลลี่เหมือนที่ตัวละครกำลังพบเจออยู่ และไม่เข้าใจว่า หนังจะใส่สิ่งนี้เข้าไปทำไม ไม่เห็นจะบันเทิงหรือคิดได้ตรงไหน นอกจากทำให้รู้สึกเจ็บปวด และบางครั้งมันก็ตกตะกอนอยู่ในใจไปอีกนานหลายวันหลายเดือนเลยทีเดียว

ใน DREAM SCENARIO มีฉากแบบที่กล่าวมา ไม่มากก็น้อยเลยทีเดียว เข้าใจวัตถุประสงค์ของคนทำหนัง แต่ผลที่ได้รับบางครั้งมันก็ไม่ได้เป็นแบบที่คิดเสมอไป

4/5
ภาพยนตร์ฉลาดคิดฉลาดนำเสนอ พล็อตเรื่องชนะเลิศ การแสดงที่ธรรมดาแต่ไม่ธรรมดาของ นิค เคจ มอบข้อคิดมากมายให้กับผู้ชม ใครที่ชื่นชอบหนังคัลท์ ชอบการดูหนังแล้วได้อะไรติดไม้ติดมือ ประดับสมองกลับบ้านไปด้วย นอกเหนือจากความบันเทิงทั่ว ๆ ไป “DREAM SCENARIO คืนนี้จงฝันถึงผม” คือหนังที่คุณกำลังตามหาอยู่

หมีเช