โลกสีสวยสุดสัปดาห์นี้ เรามี “นุ่น” ชุติมา พึ่งความสุขผู้ประกาศข่าวสาวสวยจาก ช่อง 9 MCOT HD มาเป็นแขกรับเชิญคนพิเศษ ซึ่งเชื่อเหลือเกินว่า คุณผู้อ่านหลายท่านน่าจะคุ้นหน้าคุ้นตากับสาวสวยมากความสามารถคนนี้กันเป็นอย่างดีอยู่แล้ว

วันนี้นอกจากจะมาพูดคุยเกี่ยวกับหน้าที่การงาน ความฝัน และความชอบของเธอแล้ว นุ่นยังจะมาแนะนำวิธีออกกำลังกายอย่างปลอดภัยไร้โรค ซึ่งช่วยให้เธอมีทั้งสุขภาพที่แข็งแรง และมีรูปร่างที่สวยงามกันอีกด้วย…

แนะนำตัวหน่อยจ้า

“สวัสดีค่ะ “นุ่น” ชุติมา พึ่งความสุข ปัจจุบันเป็นผู้ประกาศข่าวและพิธีกรอยู่ที่ช่อง 9 Mcot HD รับผิดชอบงานอ่านข่าวในพระราชสำนัก, จัดรายการฟังหูไว้หู คู่กับ อ.วีระ ธีรภัทร, รายการบ่ายนี้มีคำตอบ และรายการ Healthy Time ทาง FM 99 Active Radio ค่ะ”

แท้จริงแล้วเป็นสาวติดตลก

 “นุ่นเป็นคนมีหลายบุคลิกค่ะ น้อยคนที่จะรู้ว่า แท้จริงแล้ว นุ่น เป็นคนที่ตลก ร่าเริง ชอบความสนุกสนาน แต่ด้วยคาแรกเตอร์ที่อยู่หน้าจอเราจำเป็นต้องดูน่าเชื่อถือทำให้หลายคนมองว่า ดูทรงภูมิ และน่าเชื่อถือมาก แต่เบื้องหลังเราก็เป็นคนตลก ร่าเริง อารมณ์ดีค่ะ”

จุดเริ่มต้นสู่เส้นทางผู้ประกาศข่าว

“เริ่มต้นจากการที่ช่อง 9 มีโครงการรับสมัครผู้ประกาศหน้าใหม่ ตอนที่ นุ่น เรียนอยู่ปี 3 มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒประสานมิตร เราก็เลยลองมาสมัครดูค่ะ จากนั้นก็ได้รับคัดเลือกให้เข้ามาเป็นผู้ประกาศข่าวของที่นี่ และเริ่มต้นเข้ามาทำงานที่อสมท ประมาณปี พ.ศ. 2554 ค่ะ”

ฝันอยากเป็นผู้ประกาศข่าวในพระราชสำนัก

“นุ่นมีความฝันที่ชัดเจนมาตั้งแต่เด็กค่ะว่า อยากจะเป็นผู้ประกาศข่าว และอยากเป็นผู้ประกาศข่าวในพระราชสำนัก โดยทุกอย่างมันเริ่มต้นจากการที่เราอยากทำอาชีพที่ดูสวย และสง่างาม เราก็เลยอยากเป็นนางรำ อยากเป็นดารา รวมทั้งผู้ประกาศข่าวด้วย”

“แต่เราน่าจะมาตกผลึกว่า เราอยากเป็นผู้ประกาศข่าวในช่วงเรียน ม.ปลาย ที่สตรีวิทยา 2 เพราะอาจารย์ให้โอกาสเราเป็นพิธีกรของโรงเรียน จึงทำให้เรารู้ว่า เรามีทักษะที่โดดเด่นในด้านการเป็นผู้ประกาศข่าวหรือพิธีกร”

“ส่วนเหตุผลที่อยากเป็นผู้ประกาศข่าวในพระราชสำนักน่าจะเป็นเพราะจากการที่คุณแม่ท่านชอบเปิดดูข่าวในพระราชสำนักวนจนครบทุกช่อง และก็ทำให้เราได้ซึมซับมาตั้งแต่เด็กว่าผู้ประกาศข่าวในพระราชสำนักดูสวยสง่า และภาษาที่ใช้สละสลวยไพเราะ จนเราเองก็รู้สึกอยากจะเป็นเหมือนพวกพี่ ๆ เขาบ้าง”

ไอดอลของ นุ่น ชุติมา

“จริง ๆ นุ่นชื่นชอบผู้ประกาศข่าวรุ่นพี่อยู่หลายท่านเลยค่ะ แต่ที่ชอบมากที่สุด และยกให้เป็นไอดอลของเราก็คือ “พี่โบ”เกวลิน กังวานธนวัต และ “พี่เจี่ย” โศภณ นวรัตนาพงษ์ ค่ะ”

ความแตกต่างระหว่างการอ่านข่าวในพระราชสำนักกับข่าวประเภทอื่น

“ในมุมมองของนุ่น เราชอบอ่านข่าวในพระราชสำนักเพราะหลงใหลในความงดงามของสถาบัน และความงดงามของภาษาที่ใช้ คําราชาศัพท์ นอกจากนี้วิธีการถ่ายทอดออกมาเป็นเสียงก็ยังแตกต่างกับการอ่านข่าวประเภทอื่นด้วย”

“สำหรับข่าวในพระราชสำนักทันทีที่เราเริ่มอ่านข้างในของเราต้องรู้สึกว่า เรากำลังถ่ายทอดในสิ่งที่มีความงดงาม และสิ่งที่เรารู้สึกเทิดทูน เราจะอ่านออกมาแบบพรรณนาโวหาร ซึ่งจะมีความสละสลวยงดงามอยู่ในตัวอยู่แล้วค่ะ”

ข่าวกีฬาอ่านยากที่สุดแล้ว

“นุ่นเคยอ่านข่าวกีฬาค่ะ เพราะตอนเริ่มต้นเป็นผู้ประกาศข่าว รับผิดชอบทั้งในส่วนของข่าวในพระราชสำนัก และข่าวต้นชั่วโมงด้วย นุ่นมองว่า ข่าวกีฬาอ่านยากที่สุดค่ะ แต่นุ่นชอบจังหวะ และลีลาในการอ่านข่าวกีฬานะคะ มันดูสนุกตื่นเต้นดี”

“แต่ที่บอกว่า มันยากสำหรับนุ่น ก็เพราะตัวเองไม่ได้รู้เรื่องกฎกติกา และจากการที่เราเองไม่ได้ติดตามดูกีฬาอย่างต่อเนื่อง มันก็ทำให้การอ่านชื่อนักกีฬาเป็นเรื่องที่ยากสุด ๆ ไปเลยค่ะ”

ชอบงานทุกอย่างที่ทำเพราะมีเสน่ห์แตกต่างกัน

“สมัยก่อนนุ่นอาจจะบอกได้ทันทีว่า ชอบงานไหนมากที่สุด แต่ถ้าเป็นตอนนี้ นุ่นขอตอบว่า นุ่นชอบหมดเลยทุกงานเพราะเรารู้สึกว่าแต่ละงานมันมีเสน่ห์เฉพาะตัว ทุกงานจะมีลักษณะพื้นฐานที่คล้ายกัน แต่ก็จะมีความแตกต่างกันอยู่นั่นแหละคือเสน่ห์”

“อย่างการเป็นผู้ประกาศข่าวกับพิธีกรมันก็จะมีวิธีการแก้ไขสถานการณ์ที่ไม่เหมือนกัน อย่างงานผู้ประกาศจะเป็นลักษณะของการถ่ายทอด ส่วนพิธีกรเราจะมีโอกาสเป็นผู้ได้ซักถามบ้าง หรือบางครั้งผู้ประกาศข่าวเองก็มีโอกาสได้เป็นพิธีกรไปในตัว ดังนั้นแต่ละงานจึงสนุกและมีเสน่ห์คนละแบบค่ะ”     

คำแนะนำสำหรับน้อง ๆ ที่อยากเป็นผู้ประกาศข่าว

“เริ่มต้นจากการออกจากเซฟโซนของตัวเองไปตามหาสิ่งที่เราชอบอย่างแท้จริงก่อนค่ะ อย่างนุ่นฝันอยากเป็นผู้ประกาศ และตีกรอบว่า อยากเป็นผู้ประกาศข่าวในพระราชสำนักด้วย แต่พอเอาเข้าจริง นุ่นมักจะคว้าทุกโอกาสที่ผ่านเข้ามา คือมีโอกาสทำอะไรก็ทำไปก่อน”

“ถามว่า กลัวไหมกับการทำสิ่งที่ไม่ถนัด มันก็กลัว แต่ความกลัวมันมี 2 แบบ คือกลัวแล้วหนี และกลัวแล้วสู้ ซึ่งนุ่นเป็นคนที่กลัวแล้วสู้ซึ่งก็ทำให้เราพร้อมรับทุกโอกาส และพร้อมลุยงานทุกอย่างที่ได้รับมอบหมาย”

“ดังนั้นเมื่อเราอยู่ในวัยนี้ และทำงานมานานขนาดนี้ เราจึงรู้ว่า บางอย่างเราต้องลองลงมือทำดูก่อนจึงจะสามารถให้คำตอบได้ว่า ชอบ หรือ ไม่ชอบ และมันจะทำให้เราได้รู้ว่า จริง ๆ แล้ว ตัวเราเองสามารถเป็นอะไรได้หลายอย่างเลยค่ะ”

อยากลองเล่นภาพยนตร์แนวย้อนยุค

“นุ่นอยากลองเล่นภาพยนตร์ค่ะ และอยากลองเล่นภาพยนตร์แนวย้อนยุคอิงประวัติศาสตร์ อยากลองทำมากค่ะ”

  “นอกจากนี้ นุ่นยังมีอีกหนึ่งงานที่กำลังทำอยู่ และยังไม่ค่อยมีใครทราบมากนักก็คือการเป็นวิทยากรที่สอนด้านการสื่อสารค่ะ นุ่นเป็นคนที่พยายามแสวงหาโอกาสใหม่ ๆ ให้ตัวเองอยู่เสมอ ตามสโลแกน กล้าสักนิดแล้วชีวิตจะรุ่งค่ะ แต่ต้องกล้าในสิ่งที่ถูกต้องนะคะ”

ผ่อนคลายจิตใจด้วยการจัดดอกไม้

“การจัดดอกไม้คืองานศิลปะแขนงหนึ่งค่ะ ดอกไม้มีความสวยงาม และสามารถเรียกรอยยิ้มของเราได้โดยไม่ต้องตีความอะไรเลย บางคนอาจจะชอบสร้างงานศิลปะด้วยการวาดภาพ แต่ นุ่นเลือกที่จะจัดดอกไม้ เวลาเราปักดอกไม้แต่ละดอกลงไป มันคือการรังสรรค์งานศิลปะค่ะ”

“การเป็นผู้ประกาศข่าวทำให้เราต้องรับข่าวสารที่หลากหลาย ซึ่งแน่นอนว่า มันย่อมมีข่าวเชิงลบที่ส่งผลกระทบต่อสภาพจิตใจของเราอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และทำให้เราเครียดโดยไม่รู้ตัว”

“ดังนั้น นุ่นจึงเลือกใช้งานศิลปะช่วยเยียวยาจิตใจ ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือการจัดดอกไม้ ที่ทำให้เราได้อยู่กับตัวเอง และได้ทำสมาธิ ขัดเกลาใจ โดยเมื่อเราจัดดอกไม้จนเสร็จแล้ว มันก็จะกลายเป็นงานศิลปะของเราที่มีอยู่เพียงชิ้นเดียวในโลกค่ะ”

รูปร่างดีด้วยการออกกำลังกาย

“นุ่นดูแลรูปร่างด้วยการออกกำลังกายค่ะ ไม่ได้ดูแลเรื่องอาหารอะไรมากนัก หากนับจนถึงวันนี้ นุ่นออกกำลังกายอย่างจริงจังมาได้ 3 ปีแล้ว ต้องบอกก่อนว่า ก่อนหน้านี้ นุ่นไม่ชอบออกกำลังกายเลย แต่มันมีจุดเปลี่ยนก็คือ นุ่นไปเห็นนางแบบของแบรนด์ บุลการี ซึ่งเธอถ่ายแบบนาฬิกาข้อมือของบุลการี ปรากฏว่า ตอนเขายกแขนขึ้นมาแล้ว แขนเขาสวยมาก มันมีลายเส้นของกล้ามเนื้อที่ชัดเจน แต่ไม่ได้มีกล้ามโตขนาดนักเพาะกายนะคะ”

“นั่นจึงกลายเป็นแรงบันดาลใจที่ทำให้นุ่นเริ่มลุกขึ้นมาออกกำลังกายเพราะอยากมีแขนสวย ๆ เหมือนนางแบบบุลการีบ้าง อีกทั้งสมัยก่อน นุ่นก็จะเป็นคนตัวผอม ๆ ลีบ ๆ ไม่ได้มีกล้ามเนื้ออะไรเลย เราจึงตัดสินใจลุกขึ้นมาออกกำลังกายค่ะ”

ออกกำลังกายทั้งทีต้องปลอดภัยไม่มีโรคเป็นของแถม

“นุ่นเริ่มต้นออกกำลังกายด้วยการวิ่ง โดยจะไปลงวิ่งตามสนามต่าง ๆ เหมือนที่เขานิยมกัน แต่สุดท้ายการวิ่งก็ไม่ใช่เรื่องที่เราชื่นชอบเท่าไร ดังนั้นจึงตัดสินใจหันมาเล่นเวตเทรนนิง แต่เราก็ไม่มีทักษะหรือความรู้เรื่องนี้เลย เราจึงต้องอาศัยเทรนเนอร์”

“คำถามต่อมาก็คือเราจะไปออกกำลังกายที่ไหน ปัจจุบันมีฟิตเนสมากมาย แต่เราก็ต้องคัดกรองให้ดีทั้งเรื่องเทรนเนอร์ที่จะมาสอนเรา และสถานที่ที่เราจะไปออกกำลังกาย หลายครั้งที่มีข่าวว่า แทนที่ออกกำลังกายแล้วจะสุขภาพดี แต่กลับได้โรคภัยไข้เจ็บกลับมาแทนเพราะเราไปออกกำลังกายผิดวิธี เช่น ยกน้ำหนักแบบหนักเกินกำลังจนกลายเป็นมีปัญหาที่กระดูกสันหลัง หรือ กระดูกคอ เป็นต้น”

“ดังนั้น นุ่นจึงต้องระมัดระวังเรื่องนี้ และเลือกเทรนเนอร์ที่มีความรู้ความสามารถจริง ๆ เพื่อให้เราไม่ได้โรคกลับมาเป็นของแถม นุ่นก็เลยเลือกไปออกกำลังกายที่ “ศิริราช ฟิตเนส เซ็นเตอร์” และใช้เทรนเนอร์ของเขา ด้วยความที่ “ศิริราช” เป็นโรงพยาบาลที่มีชื่อเสียงอยู่แล้วเราก็เลยมั่นใจว่า ถ้าเป็นฟิตเนสของโรงพยาบาลต้องไม่มีการแถมโรคให้เราแน่นอน ขณะที่ตัวเทรนเนอร์เองก็ต้องมีความรู้ และผ่านการฝึกอบรมมาเป็นอย่างดี”

ความเปลี่ยนแปลงหลังออกกำลังกาย

“ตอนนี้ นุ่นออกกำลังกายอย่างจริงจังมาได้ 3 ปีแล้ว โดยจะออกกำลังกาย 3 วันใน 1 สัปดาห์ ครั้งละ 1 ชม.ขึ้นไป และส่วนใหญ่จะเน้นไปที่การเล่นเวตมากกว่าการคาร์ดิโอหลังออกกำลังกายได้ 3 เดือน เราก็จะเริ่มมองเห็นความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับตัวเอง”

“อย่างแรกเลยก็คือเรื่องรูปร่าง จากที่เคยเป็นคนตัวผอม ๆ ลีบ ๆ ก็จะมีกล้ามเนื้อ และมีทรวดทรงมากขึ้น แขนเราก็เริ่มมีมิติเวลายกขึ้นมาก็มองเห็นกล้ามเนื้อเป็นริ้ว ๆ เหมือนงานศิลปะ เหมือนรูปปั้นชาวกรีกในยุโรปประมาณนั้น เวลาเราใส่เสื้อผ้าเราก็จะมั่นใจมากขึ้น บุคลิกภาพดีขึ้น หลังเราตรงขึ้น โดยนุ่นให้โจทย์กับเทรนเนอร์ไปเลยว่า อยากได้กล้ามเนื้อตรงไหล่ ตรงแขน และแก้เรื่องหลังให้หน่อย”

“นอกจากนี้ทางศิริราช ฟิตเนส ยังมีการวัดค่าดัชนีมวลกาย และมวลกล้ามเนื้อทั้งก่อน และหลังออกกำลังกายเพื่อให้ทราบผลลัพธ์เป็นตัวเลขด้วย ไม่ใช่แค่วัดกันด้วยความรู้สึกอย่างเดียว เมื่อภายนอกเราดูดีมันจะส่งผลต่อภายใน มันทำให้เราเกิดความมั่นใจ และยังส่งผลต่อการทำงานเพราะเมื่อร่างกายเราสดชื่นก็จะทำงานได้มากขึ้น และมีประสิทธิภาพมากขึ้นค่ะ ส่วนเรื่องสุขภาพมันก็ช่วยให้อาการปวดหัว ซึ่งมักจะเป็นหลังอ่านข้อมูลเยอะ ๆ หายไปด้วยค่ะ”

สุดท้ายฝากอะไรถึงแฟนคลับ และคุณผู้อ่านหน่อยครับ

“ขอบคุณแฟนคลับของนุ่นทุกคนที่ชื่นชอบและติดตามผลงานของนุ่นมาตลอดสุดท้ายนุ่นขออวยพรให้แฟนคลับและผู้อ่านของเดลินิวส์ทุกคนมีความสุขมาก ๆ เหนือสิ่งอื่นใดก็คือขอให้ทุกคนมีสุขภาพใจและสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง เพราะนี่คือสิ่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตของมนุษย์แล้วค่ะ.

เรื่อง : ประพนธ์ ปัญหา ภาพ : ชุติมา พึ่งความสุข

ชื่อ : ชุติมา พึ่งความสุข
ชื่อเล่น : นุ่น
วันเกิด : 6 ม.ค.
ภูมิลำเนา : ปทุมธานี
การศึกษา : คณะมนุษย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
อาหารโปรด : ชาบู
งานอดิเรก : จัดดอกไม้, ออกกำลังกาย
ช่องทางการติดตาม : FB : Chutima Pungkhwamsook, IG : noon_chutima9, TikTok : noon_chutima9