ก่อนหน้านี้สื่อใหญ่ทั้ง เดลินิวส์ และเครือมติชน จับมือกันร่วมสำรวจ ’โพลเดลินิวส์ X มติชน : รัฐบาลเศรษฐาควรแก้ปัญหาอะไร?“ให้ประชาชนทั่วประเทศได้ร่วมกิจกรรมผ่านทางออนไลน์เสร็จสิ้นไปเดือนที่แล้ว ผลโหวตส่วนใหญ่ออกมาคือ ประชาชนอยากให้เร่ง แก้ปัญหาเศรษฐกิจ-ปากท้อง มากถึงร้อยละ 60.2

ปัญหาเศรษฐกิจ-ปากท้อง ที่ประชาชนอยากให้รัฐเร่งแก้นั้นไล่เรียงตามลำดับ

  1. อยากให้ลดค่าน้ำ-ค่าไฟ-ค่าน้ำมัน (ร้อยละ 25.4)
  2. แก้ปัญหาหนี้สินครัวเรือน-หนี้สาธารณะ (ร้อยละ 20.6)
  3. แก้ปัญหาการเกษตร (ร้อยละ 16.9)
  4. แจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท (ร้อยละ 15.6)
  5. เพิ่มค่าแรงขั้นต่ำและเงินเดือนปริญญาตรี (ร้อยละ 15.1)

ตลอดช่วง 1-2 สัปดาห์ หลังจาก นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เข้ามาบริหารประเทศได้ 3 เดือนเต็ม เห็นความมุ่งมั่นจริงจังในการทำงาน ขับเคลื่อนการทำงานตามนโยบายต่างๆเป็นชิ้นเป็นอันมากขึ้น!! สัปดาห์ที่แล้ว คิกออฟ “ลุยแก้หนี้นอกระบบ” ยกให้เป็นวาระสำคัญของชาติ ได้มอบนโยบายและแนวทางการแก้ไขปัญหาให้กับฝ่ายปกครอง-ตำรวจ รวมถึงหน่วยงานเกี่ยวข้อง ตั้งเป้ากำหนดกรอบเวลาดำเนินคดีให้เร็วที่สุด

นับเป็นจังหวะที่ดีกำลังใกล้จะส่งท้ายปีกระต่าย วันพุธ 13 ธ.ค. 66 เดลินิวส์จัดงาน Dailynews Talk 2023 “คนไทยถาม นายกฯ เศรษฐาตอบ” ณ ห้องแกรนด์บอลรูม โรงแรมอินเตอร์คอนดิเนนตัล ราชประสงค์ ตั้งแต่เวลา 09.00-13.00 น. โดย
นายกฯเศรษฐา จะเดินทางมาตอบปัญหาด้วยตนเอง นอกจากนี้ยังมีเสวนาพิเศษ หัวข้อ “เศรษฐกิจไทยต้องไปต่อ (อย่างไร)” กับ 3 ประธานสภา ด้านอุตสาหกรรม-อุตสาหกรรมท่องเที่ยว-ธุรกิจตลาดทุน ติดตามชมไลฟ์สดได้ทาง เดลินิวส์ออนไลน์ YouTube : DailynewsOnline และ Facebook : Dailynews – เดลินิวส์ออนไลน์

สารพันปัญหายังมีอีกหลากหลายเรื่อง ทั้งด้านเศรษฐกิจ และสังคม 8-9 ปีที่ผ่านมา สมัยรัฐบาลประยุทธ์ ที่ชูธงปฏิรูปประเทศแต่ก็ไม่สามารถแก้ไขได้สำเร็จลุล่วง หนำซ้ำบางเรื่องยังเหมือนถูกซุกอยู่ใต้พรม โดยเฉพาะ ปัญหาทุจริตของข้าราชการ มีหลากหลายหน่วย จนทำให้คนในหน่วยงานเองทนดูไม่ไหว เริ่มทยอยออกมาตีแผ่

คดีใหญ่ล่าสุด ชนวนเหตุร้องเรียน ผ่าน ‘บัตรสนเท่ห์’ ด้วยมีรายชื่อหนึ่งรายชื่อ อยู่ที่ฝ่ายบริหาร สถาบันชีววิทยาศาสตร์ทางการแพทย์ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ดำเนินการจัดซื้อวัสดุ โดยวิธีเจาะจงกับร้านที่ร่วมกระทำความผิดบ่อยครั้ง แต่ละครั้งยอดนั้นไม่เกิน 100,000 บาท ที่อยู่ของร้านนั้น อยู่ที่เดียวกับบ้านของผู้ที่กระทำความผิดรายนี้ ขอให้ช่วยไปดำเนินการตรวจสอบให้หน่อย“ จากบัตรสนเท่ห์เพียง 4 บรรทัด แต่รายละเอียดชี้เป้าค่อนข้างชัดเจน และทางผู้ใหญ่ในกระทรวงสาธารณสุข ไม่ได้มองข้ามประสานทางลับกับหน่วยงานเกี่ยวข้อง ทั้ง ตำรวจ ปปป. เจ้าหน้าที่ ป.ป.ท., ป.ป.ช. และ ปปง. จนทำให้จับกุม นักวิชาการพัสดุ พร้อมลูกสาว จนท.พัสดุที่เดียวกัน และลูกเขยเปิดบริษัทฯ ร่วมกันโกงเงินหลวง

แม้ทาง นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รมว.สาธารณสุข จะตื่นตัวสั่งสังคายนาทั้งระบบ เร่งตรวจสอบเรื่องจัดซื้อจัดจ้างแต่ละกรมกองต่าง ๆ ของสาธารณสุขว่า มีรูรั่วตรงไหนอย่างไร แต่ก็เป็นเรื่องน่าฉงนทำไมการทุจริตของครอบครัวนักวิชาการพัสดุ สามารถผ่านหูผ่านตา ระบบการตรวจสอบของกรม กอง หน่วยงานต่าง ๆ มานานหลายปี

คดีนักวิชาการพัสดุ รวมหัวลูกสาวและลูกเขย วางแผนโกงจัดซื้อนับเป็นเรื่องใหญ่ ทุกกระทรวงต้องปัดฝุ่นตรวจสอบจริงจังเข้มข้น หรือลองไปสุ่มตรวจย้อนหลังดู กรม กองไหนบ้าง? ทำไมชอบเซ็นสั่งซื้อพัสดุ ตัวเลขแค่ 499,999 บาท

เชื่อว่าหลังจากมี ‘บัตรสนเท่ห์’ 4 บรรทัด ช่วยจับโกงเงินหลวงได้เช่นนี้ ถ้า “นายกฯเศรษฐา” จะทดลองเปิดตู้ปณ. รับแจ้งเบาะแส ข้าราชการทุจริตโกงเงินหลวงโดยตรง ไม่แน่บรรดาข้าราชการชั้นผู้น้อย ส่งข้อมูลดี ๆ ไปให้ไม่ขาดสายก็ได้!!

—————–
เชิงผา