ผ่านพ้น 3 เดือน การเข้ามาทำงานบริหารประเทศของรัฐบาล “เศรษฐา1” ที่นำทัพโดย นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ถือว่ากำลังเริ่มเข้มข้นขึ้นเรื่อย ๆ จากความหวังเข้ามารับงานต่อ รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้นำที่มาจากรัฐประหาร นำรัฐนาวา 9 ปีเต็ม แต่ก็ไม่สามารถปฏิรูปประเทศได้ตามที่วาดฝัน

รัฐบาล เศรษฐา1 นับเป็นอีกความหวังของหลาย ๆ ภาคส่วน หลังจาก “ทหาร” ยึดอำนาจเข้ามาบริหารประเทศ แม้จะสามารถกุมอำนาจได้ค่อนข้างเบ็ดเสร็จโดยเฉพาะด้านความมั่นคง แต่สารพันปัญหามากมายไม่ว่าจะเป็นสังคม เศรษฐกิจ และการเมือง ก็ยังสะสางไม่เป็นรูปธรรม เมื่อมาถึงยุครัฐบาลพลเรือน ได้นายกรัฐมนตรี ที่ประสบผลสำเร็จมาจาก นักบริหารโดยตรง รูปแบบการทำงาน 3 เดือนแรกเริ่มเห็นความแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง แม้จะอยู่ในช่วงเวลาของการปรับตัว แต่เสาร์-อาทิตย์ นายกฯแทบจะไม่หยุดพักใส่เกียร์เดินหน้าบริหารให้เป็นไปตามนโยบาย

เศรษฐา ทวีสิน พบประชาชนคนเสื้อเเดง

จะว่าเป็นโอกาสดีของรัฐบาลก็พอได้ ที่ไม่ต้องไปไล่สอบถามประชาชน เมื่อสื่อใหญ่ทั้ง เดลินิวส์ และ เครือมติชน จับมือกันร่วมสำรวจ “โพลเดลินิวส์ X มติชน : รัฐบาลเศรษฐาควรแก้ปัญหาอะไร?” ให้ประชาชนทั่วประเทศได้ร่วมกิจกรรมผ่านทางออนไลน์ของทั้ง 2 สื่อไปเดือนที่แล้ว เมื่อปิดรับโหวต ข้อมูลระบุ ประชาชนอยากให้เร่งแก้ปัญหาเศรษฐกิจ-ปากท้อง มากถึงร้อยละ 60.2 ส่วนให้แก้ปัญหาการเมือง-ปฏิรูปโครงสร้างสังคมอยู่ที่ (ร้อยละ 39.8) เท่านั้น สำหรับปัญหาเศรษฐกิจ-ปากท้อง ที่ประชาชนอยากให้รัฐเร่งแก้นั้นไล่เรียงตามลำดับ 1.อยากให้ลดค่าน้ำ-ค่าไฟ-ค่าน้ำมัน(ร้อยละ 25.4) 2.แก้ปัญหาหนี้สินครัวเรือน-หนี้สาธารณะ (ร้อยละ 20.6) 3.แก้ปัญหาการเกษตร (ร้อยละ 16.9) 4.แจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท (ร้อยละ 15.6) 5.เพิ่มค่าแรงขั้นต่ำและเงินเดือนปริญญาตรี (ร้อยละ 15.1) และ 6.ปัญหาอื่น ๆ (ร้อยละ 6.3)

แจกเงินดิจิทัลฯ แม้จะอยู่ในกลุ่มปัญหาเศรษฐกิจ-ปากท้อง แต่ได้รับความสนใจมาอันดับ 4 เท่านั้น ไม่ใช่ปัญหาแรก ๆ ที่ประชาชนอยากให้รัฐบาลเร่งแก้!!

สัปดาห์ที่แล้ว สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เปิดเผยถึง เศรษฐกิจไทยในไตรมาสที่สาม ของปี 2566 ขยายตัวร้อยละ 1.5 เทียบกับการขยายตัวร้อยละ 1.8 ในไตรมาสที่สองของปี 2566 ด้านการใช้จ่าย การอุปโภคบริโภคภาคเอกชนขยายตัวในเกณฑ์สูง การลงทุนภาคเอกชนขยายตัวต่อเนื่อง ส่วนการส่งออกสินค้า การอุปโภคของรัฐบาลและการลงทุน ภาครัฐปรับตัวลดลงต่อเนื่อง ด้านการผลิต สาขาที่พักแรมและบริการด้านอาหาร และสาขาการขนส่งและสถานที่เก็บสินค้าขยายตัวในเกณฑ์สูง สาขาเกษตรกรรม สาขาการขายส่งและการขายปลีก การซ่อมยานยนต์และจักรยานยนต์ และสาขาการก่อสร้างขยายตัว ส่วนสาขาการผลิต สินค้าอุตสาหกรรมลดลงต่อเนื่อง

เมื่อปรับผลของฤดูกาลออกแล้ว เศรษฐกิจไทยในไตรมาสที่สามของปี 2566 ขยายตัวจากไตรมาสที่สองของปี 2566 ร้อยละ 0.8 รวม 9 เดือนแรกของปี 2566 เศรษฐกิจไทยขยายตัวร้อยละ 1.9 (ขณะที่ข้อมูลของปีที่แล้ว 9 เดือนแรก ของปี 2565 เศรษฐกิจไทยขยายตัวร้อยละ 3.1 และมองแนวโน้มเศรษฐกิจไทยปี 2566 คาดว่าจะขยายตัวในช่วงร้อยละ 3.0-4.0)

ตัวเลขข้อมูล เศรษฐกิจไทยไตรมาสที่สาม ของปี 2565 และปี 2566 ลดลงอย่างเห็นได้ชัด! เรียกว่ารัฐบาลเศรษฐา ผ่านพ้น 3 เดือน คง หมดเวลาฮันนีมูน แล้ว นอกจากปัญหาเศรษฐกิจที่รอให้เร่งแก้แล้ว ตอนนี้มีสารพัดปัญหาทั้ง หมูเถื่อน, แก๊งคอลเซ็นเตอร์, หนี้นอกระบบ, อาชญากรอาชีวะ ไม่เว้นแม้คดี ’เสี่ยแป้งนาโหนด“ หนีคุกออกมาขอความเป็นธรรม ฯลฯ

ถือว่าเป็นปัญหาใหญ่กำลังเกิดขึ้นในช่วงนี้ เชื่อว่าสังคมไทย กำลังจับจ้องมอง ฝีมือการบริหารงานรัฐบาลที่มาจากพลเรือน จะประเดิมโชว์ผลงานแก้ไขเรื่องไหนได้สำเร็จเป็นรูปธรรม ให้เห็นบ้าง!!

—————————
เชิงผา