นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดี และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยผลสำรวจทัศนะผู้บริโภค 1,240 ตัวอย่างทั่วประเทศ ระหว่างวันที่ 14-20 พ.ย.66 เกี่ยวกับโครงการแจกเงินดิจิทัล วอลเล็ต 10,000 บาท ของรัฐบาลเศรษฐา ทวีสิน ว่าประชาชนมากถึง 77.3% เห็นด้วยที่รัฐบาลจะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการแจกเงินดิจิทัล และมากถึง 94.4% อยู่ภายใต้เงื่อนไขได้รับเงินดิจิทัล

ขณะที่ นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่ากรณีนายเศรษฐาห่วงเศรษฐกิจไทยแย่กว่าที่คิด เข้าขั้นวิกฤติ!

หลังจาก “สภาพัฒน์” รายงานตัวเลขเศรษฐกิจ (จีดีพี) ไตรมาส 3 ปี 66 เติบโตเพียง 1.5% ว่าจากข้อมูลดังกล่าวมุมมองส่วนตัวคิดว่าเศรษฐกิจไทยอยู่ในภาวะเปราะบางอย่างมาก จำเป็นต้องเร่งผ่าโครงสร้างเศรษฐกิจ เพราะต้องเผชิญทั้งปัจจัยภายนอก คือเศรษฐกิจโลกชะลอตัว สงครามในหลายพื้นที่ของโลก เป็นปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ที่ต้องจับตาใกล้ชิด

ปัจจุบันเอกชนกังวลเรื่องงบประมาณปี 67 ที่ล่าช้า คาดว่าจะเลื่อนออกไปถึง 8 เดือน คือใช้งบฯ ปี 67 ได้ประมาณเดือนพ..-มิ.. 67 ทำให้ไม่มีงบเข้ามากระตุ้นเศรษฐกิจ ดังนั้นการแจกเงินจำเป็นต่อเศรษฐกิจไทย แต่ต้องเป็นไปตามกฎหมาย แต่หากสะดุด ทำไม่ได้ ต้องมีนโยบายอื่นเข้าแทนที่ทันที!

เนื่องจากปัจจุบันหนี้ครัวเรือนไทยพุ่งสูงระดับ 90.6% ทั้งการลดค่าครองชีพ และการเพิ่มเงินในกระเป๋าจึงจำเป็นสำหรับรัฐบาลในการกระชากเศรษฐกิจได้เร็วและแรงที่สุด แม้จะมีหน่วยงานข้อมูลบางแห่งระบุว่ากำลังซื้อฟื้นตัว มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจบางมาตรการอาจไม่จำเป็นในช่วงนี้

แต่ต้องดูในเชิงลึกว่าข้อมูลที่ออกมา สำรวจเฉพาะกรุงเทพฯหรือไม่ เนื่องจากพื้นที่กรุงเทพฯ หากดูแต่ในห้างฯ-ร้านอาหาร ผู้คนไปใช้บริการเต็ม-แน่น แต่ไม่สามารถชี้วัดเศรษฐกิจไทยภาพรวมได้ ต้องดูพื้นที่ต่างจังหวัดด้วย แต่เท่าที่สอบถามในต่างจังหวัดพบว่ากำลังซื้อค่อนข้างเงียบ สะท้อนว่าต้องการเม็ดเงินมากระตุ้นเศรษฐกิจจริงๆ

ส่วนนายอนุชาติ ดีประเสริฐ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอพเพิล ออโต้ ออคชั่น (ไทยแลนด์) จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจประมูลรถยนต์รายใหญ่ของประเทศ แจ้งภาพรวมตลาดประมูลรถทั้งระบบในปัจจุบันถือว่ายังคงคึกคัก เนื่องจากประเภทรถในตลาดมีความหลากหลาย ทั้งรถเก๋ง รถกระบะ และรถเพื่อการเกษตร

โดยช่วง 9 เดือนแรกของปี 66 มีรถยึดเข้าลานประมูลทั้งระบบประมาณ 25,000-27,000 คันต่อเดือน มูลค่าตลาดประมาณ 5,000–6,000 ล้านบาทต่อเดือน

.

พยัคฆ์น้อย” เห็นข่าวสารเหล่านี้ในรอบสัปดาห์ ก็ต้องบอกไปยังข้าราชการระดับสูงที่กินเงินเดือนหลายหมื่นบาท รวมทั้ง สส.-สว. ที่มีรายได้เกิน 1 แสนบาทต่อเดือน และผู้บริหารธนาคารแห่งประเทศไทยที่มีรายได้เดือนละหลายแสนบาท ต้องยืนอยู่ในจุดที่ใกล้โลกของความเป็นจริง

ควรหมั่นไปเดินสำรวจในตลาดสด ตลาดนัด และบรรยากาศการค้าขาย การจับจ่ายใช้สอยของผู้คนในต่างจังหวัดว่ามีสภาพเป็นอย่างไร? คนส่วนใหญ่ในประเทศมีกำลังการซื้อหรือไม่? เพราะโลกของความเป็นจริง ณ ขณะนี้ คือตัวเลขรถถูกยึดเข้าลานประมูลทั้งระบบประมาณ 25,000-27,000 คันต่อเดือน มันน้อยเสียที่ไหนเล่า! แล้วถ้าปล่อยไปเรื่อย ๆ อีก 4-5 เดือน คงถูกยึดเกิน 1 แสนคัน

“สภาพัฒน์” ประกาศจีดีพีไตรมาส 3 ขยายได้เพียง 1.5% น้อยกว่าไตรมาส 2 ที่ขยายตัวได้ 1.8% รวม 9 เดือนแรกของปี 66 เศรษฐกิจไทยขยายตัวได้เพียง 1.9%

แต่ “สภาพัฒน์” ยังคงคาดการณ์เศรษฐกิจทั้งปี 66 จะขยายได้ 2.5% ซึ่งไม่น่าจะทำได้จริง เพราะถ้าเป็นเช่นนั้นในไตรมาส 4 จะต้องขยายตัวอย่างน้อย 4.3% แต่จากแนวโน้มปัจจุบัน แทบเป็นไปไม่ได้เลย!!.

—————–

พยัคฆ์น้อย