สัปดาห์ที่แล้ว เชิงผา เขียนเรื่องราวของ หัวอกผู้เป็นแม่ ที่ต้องมาสูญเสีย ครูสาว โรงเรียนเอกชน จบชีวิตแบบไม่คาดฝัน ตกเป็นเหยื่อลูกหลงจากคมกระสุนของ กลุ่มนักศึกษา 2 สถาบัน ไล่ล่ายิงกันไม่ยำเกรงกฎหมาย บริเวณริมถนนสุนทรโกษา เขตคลองเตย

พฤติกรรมผู้ก่อเหตุ โหดเหี้ยมเกินวัย เหยื่อกระสุนอีกรายเป็นนักศึกษา ชั้นปี 1 วัย 19 ปี แม้ถูกยิงไปกองอยู่กับพื้นหมดทางสู้แล้ว ฝ่ายตรงข้ามยังตะโกนสั่ง ’ยิงให้ตาย“ จึงถูกจ่อยิงแบบเผาขนอีกหลายนัด บาดเจ็บสาหัสรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ เพิ่งจะมาเสียชีวิตเมื่อตอนค่ำ ๆ วันอาทิตย์ 19 พ.ย.ที่ผ่านมา

จากใจหัวอกของผู้เป็นแม่ ร่ำไห้แทบจะเป็นสายเลือด เสียงคำถามยังดังสะท้อนไปถึงผู้ก่อเหตุ ’ลูกชายไปทำอะไรให้ ทำไมไม่ต่างคนต่างเรียนเพื่ออนาคต“

ปัญหาขัดแย้งระหว่างสถาบันของกลุ่มอาชีวะ ปัจจุบันยังไม่เห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ แม้จะมีการระดมสมองพยายามนำเสนอหลากหลายแนวคิดในวิธีการช่วยกันแก้ปัญหามาตลอด พอเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้มงวดกวดขันกันสักระยะ พอเรื่องสงบเงียบหายไป ปัญหาก็ย้อนกลับมาใหม่ วนเวียนเหมือนเดิมไม่รู้จบสิ้น

คดียิงนักศึกษาอย่างโหดร้ายใจกลางกรุง ตำรวจนครบาล ยังติดตามจับกุมผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีไม่ได้ ที่สำคัญการสืบสวนยังพบ กลุ่มนักศึกษา พฤติกรรมแทบไม่แตกต่างจาก มือปืนรับจ้าง วางแผนทั้งอำพรางใบหน้า ใช้ทะเบียน จยย.ปลอม แถมยังเปลี่ยนเสื้อผ้า เปลี่ยนสีรถ จยย. ขณะหลบหนี ฯลฯ

บิ๊กต่อ-พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. ถึงขั้นมองว่า พฤติกรรมการก่อเหตุวางแผนเป็นขั้นเป็นตอน มีการหมายหัว เป้าหมายชัดเจนเช่นนี้ เปรียบได้กับรูปแบบ “องค์กรอาชญากรรม” กลุ่มเล็ก ไม่ใช่นักศึกษาแล้ว

ถึงแม้ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะออกโรง เล็งคาดโทษ ให้เวลาระดับ ผู้บังคับการจังหวัด ทั่วประเทศแต่ละพื้นที่ไปจัด ทำแผนเผชิญเหตุ ร่วมกับ ผกก.โรงพัก และ หัวหน้าสถานี โดยเฉพาะในพื้นที่กรุงเทพมหานคร สมุทร ปราการ และนนทบุรี มักจะเกิดเหตุลักษณะนี้บ่อยครั้ง หากจัด แผนเผชิญเหตุ-วางมาตรการป้องกันแล้ว แต่ยังเกิดเหตุซ้ำต่อเนื่องไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ ผู้บังคับการจังหวัด จะต้องมีส่วนรับผิดชอบด้วย

ระหว่างตำรวจทำแผนเผชิญเหตุ นักเรียนนักเลงยุคนี้ เหมือนไม่ยำเกรงกฎหมายบ้านเมือง เช้าวันจันทร์ 20 พ.ย. เกิดเหตุ นักเรียนเทคนิค ปวช. ชั้นปี 2 ถูกบุกยิงเสียชีวิตขณะเดินทางกำลังใกล้จะถึงสถาบันตัวเอง ภายในซอยระนอง 2 เขตดุสิต วงจรปิดจับภาพวินาทีชีวิตเอาไว้ได้เหมือนเดิม พ่อกับแม่ที่รู้ข่าวรีบมาทันที พอเห็นร่างลูกชายนอนไร้ลมหายใจอยู่ริมถนน ผู้เป็นแม่ถึงกับเข่าอ่อนทรุด เรียกว่าสภาพจิตใจคงไม่แตกต่างจากมารดาของผู้สูญเสียก่อนหน้านี้ กลายเป็นว่าเพียงแค่สัปดาห์เศษ ๆ มารดาถึง 3 คน ต้องมาสูญเสียลูกไปแบบไม่มีวันหวนคืน!!

ในเมื่อยังมี ’บางกลุ่ม“ ที่ปลูกฝังให้ยึดติด ค่านิยมผิดเพี้ยน ต่างสถาบัน ต่างสีเสื้อ แล้วไล่เข่นฆ่าล้างแค้นกันแบบไม่สนบ้านเมืองเช่นนี้ ถือว่าจากชีวิต นักศึกษา นักเรียนช่าง กลุ่มนี้ได้เลือกเป็น ’อาชญากร“ กล้าลงมือก่อเหตุอุกอาจร้ายแรงถึงขั้นฆ่าคนตาย

จุดจบของนักศึกษา นักเรียนช่าง นักเรียนนักเลงที่ตัดสินใจเลือกเดินทางนี้ ต้องยอมรับชะตากรรม ปลายทางของเหล่าอาชญากรทั้งหลาย บทสรุปสุดท้าย คงมีให้เลือกไม่กี่ทางเท่านั้น ถ้าไม่บาดเจ็บ พิการ เสียชีวิต ก็ต้องไปชดใช้กรรม หมดอนาคตอยู่ในคุก!!

—————
เชิงผา