วินเซนต์ โทลแมน นักเขียนหนุ่มอเมริกันจากรัฐเท็กซัส เล่าว่าเขาเคย “ตาย” ไปแล้วครั้งหนึ่งในคืนอันหนาวเหน็บของเดือนม.ค. 2545 บนพื้นห้องน้ำของร้านอาหาร
เขากับเพื่อนอีกคนกินยาบางอย่างที่ซื้อมาจากเว็บไซต์ แต่ในนาทีที่พวกเขาเสพยานั่นเข้าไป พวกเขาก็รู้ว่ามีบางอย่างไม่ปกติ
ชายหนุ่มทั้งสองมุ่งหน้าไปยังร้านอาหารที่ใกล้ที่สุด หวังว่าการกินอาหารลงไปจะช่วยให้พวกเขารู้สึกดีขึ้น
แต่แล้ว โทลแมน กลับรู้สึกคลื่นไส้ เขาขังตัวเองไว้ในห้องน้ำแคบ ๆ รู้สึกหนาวไปทั่วร่าง จากนั้นก็เหมือนทุกอย่างหมุนได้รอบตัวเขา
โทลแมน ล้มลงกับพื้น และมารู้ตัวอีกทีเมื่อเขา “มองลงมาจากมุมสูง” เห็นร่างชายคนหนึ่งกองอยู่กับพื้นห้องน้ำ เขายังรอดูทีมกู้ชีพรีบวิ่งเข้ามาตรงจุดที่ร่างนั้นนอนอยู่และเริ่มกระบวนการปฐมพยาบาลและกู้ชีพ
โทลแมน บอกว่าในตอนแรกเขาจำร่างของตัวเองไม่ได้ มันดูไม่เหมือนร่างของเขา ใบหน้าเขียวคล้ำและมีจุดสีเหลืองเปื้อนดูเหมือนศพปลอมในความรู้สึกของเขา
ทีมกู้ชีพพยายามช่วยชีวิตเขาอยู่ครู่ใหญ่ แต่ในที่สุดพวกเขาก็ยอมแพ้และนำร่างของ โทลแมน ใส่ถุงใส่ศพสีเหลืองสด แล้วแบกกลับไปยังรถพยาบาล
โทลแมน เล่าว่าเขาติดตามร่างในถุงใส่ศพไปด้วยขณะที่รถพยาบาลแล่นออกจากที่เกิดเหตุ เดินทางราว 45 นาทีจึงไปถึงโรงพยาบาล จากนั้น เจ้าหน้าที่แพทย์คนหนึ่งซึ่งเพิ่งมาทำงานเป็นสัปดาห์แรกก็ตัดสินใจที่จะลองเช็คสัญญาณชีพของเขาอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ
หลังจากตรวจสอบอยู่หลายนาทีและเช็คซ้ำสองรอบ เจ้าหน้าที่คนนั้นก็บอกว่าเขาจับชีพจรของ โทลแมน ได้ที่บริเวณต้นขา แต่ว่ามันเต้นอ่อนมาก จากนั้นเขาก็เริ่มให้ออกซิเจนเข้าปอดของ โทลแมน และเปิดใช้เครื่องกระตุกหัวใจด้วยไฟฟ้า
ในการ “ช็อต” หัวใจครั้งที่ 2 ก็มีสัญญาณว่าหัวใจของ โทลแมน กลับมาเต้น 1 ครั้ง และในการช็อตครั้งที่ 3 หัวใจของชายในถุงใส่ศพก็กลับมาเต้นเป็นจังหวะ แม้ว่าจะอ่อนแรงมากก็ตาม
ระหว่างที่ทีมงานเข็นร่างของ โทลแมน เข้าไปในโรงพยาบาล ร่างของเขาชักกระตุกและเริ่มอาเจียน จนต้องสวมสายรัดแขนและขาให้ติดอยู่กับเตียง ซึ่งเป็นจังหวะที่ โทลแมน เริ่มสัมผัสความรู้สึกได้ว่ามีคนจับแขนของเขา
ในทันใดนั้นเองที่เขารู้ว่า ร่างที่เขาตามดูมาตลอดทางนั้นคือร่างของเขาเอง
โทลแมน เล่าว่ามันเป็นความรู้สึกไม่น่าอภิรมย์นักที่ได้ดูตัวเอง “ตาย” มาตลอดเวลาเกือบชม.
ชายหนุ่มตกอยู่ในภาวะ “โคม่า” อยู่ 3 วัน ทีมแพทย์บอกว่าสมองเขาตายแล้ว และมีโอกาสรอดชีวิตน้อยมาก
แต่ในระยะเวลา 3 วันนั้น โทลแมน เชื่อว่าเขาได้เดินทางไปยัง “อีกโลกหนึ่ง” ได้พบกับความรู้สึกที่ดีงาม เจอทั้งความรักและความสวยงาม เขารู้ตัวดีว่ามัน “ยังไม่ถึงเวลา” สำหรับเขา ซึ่งต่อมาเขาก็นำเรื่องเหล่านี้ไปเขียนไว้ในหนังสือหลายเล่ม
หลังจาก 3 วันผ่านไป โทลแมน ก็ฟื้นขึ้นมา ร่างกายหายดีทุกประการ เขากลายเป็น “ปาฏิหาริย์” สำหรับทีมแพทย์
โทลแมน บอกว่าเขาเกิดในครอบครัวที่เคร่งศาสนาก็จริง แต่ไม่เคยเชื่อเรื่องวิญญาณและโลกหลังความตาย จนกระทั่งได้ประสบการณ์ตรงในครั้งนี้
นักเขียนหนุ่มใหญ่กล่าวว่า ประสบการณ์ตายแล้วฟื้นคราวนี้ไม่เพียงสอนให้เขาเข้าใจอย่างลึกซึ้งว่าคนเราเกิดมาเพื่ออะไร แต่ยังทำให้เขาไม่กลัวที่จะต้องตายไปสักวันหนึ่งอีกด้วย เพราะเขารู้ว่าเมื่อถึงเวลานั้น คนที่จากโลกนี้ไปจะได้เดินทางไปยังโลกใหม่ที่ดีกว่าโลกในตอนนี้มากนัก.
ที่มา : insider.com
เครดิตภาพ : GETTY IMAGES, Vincent Tolman
