@@@@ รัฐนิวเซาท์เวลส์พบผู้ป่วยโรคโควิด-19 ในท้องถิ่นรายใหม่ 1331 รายและเสียชีวิตอีก 6 รายในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา เมื่อวันศุกร์ที่ 17 กันยายน 2564 ในขณะที่รัฐเตรียมเข้าสู่สัปดาห์ที่ 13 ของการล็อกดาวน์ ผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 จำนวน 6 ราย Dr.Jeremy McAnulty จาก NSW Health ได้เปิดเผยตัวเลขผู้ป่วยรายใหม่ในวันนี้ในแถลงการณ์สั้นๆ ผ่านสตรีมสดของ Facebook เขาไม่รับคำถามจากสื่อ ในแถลงการณ์ของ NSW Health ระบุว่า ผู้เสียชีวิตล่าสุดประกอบด้วยผู้หญิง 4 คนและชาย 2 คนจากทางตะวันตกและทางตะวันตกเฉียงใต้ของซิดนีย์ ผู้เสียชีวิตรายหนึ่งอยู่ในวัย 40 ปี คนหนึ่ง 60 ปี อีกสองคน 70 ปี และอีก 2 คนอยู่ในวัย 80 ปี ผู้เสียชีวิต 3 ใน 6 รายไม่ได้รับวัคซีนมาเลย และ 3 รายได้รับวัคซีนโควิด-19 แค่โด๊สเดียว ข้อมูลที่เปิดเผยเมื่อวันเสาร์ทำให้จำนวนผู้ป่วย coronavirus NSW มีจำนวนมากกว่า 50,000 รายตั้งแต่เริ่มระบาด จำนวนวัคซีนทั้งหมดที่ถูกฉีดในรัฐนิวเซาท์เวลส์ตอนนี้คือ 8,720,728 โด้ส ดำเนินการโดย NSW Health เอง 3,138,957 โดส จนถึงเวลา 20.00 น. เมื่อคืนก่อน
ดร. McAnulty กล่าวว่า “ในรัฐนิวเซาท์เวลส์ ร้อยละ 81.2% ของประชากรที่มีอายุมากกว่า 16 ปีได้รับวัคซีนป้องกันโควิด-19 เข็มแรก และร้อยละ 50.6 ได้รับการฉีดวัคซีนครบถ้วนแล้ว นี่เป็นข่าวที่วิเศษมาก ย่านชานเมืองทางตะวันตกของซิดนีย์ซึ่งมีการแพร่กระจายของไวรัสรุนแรงที่สุด ผมต้องการบอกทุกคนย่านชานเมือใน suburb ต่างๆ ที่เราเห็นจำนวนผู้ป่วยสูงสุดเมื่อวานนี้ กลุมนี้ คือ Merrylands, Auburn, Guildford, Liverpool, Bankstown, Greenacre และ Punchbowl ให้ดูแลตัวเองดีดี” หัวหน้าแผนกสุขภาพของ NSW Health ชี้แจง ในขณะที่ตำรวจกำลังลาดตระเวนบริเวณสวนสาธารณะซิดนีย์เพื่อยุติการประท้วงต่อต้านการปิดเมืองตามแผน แม้ว่าจะมีข้อจำกัดด้านสาธารณสุขในปัจจุบันที่ห้ามไม่ให้มีการชุมนุมกลางแจ้งขนาดใหญ่
จำนวนผู้ป่วยรายใหม่ในวันนี้ เกิดขึ้นท่ามกลางคำเตือนการปิดเมืองในพื้นที่ที่น่ากังวลของรัฐบาลท้องถิ่น แม้ว่ารัฐจะครอบคลุมถึง 70% ของการฉีดวัคซีนครบสองครั้งแล้วก็ตาม ข้อจำกัดระดับกลางทั่วทั้งรัฐมีแนวโน้มที่จะขยายเวลาต่อไปในรัฐนิวเซาท์เวลส์ในอีกระยะเวลาหนึ่ง อย่างไรก็ตาม คำสั่งให้อยู่บ้านก็อาจอยู่ในข้อบังคับสำหรับ LGA บางส่วน หากจำนวนผู้ป่วย COVID-19 ในพื้นที่ยังไม่ลดลงอย่างมีนัยสำคัญในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า
ในขณะที่รัฐบาลนิวเซาท์เวลส์จะใช้ “ขั้นตอนสำคัญ” ในการใช้ชีวิตร่วมกับโรคโควิด-19 โดยอนุญาตให้ผู้ที่เดินทางกลับต่างประเทศบางรายกักตัวที่บ้านเมื่อกลับมายังซิดนีย์ได้แทนการกักตัวที่โรงแรม นางกลาดิส เบเรจิคเลียน มุขมนตรี ได้ออกแถลงการณ์เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาว่า กล่าวว่า “ในขณะที่รัฐนิวเซาท์เวลส์เข้าใกล้การที่เราจะได้เสรีภาพที่มากขึ้น ไม่มีอะไรจะทำให้เรามีความสุขได้มากไปกว่าการได้เห็นโรงแรมกลับต้อนรับนักท่องเที่ยว แทนที่จะถูกใช้เป็นสถานที่กักกัน” โคงการตัวอย่างนี้จะดำเนินการโดย NSW Health และทางตำรวจ จะอนุญาตให้ผู้ที่ได้รับวัคซีนครบโดส จำนวนประมาณ 175 คนกักตัวที่บ้านเป็นเวลา 7 วัน ปัจจุบันผู้ที่เดินทางกลับมาจากต่างประเทศในรัฐนิวเซาท์เวลส์ต้องกักตัวในโรงแรมเป็นเวลา 14 วัน ผู้เข้าร่วมโครงการนำร่องนี้ ซึ่งจะดำเนินการร่วมกับ รัฐบาลกลาง Commonwealth จะต้องเป็นวัคซีนป้องกันโควิด-19 ที่ได้รับการรับรองจาก TGA ทั้งสองโดส ผู้เข้าร่วมจะได้รับการคัดเลือกโดย NSW Health และจะรวมถึงผู้อยู่อาศัยในรัฐ NSW บางส่วน ผู้อยู่อาศัยที่ไม่ใช่ชาวออสเตรเลีย และลูกเรือของสายการบินแควนตัสบางส่วน
นาย Stuart Ayres รัฐมนตรีกระทรวงการท่องเที่ยวของ NSW อธิบายว่าการทดลองนี้เป็น “ขั้นตอนสำคัญ” ในแผนงานของรัฐในการใช้ชีวิตร่วมกับ COVID-19 “เราไม่สามารถปิดเมืองได้ตลอดไป เราต้องสามารถเรียนรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเมื่อเรากักตัวผู้คนที่บ้าน ซิดนีย์เป็นเมืองระดับโลกและต้องมีส่วนร่วมกับโลก สี่สัปดาห์ตามแผนนี้จะช่วยให้ชาวออสเตรเลียที่ไม่สามารถกลับบ้านได้ในช่วงการระบาดใหญ่ได้กลับเสียที นี่เป็นก้าวที่ยิ่งใหญ่และเป็นแสงสว่างสำหรับชาวออสเตรเลียทุกคนที่ยังตกค้างอยู่ต่างประเทศไม่สามารถกลับบ้านได้ เราต้องการช่วยโดยเร็วที่สุด แต่เราต้องการที่จะทำให้แน่ใจว่าเราจะทำเช่นนั้นได้อย่างปลอดภัย” เขากล่าว
ดร.โอมาร์ คอร์ชิด ประธานสมาคมการแพทย์ของออสเตรเลีย Australia Medical Association AMA ออกโต้แย้งโครงการนำร่องนี้ เมื่อเช้าวีนเสาร์นี้ โดยกล่าวว่า “โครงการนี้ยังคงมีข้อจำกัดบางประการ และความจำเป็นในการทดสอบ ติดตาม แยกตัว และกักกันอย่างสมบูรณ์ เพื่อหลีกเลี่ยงการปิดล็อคที่เข้มงวดและคนไข้ล้นโรงพยาบาลที่จะตามมา คือความเป็นจริงสำหรับซิดนีย์ในตอนนี้” ดร.คอร์ซิด กล่าวว่า เขามีความกังวลอย่างมากต่อระบบโรงพยาบาลของรัฐ ซึ่งเจ้าหน้าที่ทำงานหนักเกินไปแล้ว “แน่นอนว่าโครงการนี้ยังไม่ได้แสดงให้เห็นคือผลกระทบต่อโรงพยาบาล หากมีจำนวนผู้ป่วยเพิ่มขึ้นในชุมชน เพราะว่าประมาณ 10 เปอร์เซ็นต์ของผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้น บางคนต้องการโรงพยาบาล บางคนต้องการไอซียู และโรงพยาบาลของซิดนีย์ก็อยู่ภายใต้แรงกดดันที่ไม่ธรรมดาอยู่แล้ว” เขากล่าว “เจ้าหน้าที่สาธารณะสุขเสียขวัญ พวกเขาทำงานหนักเกินไป แน่นอนว่าบางคนกำลังป่วยและเราต้องระวังเรื่องนี้ในขณะที่เราวางแผนที่จะเปิดโครงการนี้ เพื่อการตอบสนองต่อทางการ ยกเลิกการกักกันตัวในโรงแรมสำหรับผู้เดินทางกลับต่างประเทศ ให้มากักตัวแทนที่บ้าน ปัญหาด้านลอจิสติกส์จำนวนหนึ่งจะต้องได้รับการแก้ไขกันเสียก่อน” ดร. คอร์ซิด กล่าว
ด้านรัฐวิคตอเรีย พบผู้ป่วย COVID-19 รายใหม่ในท้องถิ่นจำนวน 535 ราย เป็นสถิติสูงสุดรายวันนับตั้งแต่เริ่มมีการระบาดและผู้เสียชีวิตอีก 1 ราย ภายใน 24 ชั่วโมง และได้ทำการทดสอบ 61,622 ราย จนถึงเวลา 20.00 น. ของวันศุกร์ที่ 17 กันยายน 2564 และการติดตามการติดต่อของผู้ติดเชื้อใหม่ มีเพียง 62 รายเท่านั้นที่เชื่อมโยงกับผู้ป่วยที่ทราบหรือการระบาด ผู้หญิง Greater Shepparton ในวัย 70 เป็นบุคคลที่ 10 ที่เสียชีวิตด้วย COVID-19 ในการระบาดของเชื้อไวรัส Delta จนถึงปัจจุบัน รัฐวิคตอเรียในสัปดาห์นี้ผ่านเป้าหมายที่ต้องการให้ผู้ที่มีอายุ 16 ปีขึ้นไป ได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 อย่างน้อย 1 โดส ถึง 70% แล้ว
รัฐบาลนิวเซาท์เวลส์จะใช้ “ขั้นตอนสำคัญ” ในการใช้ชีวิตร่วมกับโรคโควิด-19 โดยอนุญาตให้ผู้ที่เดินทางกลับต่างประเทศบางรายกักตัวที่บ้านเมื่อกลับมายังซิดนีย์ได้แทนการกักตัวที่โรงแรม ในขณะที่รัฐวิคตอเรีย ทุบสถิติผู้ป่วยรานวันสูงสุดถึง 535 ราย
@@@@ เมื่อวันพุธที่ 8 กันยายน 2564 นายชาลี กาญจนกุญชร รองกงสุลใหญ่ รักษาราชการแทน กงสุลใหญ่ ณ นครซิดนีย์ ร่วมกับร้านอาหารชาติไทย ร้านแม่เช็ง ร้านพรทิพย์ และร้านเพื่อน Convenience Store ร่วมแจกอาหารและถุงยังชีพกว่า 300 ถุงแก่พี่น้องชาวไทย เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 สถานกงสุลใหญ่ฯ ขอขอบคุณชุมชนไทยและร้านค้าต่าง ๆ ที่ร่วมสนับสนุนและช่วยเหลือในการมอบสิ่งของแก่พี่น้องชาวไทยในครั้งนี้ด้วย สถานกงสุลใหญ่ฯ จะมุ่งดำเนินการให้ความช่วยเหลือแก่ชุมชนไทยในพื้นที่ต่าง ๆ และจะแจ้งให้ทราบต่อไป
สถานกงสุลใหญ่ ณ นครซิดนีย์ ร่วมกับร้านค้าในย่านไทยทาวน์ ร่วมแจกอาหารและถุงยังชีพกว่า 300 ถุงแก่พี่น้องชาวไทย เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 เมื่อวันพุธที่ 8 กันยายน 2564
@@@@ ฉบับนี้ ขอแนะนำ สาวนักบัญชีจากเพิร์ธ พลอย ปิยะธิดา เฮง เบญจมาศ จบ Bachelor of Business (Accounting) จาก Edith Cowan University เมื่อปี 2003 จบบัญชีที่ก็ทำงานด้านนี้มาโดยตลอด ตอนนี้ทำธุรกิจการบัญชีครบวงจรกับสามีชาวกัมพูชา ที่เป็นนักการบัญชีเช่นเดียวกัน เป็นแบบพาร์ไทม์นอกเวลา ในนามของ BP Tax & Accounting Services ปิยะธิดา เล่าว่า “ลูกค้าสามารถนัดเจอหรือคุยได้ตลอด พลอยพูดไทยชัดเจนคะ เชียนไทยได้ อ่านไทยได้ พลอยตามแม่มาอยู่ออสเตรเลีย ตอนอายุ 13 ขวบคะ มาตอน ม.2
เริ่มเรียน high school ที่นี่ year 8 จนจบมหาวิทยาลัยที่นี่ พลอยมีความสุขกับการได้ช่วยให้คนไทยที่นี่ได้เข้าใจเรื่องการทำธุรกิจ และเรื่องภาษีออสอย่างถ่องแท้ ลูกค้าคนไทยของพลอยมีอยู่ในหลายๆรัฐทั่วออสเตรเลีย และทุกคนที่ได้เข้ามาปรึกษาเรื่องบัญชีกับพลอยต่างก็รู้ว่า จะได้รับการอธิบายให้เข้าใจได้อย่างละเอียด ทำให้เรื่องที่เข้าใจยากกลายเป็นเรื่องง่ายๆได้”
ส่วนวันปกติ เธอก็ยังทำงานประจำอยู่กับบริษัท Aston Advantage ในตำแหน่ง Accountant ถึงแม้การทำงานตามสายทางที่ได้ร่ำเรียนมา แต่ก็ยังไม่ทิ้งความฝันของเธอและแม่ ครูแดง ภารดี เจริญธรรม ด้วยการมีแม่เป็นครูสอนนาฏศิลป์พลอยจึงได้ซึมซับเอามาเต็มๆ พลอยมีความรักในการร่ายรำไทย และฝึกฝนมาตั้งแต่เล็กแต่น้อย แทบว่าจะอยู่ในสายเลือด จึงทำให้เกิดความคิดที่จะสืบสานทางด้านนี้ต่อจากแม่ที่เริ่มจะไม่ค่อยแข็งแรง แม่ลูกร่วมกันตั้งใจก่อตั้งโรงเรียนรำไทยขึ้น จากความตั้งใจ จากความฝันที่อยากจะเผยแพร่วัฒนธรรมไทยในต่างแดนให้โด่งดังเป็นที่เลื่องลือ โรงเรียนดารานาฏศิลป์ไทย Dara Thai Dancing School จึงได้เกิดขึ้น ซึ่งชื่อของโรงเรียนก็ได้มาจากการนำชื่อของสองแม่ลูกมาผสมผสานกันนั่นเอง
ครูแดง ภารดี เล่าว่า “แดงจบจากวิทยาลัยครู มหาสารคาม เอกนาฏศิลป์ เป็นครูสอนที่เทศบาลกาฬสินธุ์มา 16 ปีก่อนย้ายมาอยู่ออสเตรเลียคะ เรียกง่ายๆคือเป็นคนกาฬสินธุ์โดยกำเนิดทั้งสองคนคะ พลอยนั้นเรียนนาฏศิลป์จากแม่เลยคะ ที่เขาเรียกกันว่าสายเลือดศิลปินกันมังคะ เขาชอบมากก็มาปรึกษากันว่า ตั้งโรงเรียนกันมั้ย ถงได้เกิดโรงเรียนนี้ขึ้นมา แต่จริงๆพลอยและแม่ก็สอนเด็กๆมาหลายปีแล้วคะ พาไปช่วยงานไทยที่โน่น นี่ นั่น กันมาตลอด งานไหนจะช่วยเผยแพร่ศิลปวัฒนธรรมไทยที่ไหนเราก็ไปช่วยคะ”
ปิยะธิดา เฮง เบญจมาศ สาวไทยในเพิร์ธ นักบัญชีที่ทำธุรกิจการบัญชีครบวงจรกับสามีที่ทำงานด้านนี้มาโดยตลอด ในนามของ BP Tax & Accounting Services รับปรึกษา เรื่องการทำธุรกิจ และเรื่องภาษี สำหรับคนไทยมานานปี
@@@@ โรงเรียนดารานาฏศิลป์ไทย Dara Thai Dancing School เปิดคลาสเรียนมาตั้งแต่เดื่อนมิถุนายนปี 2019 มีนักเรียนหมุนเวียนกันมา กำลังเติบโตขึ้นอย่างช้าๆ ครูพลอย เล่าว่า “นักเรียนที่เข้ามาเรียนก็มีหลากหลายชาติ เพราะมีจุดมุ่งหมายเดียวกันคือรักในสิ่งนี้ที่เรียกว่านาฏศิลป์ไทย ทั้งที่อยู่มาตั้งแต่ตัวแข็งมือแข็งจนตอนนี้รำไทยอ่อนช้อยขึ้น เราเปิดสอนรับตั้งแต่เด็กเล็กๆถึงผู้ใหญ่ ครูพลอยก็คิดค่าเรียนเด็กๆในราคาที่ย่อมเยาว์ และคลาสผู้ใหญ่ก็ให้เรียนกันฟรี! ดารานาฏศิลป์ไทยสอนให้ ขอแค่มีใจรัก รักในสิ่งเดียวกันคือวัฒนธรรมไทย เราสามารถสอนให้คุณทำได้ กล้าแสดงออก รำให้สวยถูกมาตรฐาน แล้วยังได้ผ่อนคลายและคลายความเครียดได้อีกด้วย ความสุขของครูพลอยและแม่ครูคือการได้เห็นการแสดงของนักเรียนเรา เสียงปรบมือคือสิ่งที่ทำให้เรามีกำลังใจก้าวต่อไป ห้องเรียนของเรา ที่ตอนนี้ใช้พื้นที่ในโรงรถของบ้านตกแต่งเป็นห้องเรียนเริ่มที่จะคับแคบด้วยจำนวนนักเรียนที่เพิ่มขึ้น ทางพลอยและแม่พร้อมด้วยนักเรียนทุกๆคน อยากขยับขยาย อยากได้ห้องเรียนที่ใหญ่กว่าเดิม จึงได้เกิดความคิดที่จะหารายได้ เพื่อที่จะได้สร้างห้องเรียนสไตล์ Garage Shed ขึ้นมาแทนที่ห้องเดิมที่เล็กและไม่มีที่พอเมื่อนักเรียนมาเรียนเต็มห้องเรียน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างก็มิใช่น้อย เราจึงมีความคิดที่จะจัดคอนเสิร์ตงานแสดงแบบดินเนอร์แดนซ์ขึ้นมา รายได้ทั้งหมดจะใช้ในการสร้างห้องเรียนของเรา นี่ก็อีกละคะ จะได้เท่าไหร่ก็ไม่รู้เลย แต่ไม่มีเสียคะ มีแต่ได้กะได้ ยังไงก็เหมือนเป็นการเฉลิมฉลองโรงเรียน ดารานาฏศิลป์ไทย ไปในตัว อย่างน้อยก็ให้เด็กๆได้มีเวทีการแสดงเป็นของตัวเอง และมีความรู้สึกว่าได้มีส่วนร่วมกับโรงเรียน ฉันก็เป็นคนจัดคอนเสิร์ตด้วยคนนะ”
โรงเรียนดารานาฏศิลป์ไทย Dara Thai Dancing School เปิดคลาสเรียนมาตั้งแต่เดื่อนมิถุนายนปี 2019 รับสอนนาฏศิลป์ให้กับเด็กและผู้ใหญ่ ตั้งขึ้นมาโดยครูพลอย ปิยะธิดา เบญจมาศ และคุณแม่ ครูแดง ภารดี เจริญธรรม ซึ่งเป็นครูสอนนาฏศิลป์ที่เมืองไทย มา 16 ปี
@@@@ เนื่องด้วยดารานาฏศิลป์ไทยมีการจดทะเบียนแบบธุรกิจขนาดเล็ก จึงยังไม่ได้มีการช่วยเหลือเรื่องเงินทุนจากหน่วยงานใดๆ ชุดเครื่องแต่งกาย เสื้อผ้าที่สวยงามทั้งหลายที่สั่งตรงมาจากประเทศไทยในการแสดงต่างๆ ล้วนเป็นทุนส่วนตัวทั้งสิ้น นึกอยากจะ
ช่วยสนับสนุนการสืบสานวัฒนธรรมไทยให้อยู่ต่อไป อยากสนับสนุน ไปดูการแสดงของเด็กรวมทั้งแขกผู้มีเกียรติที่ทางโรงเรียนได้เชิญมาร่วมแสดงบนเวที ในรายการ Dara Thai Dancing School Dinner Dance Concert จะมีขึ้นภายในวันเสาร์ที่ 11 ธันวาคม 2021 ที่ Vasto Club, 5 Vaston Place, Balcatta WA บัตรราคา $80 รวมอาหาร ภายในงานมีเครื่องดื่มจำหน่าย ท่านจะได้รับชมการแสดงมากมายทั้งโชว์รำไทยจากเหล่านักเรียน แฟชั่นโชว์ผ้าไทย ฟังเพลงเพราะๆจากนักร้องเสียงดีในเมืองเพิร์ธ ร่วมเต้นรำด้วยกันจนถึงเที่ยงคืน มีรางวัลหางตั๋วและรางวัลอื่นๆอีกมากมาย สนใจจองบัตรได้ตามหมายเลขโทรศัพท์ Ploy 0433216381 Bora 0433-128700 Kunthea 040-9921709 หรือข้อความผ่านเพจ https://www.facebook.com/darathaidancing และ อีเมล์ [email protected]
อยากสนับสนุนเด็กๆ ไปดูการแสดงของเด็กรวมทั้งแขกผู้มีเกียรติที่ทางโรงเรียนได้เชิญมาร่วมแสดงบนเวที ในรายการ Dara Thai Dancing School Dinner Dance Concert ที่จะมีขึ้นภายในวันเสาร์ที่ 11 ธันวาคม 2021 ที่ Vasto Club, 5 Vaston Place, Balcatta WA
ไตรภพ ซิดนีย์
[email protected]