การพัฒนาอุปกรณ์ช่วยให้อวัยวะเพศแข็งตัว อุปกรณ์เพิ่มสมรรถภาพทางเพศแบบสุญญากาศ หรือเครื่องปั๊มอวัยวะเพศชาย และการผ่าตัดใส่แกนองคชาตเทียม (Penile Prosthesis หรือ Penile Implants) เป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับผู้ที่ไม่สามารถรับประทานยาหรือต้องการทางเลือกที่มีความรุนแรงน้อย และลดความเสี่ยงจากการใช้ยา การผ่าตัดใส่แกนองคชาตเทียมยังสามารถแก้ปัญหาในผู้ชายที่มีปัญหาพังผืดในอวัยวะเพศ (Peyronie’s disease) จะมีองคชาตที่โค้งงอและเจ็บปวดเวลามีการแข็งตัว แม้ว่าอุปกรณ์เหล่านี้ไม่ใช่ของใหม่ แต่นักวิจัยได้ปรับปรุงแกนองคชาตเทียมที่เชื่อถือได้ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เพื่อลดอัตราการติดเชื้อและเพิ่มความทนทานของอุปกรณ์

ตัวเลือกที่เป็นไปได้บางประการสำหรับแกนองคชาตเทียม ได้แก่ การผ่าตัดใส่แกนองคชาตเทียมแบบอ่อน : แพทย์จะผ่าตัดใส่แกนองคชาตเทียมส่วนแข็งขนาดเล็กเข้าไปในอวัยวะเพศชาย แท่งเหล่านี้จะยังคงแข็งอยู่ตลอดเวลา การผ่าตัดใส่แกนองคชาตเทียมแบบพอง : แพทย์จะผ่าตัดใส่แกนองคชาตเทียมเหล่านี้ในอวัยวะเพศชาย ผู้ได้รับการผ่าตัดสามารถขยายถุงน้ำในแกนองคชาตเทียมสำหรับกิจกรรมทางเพศได้ จากนั้นจึงปล่อยน้ำออกในภายหลังกิจกรรมทางเพศ

การบำบัดด้วยสเต็มเซลล์ (stem cell) เซลล์ต้นกำเนิดหรือที่เรียกว่า “สเต็มเซลล์” คือ เซลล์ที่ยังไม่มีหน้าที่จำเพาะ ต้องได้รับการ
กระตุ้นและสั่งการจากร่างกาย เพื่อเป็นเซลล์ที่จำเพาะต่าง ๆ ปัจจุบันนักวิทยาศาสตร์กำลังประเมินการใช้สเต็มเซลล์บำบัดเพื่อรักษาโรคหย่อนสมรรถภาพทางเพศ จากการทบทวนในปี พ.ศ. 2559 การศึกษาเบื้องต้นหลายงานวิจัยและการทดลองทางคลินิกหลายครั้งพบว่า การบำบัดด้วยสเต็มเซลล์อาจเป็นการรักษาที่มีประสิทธิภาพสำหรับโรคหย่อนสมรรถภาพทางเพศ ในบางกรณีโรคหย่อนสมรรถภาพทางเพศเกิดจากเซลล์บุผนังหลอดเลือดที่เสียหายซึ่งอยู่ตามผนังหลอดเลือดของอวัยวะเพศ โดยทั่วไปหมายความว่าบุคคลนั้นไม่สามารถบรรลุหรือรักษาการแข็งตัวของอวัยวะเพศได้

การบำบัดด้วยสเต็มเซลล์เกี่ยวข้องกับการ นำสเต็มเซลล์เข้าสู่ร่างกาย แล้วสามารถเพิ่มจำนวนเป็นเซลล์บุผนังหลอดเลือดที่แข็งแรงและช่วยฟื้นฟูภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศได้ นักวิจัยยังต้องทำการศึกษาเพิ่มเติมเพื่อทำความเข้าใจประสิทธิภาพและความปลอดภัยของการบำบัดนี้ การทบทวนใหม่ที่มากกว่าในปี พ.ศ.2564 ระบุว่าการศึกษาให้ผลลัพธ์ที่น่าหวังสำหรับการบำบัดด้วยสเต็มเซลล์ อย่างไรก็ตาม นักวิจัยกล่าวว่ายังจำเป็นต้องมีการวิจัยเพิ่มเติม

—————————–
ศ.น.ท.ดร.นพ.สมพล เพิ่มพงศ์โกศล