ตระบัดสัตย์ ไม่สง่างาม ไม่ตรงไปตรงมา นวัตกรรมการเมือง นิติกรรมอำพราง ฉ้อฉล กินรวบ สมคบคิด ปาหี่ ก้าวไกลการละคร สารพัดคำประณามต่อกรณีพรรคก้าวไกล มีมติให้หมออ๋อง ปดิพัทธ์ สันติภาดา พ้นจากสมาชิกภาพพรรคก้าวไกล เพราะพรรคมีมติให้นายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคคนใหม่ นั่งเก้าอี้ผู้นำฝ่ายค้านในสภา ขณะหมออ๋อง ปดิพัทธ์ ยังอยากทำหน้าที่รองประธานสภาต่อ แต่ตาม รธน. ฉบับอัปยศ 2560 ม.106 สส.พรรคก้าวไกลไม่สามารถนั่งเก้าอี้ประธานสภาหรือรองประธานสภาได้ หากหัวหน้าพรรคเป็นผู้นำฝ่ายค้าน

เมื่อต่างคนต่างอยากทำงานในแนวทางของตน ก็ง่ายๆ แยกกันเดิน หมออ๋อง ปดิพัทธ์ สันติภาดา ต้องหาพรรคใหม่สังกัดตามเวลาที่กำหนดไว้ ไม่มีอะไรตรงไปตรงมามากกว่านี้อีกแล้ว

ส่วนหมออ๋อง จะคุยคำโต นั่งเก้าอี้รองประธานสภาต่อเพื่อยกระดับการทำงานให้โปร่งใส มีประสิทธิภาพสูง ก็ว่าไป และ เราต้องเรียกร้องให้หมออ๋องเดินหน้าตรวจสอบความไม่โปร่งใสการสร้างสภาต่อไปตามที่คุยไว้ ทำไมบริษัทที่รับเหมาได้ยืดเวลาส่งมอบหลายครั้ง ยกเว้นค่าปรับเกือบหมื่นล้าน และเรียกค่าชดเชยนับพันล้านอีก ฝนตกทีไร หลังคาบางห้องของสภาที่หรูหราแพงจัด เหมือนมีน้ำตกไหลซ่า ให้เล่นน้ำได้สบาย เป็นข่าวไม่รู้กี่ครั้ง ….ประชาชนจะได้ประโยชน์มากมาย หากหมออ๋องตรวจสอบเรื่องนี้จริงจัง

ส่วนเรื่องจะทำหน้าที่เป็นกลาง เมื่อนั่งบนบัลลังก์ คือจริยธรรมพื้นฐาน ถ้าไม่เป็นกลาง ก็ถูก สส.ประท้วงเอง การเป็นรองประธานสภาของหมออ๋อง มองด้านไหนประชาชนก็ได้ประโยชน์ข้อสำคัญ เค้าทำตามช่องทางรัฐธรรมนูญไม่ได้แอบทำ และถึงแม้ไปอยู่พรรคฝ่ายค้านอื่น ก็ยังเป็นพันธมิตรได้ ไม่ใช่หรือ

สรุปดราม่า 'หมออ๋อง' ปดิพัทธ์ สันติภาดา สส. ร้อยเรื่องราวจาก 'ก้าวไกล'

หน้าที่ต่างกันความสัมพันธ์คงเดิม เคยได้ยินไหม คำนี้

กลับมาที่คำประณามข้างต้น หากเป็น สว.ลากตั้ง ก็ไม่แปลก เพราะถือเอาพรรคก้าวไกลเป็นเป้าหมายที่ต้องทำลายล้าง ไม่ให้มีอำนาจบริหารบ้านเมืองแม้แต่นาทีเดียว ทั้งที่กรณีเดียวกัน อย่าง นายไพบูลย์ นิติตะวัน เคยยุบพรรคประชาชนปฏิรูป  ไปรวมกับ พปชร.ทั้งที่ไม่รู้เป็นปาร์ตี้ลิสต์อันดับไหน หรือ ธรรมนัส พรหมเผ่า เคยยกทีมออกจาก พปชร. และขอให้มีมติขับออกทีหลังด้วยซ้ำ ก็ไม่เห็น สว.ตัวตึงเหล่านี้ จะยื่นศาลรัฐธรรมนูญให้ยุบพรรคเลย

อย่างที่ว่า สว.ลากตั้งเรื่องหนึ่ง แต่ไม่แค่นายอดิศร เพียงเกษ ประธานวิปเพื่อไทย จะร่วมมหกรรมประณามอย่างเมามันแล้ว นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ คนพรรคเดียวกัน ยังย้ำ จะยื่น กกต.ให้ยุบพรรคก้าวไกลตาม พ.ร.ป.พรรคการเมือง ม.92(1) อีกด้วย ซึ่งก่อนหน้านี้ นักร้อง ศรีสุวรรณ จรรยา ประธานองค์กรรักชาติ รักแผ่นดิน (เพิ่งรู้ชื่อใหม่) ก็ไปยื่นร้อง ป.ป.ช. ว่ากรรมการบริหารพรรคก้าวไกลฉ้อฉลทำผิดจริยธรรมร้ายแรง ให้ยุบพรรค ไปล่วงหน้าแล้ว

การที่พรรคเพื่อไทยจะร่วมมหกรรมส่งเรื่องให้ กกต.หรือองค์กรไหนก็ตาม ที่ไม่ยึดโยงกับประชาชน มาตัดสินยุบพรรคการเมืองซึ่งเป็นตัวแทนประชาชน จึงเป็นเรื่องรุนแรงและไม่ศิวิไลซ์ยิ่ง เช่นที่ล่าสุด ช่อ พรรณิการ์ วานิช ถูกประหารชีวิตทางการเมือง ด้วยการถูกตัดสิทธิการเมืองตลอดชีวิต เพราะผิดจริยธรรมร้ายแรงมาแล้ว ฉันใดก็ฉันนั้น

คนในพรรคเพื่อไทยย่อมรู้แก่ใจ ไม่มีพรรคไหนในแผ่นดินนี้จะโดนกระทำจากองค์กรอิสระได้มากเท่าพรรคตัวเองแล้ว ถูกยึดอำนาจ 2 ครั้ง ถูกยุบพรรค 2 ครั้ง ผู้นำพรรคไม่มีแผ่นดินอยู่ แม้ตอนนี้จะกลับบ้านได้ ก็ต้องตระบัดสัตย์ สูญสิ้นศรัทธาหมดหน้าตัก ตอนเป็นฝ่ายค้านก็เคยเรียกร้องให้ยุบองค์กรอิสระคืนความยุติธรรมให้ประเทศชาติด้วยซ้ำ แล้วตอนนี้คิดอะไรอยู่

การลบข้อหาตระบัดสัตย์ กู้ศรัทธาคืน พรรคเพื่อไทยต้องหยุดความ “อยุติธรรม” ไม่ใช่ด้วยการส่งมอบเครื่องมือประหารจากรุ่นสูู่รุ่น เพื่อให้ได้อำนาจ

ให้มันจบที่รุ่นเราเหอะ ลูกหลานจะได้อยู่อย่างมีศักดิ์ศรีต่อไป

—————–
ดาวประกายพรึก