เด็กในวันนี้ก็คือผู้ใหญ่ในวันหน้า.. ไม่ว่าครอบครัวจะมีพื้นฐานเป็นมากันอย่างไร แต่ก็ไม่ใช่ตัวกำหนดอนาคต ถ้าได้รับการปลูกฝังชี้นำแนวทางที่ดีและได้รับโอกาส ขยัน อดทน เป็นคนดีของสังคม หลายคนก็จะประสบความสำเร็จได้
ที่โรงเรียนวัดพะโค ต.กระโทก อ.โชคชัย จ.นครราชสีมา ซึ่งเป็นโรงเรียนขนาดเล็กระดับประถมศึกษาปีที่ 1-6 มีนักเรียนทั้งหมด 40 คน บุคลากรครู 6 คน นอกจากโรงเรียนจะให้ความรู้ทางวิชาการแล้ว ยังเน้นสร้างกิจกรรมการเรียนรู้เพื่อให้เด็กๆ นำไปต่อยอดใช้ในชีวิตจริง เพื่อให้ยืนด้วยตัวเองได้
ทุกวันครูและนักเรียนจะช่วยกันเพาะปลูกผักระบบไฮโดรโปนิกส์ปลอดสาร เพื่อใช้ในโครงการอาหารกลางวันมานานเกือบ 3 ปีแล้ว ถึงแม้ว่าจะเป็นโรงเรียนขนาดเล็ก ไม่ใหญ่มากนัก แต่โรงเรือนปลูกผักแห่งนี้ก็ถือเป็นครูคนสำคัญของเด็กนักเรียน ที่จะได้เรียนรู้วิธีการปลูกผักสมัยใหม่และได้ลงมือปฏิบัติจริง เพื่อที่จะนำความรู้ที่ได้ไปต่อยอด สร้างอาชีพสร้างรายได้เสริมในอนาคต
โดยโครงการนี้เป็นโครงการเกษตรอาหารกลางวันให้แก่โรงเรียนที่ขาดแคลน ซึ่งได้รับการสนับสนุนงบประมาณในการดำเนินการจากมูลนิธิพัฒนาชุมชนและเกษตรกรรมบริษัท คาร์กิลล์มีทส์ (ไทยแลนด์) จำกัด ในทุกๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นเมล็ดพันธุ์ ปุ๋ยระบบการปลูก โรงเรือน และมีทีมงานจากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี มาเป็นพี่เลี้ยงคอยให้คำแนะนำและให้ความรู้ให้แก่คณะครูและเด็กนักเรียนในทุกขั้นตอน จนตอนนี้ทั้งโรงเรียนต่างมีความรู้และความชำนาญในการปลูกผักระบบไฮโดรโปรนิกส์กันแทบทุกคน
นางสาวภัศราพร ประติสัตย์ ครูชำนาญการโรงเรียนวัดพะโค ซึ่งเป็นครูผู้ดูแลโครงการดังกล่าว บอกว่า โครงการนี้เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2564 ตลอดระยะเวลาที่ดำเนินการ ทางคณะครูและนักเรียนต่างได้รับความรู้เกี่ยวกับการปลูกผักระบบไฮโดรโปนิกส์เป็นอย่างมาก ตอนนี้ทางโรงเรียนสามารถเพาะปลูกและดูแลได้เองทั้งหมดแล้ว โดยผลผลิตที่ได้ ทางโรงเรียนจะนำเข้าสู่โครงการอาหารกลางวันเพื่อเด็กนักเรียนส่วนหนึ่ง เนื่องจากผักที่ได้มีจำนวนมาก
และอีกส่วนหนึ่งก็จะนำไปจำหน่ายให้กับชาวบ้านในชุมชนที่สนใจ ที่ผ่านมาทางชุมชนให้ความสนใจเป็นพิเศษ เพราะเป็นผักที่มีคุณภาพปลอดสารเคมี จนไม่พอขาย ซึ่งเงินที่ได้มาก็จะนำเข้าไปรวมกับเงินโครงการอาหารกลางวัน เพื่อที่จะนำไปซื้อเมนูพิเศษให้แก่เด็กๆ ที่อยากกินเป็นพิเศษ ซึ่งถือเป็นการสร้างความสุขให้แก่เด็กนักเรียน และกระตุ้นความอยากในการเรียนรู้กับโครงการนี้ด้วย เพื่อที่เด็กจะได้มีความรู้ในด้านอาชีพติดตัว นำไปต่อยอดในอนาคตต่อไป
ขณะที่เด็กนักเรียนส่วนใหญ่ มีใบหน้าที่เปี่ยมไปด้วยความสุขและรอยยิ้ม หลังเห็นผลงานของตัวเองที่เติมโตจากน้ำพักน้ำแรงและการเอาใจใส่ ทุกคนต่างสนุกสนานกับการได้เรียนรู้การปลูกผักในโครงการนี้อย่างมาก เนื่องจากได้เรียนรู้การเพาะปลูกทั้งระบบ ตั้งแต่เริ่มปลูกจนถึงการจำหน่ายสร้างรายได้ และผลตอบแทนก็คือเมนูพิเศษ ไม่ว่าจะเป็นไอศกรีม ขนม และอื่นๆ ที่ได้รับมาจากผลผลิตของฝีมือทุกคนในโครงการนี้
คอลัมน์ : นิยายชีวิต โดย : อสงไขย
เรื่องและภาพโดย : รณฤทธิ์ นวนครบุรี จ.นครราชสีมา
[[คลิก]] อ่านเรื่องราว “นิยายชีวิต” ได้ที่นี่..