ตำรวจไทยต้องทำหน้าที่เหมือนเม็ดเลือดขาว เจอสิ่งแปลกปลอมต้องสกัด ไม่ขาดอิสรภาพในการดำเนินงาน เพราะมานั่งกังวลว่าเป็นคนของนายหรือไม่”

มุมมองน่าสนใจจาก ...วิรุตม์ ศิริสวัสดิบุตร เลขาธิการสถาบันเพื่อการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม ที่สะท้อนผ่าน“ทีมข่าวอาชญากรรม”หลังเหตุช็อกวงการเมื่อ“ตำรวจ”ถูก“สมุนผู้มีอิทธิพล”ยิงเสียชีวิตอุกอาจกลางงานเลี้ยง ในฐานะเกาะติดความเคลื่อนไหวการปฏิรูปแวดวงยุติธรรม พ.ต.อ.วิรุตม์ มองการสอบสวนคดีนี้จะสะท้อนความจริงมากน้อยแค่ไหนเป็นเรื่องสำคัญ เพราะแม้การกระทำผิดจะ“ชัดเจน”แต่สาเหตุและมูลเหตุจูงใจยัง“คลุมเครือ”

จะเป็นปมขัดใจฝากฝังโยกย้ายตำแหน่งหรือไม่ ก็ดูไม่ค่อยสมเหตุผล หรืออาจเป็นส่วยรถบรรทุกก็เป็นไปได้ จากพฤติการณ์น่าจะเป็นเรื่องอารมณ์ เป็นความเหิมเกริมของผู้มีอิทธิพลซึ่งทำไม่ได้หากไม่มีอำนาจรัฐสนับสนุน

ทั้งนี้ ตั้งข้อสังเกตเหตุงานเลี้ยงมีทั้งนายตำรวจระดับผู้กำกับการสืบสวน รองสารวัตรสืบสวน การสอบจึงไม่ควรปล่อยให้อยู่ในมือตำรวจ ต้องมีพนักงานอัยการเข้ามาควบคุม เพราะบางทีสำนวนอาจปกปิดพยานหลักฐานบางส่วนไว้

อย่างไรก็ตาม ส่วนใหญ่นายตำรวจ“ยศน้อย”มักไม่ค่อยเข้าไปเกี่ยวข้อง ปัญหาคือนายตำรวจ“ชั้นผู้ใหญ่”ที่เห็นแก่เงิน โดยเฉพาะตำรวจยศ“นายพล” มักไม่ปรากฏตัวในขบวนการรับส่วยสินบนโดยตรง แต่รับส่วยสินบนโดยผู้ใต้บังคับบัญชาเก็บส่งตามลำดับชั้น

พ.ต.อ.วิรุตม์ ระบุ การแก้ปัญหาเฉพาะหน้าทำได้ระดับหนึ่งก็จริง แต่การแก้ปัญหาแบบจริงจังมีแค่ไหน เพราะการจัดการปัญหาส่วย การจับกุมดำเนินคดีเป็นส่วนนึง แต่การทุจริตประพฤติมิชอบเป็นเรื่องสำคัญ เมื่อ“บารมี”อิทธิพลท้องถิ่นไม่ได้เกิดขึ้นเอง แต่มาจากการทุจริตของตำรวจระดับสูง

ไม่ใช่แค่คดียิงตำรวจตายแล้วจับคนทำผิดมาดำเนินคดี แต่ต้องศึกษาว่าทำไมตำรวจจำนวนมากจึงเข้าไปห้อมล้อมอยู่ในบ้านของกำนัน(คนมีอิทธิพล) เราต้องพูดถึงเรื่องการปฏิรูปตำรวจ การแยกตำรวจออกจากกระทรวงมหาดไทย ทำให้ตำรวจขาดการตรวจสอบจากภายนอก”

นอกจากนี้ สิ่งที่สังคมตั้งคำถามกันมากคือ ตำรวจถูกยิงต่อหน้านายตำรวจกว่า 20 นาย แต่ไม่ระงับเหตุ จับคนร้าย แล้วยังปล่อยหลบหนี มองว่าศรัทธาวงการตำรวจคงไม่ลดไปมากกว่านี้แล้ว

พ.ต.อ.วิรุตม์ สะท้อนต่อว่าประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนในทุกวันนี้จากตำรวจ ไม่ได้รับการ“เทค แอคชั่น”จากรัฐบาล ตำรวจผู้น้อยไม่ได้รับประโยชน์ แต่ต้องมาเป็นมือเป็นไม้ให้ตำรวจชั้นผู้ใหญ่ เป็น“หนังหน้าไฟ”กระทบกระทั่งกับประชาชน พร้อมทิ้งท้ายไม่ขอฝากการบ้านถึง“ผบ.ตร.คนใหม่”เพราะไม่มีความหวัง แต่มันต้องยกเครื่องปฏิรูป

ยกตัวอย่าง ครม.แถลงนโยบายบอกว่าจะฟื้นฟูหลักนิติธรรม แสดงว่าที่ผ่านมายอมรับว่ามันแย่ใช่หรือไม่ แล้วจะฟื้นฟูอย่างไร ต้องมีแผนชัดเจน ตำรวจต้องโอนย้ายไปสังกัดตามกระทรวงต่างๆที่ตรงกับหน้างานรับผิดชอบ หากเกิดเหตุขึ้นก็สามารถวิพากษ์วิจารณ์กล่าวโทษอธิบดี หรือรัฐมนตรี เพื่อให้ผู้บังคับบัญชาได้มีส่วนรับผิดชอบร่วมกัน

เป็นคนดีนั้นไม่ยาก แต่จะเป็นตำรวจที่ดี ทำหน้าที่รักษากฎหมาย เพื่อประโยชน์คนส่วนใหญ่ในสังคมไทยแสนยาก ต้องมีจิตใจกล้าหาญมาก สิ่งแรกที่ต้องเสียสละคือโอกาส ความก้าวหน้าในชีวิตราชการ รวมถึงความสุขในชีวิตครอบครัว และอาจหมายถึงชีวิตของตัวเองด้วย”

นอกจากนี้ ยังต้องพร้อมเผชิญปัญหา ความยุ่งยากนานัปการ สร้างความเจ็บปวดและขมขื่นยากจะอธิบายผู้คน และเมื่อหันไปข้างหลัง ก็จะเห็น“ผู้บังคับบัญชา”ยืนปะปนอยู่กับ“ผู้กระทำผิดกฎหมาย”มองดูอยู่ด้วยความสะใจ ส่วน“คนดี”นั้นได้แต่ยืนดูอยู่ห่างๆด้วยความรู้สึกสงสารเห็นใจ ไม่สามารถช่วยอะไรได้ และบางคนก็ไม่กล้าแม้แต่จะกล่าวคำพูดให้กำลังใจ

ไม่มีใครเป็นผู้มีอิทธิพลได้ถ้าตำรวจผู้ใหญ่ไม่รับส่วยสินบนจากผู้กระทำผิดกฎหมาย ทำให้ตำรวจผู้น้อยไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ตามอำนาจของตนได้” พ.ต.อ.วิรุตม์ ตั้งคำถามที่น่าคิดต่อ.

ทีมข่าวอาชญากรรม รายงาน

[email protected]