เมื่อวันที่ 11 ก.ย.ที่ผ่านมา คณะรัฐมนตรี ( ครม. ) ได้แถลงนโยบายต่อรัฐสภา โดยระบุว่า ลักษณะจะเป็นแผนระยะสั้น ระยะกลาง ระยะยาว ซึ่งก็ถูกถามไปพอน่วมๆ ว่า “ที่มาของเงินที่จะใช้ทำนโยบายคืออะไร?”ทาง “เสี่ยนิด”เศรษฐา ทวีสิน นายกฯ และ รมว.คลังก็ตอบแบบแบ่งรับแบ่งสู้ ทำนองว่า รอกันอีกนิดนึงก็จะทราบ ..จนรัฐบาลนี้น่าจะได้ฉายาว่า “รัฐบาลนิดนึง” เพราะนายกฯ นิดชอบใช้คำนี้ตอบสื่อบ่อยๆ ..และท่าทาง“นิดนึง”ที่ว่าคงจะนานไม่ได้แล้ว เพราะต้องกู้คะแนนนิยมพรรคเพื่อไทยคืนโดยไว จากการถูกครหาเป็นรัฐบาลส้มหล่นเพราะฉีกเอ็มโอยูร่วมกับก้าวไกล และยังมีกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ที่ไม่รู้เป็นตายร้ายดีอย่างไรที่โรงพยาบาลตำรวจ …เรียกว่า ต้องรีบทำผลงานทั้งเพื่อสร้างกระแสและกลบกระแส เพราะเดี๋ยววันนึงมีคนถามหานายทักษิณ แล้วลามไปโจมตีกระบวนการยุติธรรมอีก

ซึ่งเบื้องต้น นายกฯนิดเขาก็บอกว่า ในการประชุม ครม.นัดแรกคงมีการสั่งการอะไรออกมาที่ล้อกับนโยบายของรัฐบาล เงินดิจิทัลหมื่นบาทนั้นรออีกนิดนึง  นายกฯเขาบอกแล้วว่าใช้ได้ไตรมาสแรกปีหน้า ถ้าเจาะจงหน่อยก็เดือน กพ.67 ตอนนี้กำลังหาแนวทางที่เหมาะสม และที่น่าชื่นใจคือ นายกฯ ตอบในที่ประชุมแถลงนโยบายว่า กรณีที่มีคนโวยว่า เงินดิจิทัลให้ใช้ห่างจากบ้านรัศมีไม่เกิน 4 กม.บางคนอยู่ในทุ่งบนดอยจะมีร้านไหนรับ แถมบางคนไม่ได้อยู่ในพื้นที่ที่ตัวเองมีชื่อในทะเบียนบ้าน เช่นพวกมาทำงานกรุงเทพฯ จะใช้เงินอย่างไร ? ..เรื่องนี้นายกฯ นิดรับไปทบทวน

นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง บอกว่า  แหล่งที่มาของเงินโครงการนี้ เรายืนยันว่ายึดมั่นกรอบวินัยการเงินการคลังเป็นหลัก และจะไม่แตะต้องทรัพย์สมบัติของชาติ ทั้งกองทุนวายุภักษ์ กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) เงินทุนสำรองระหว่างประเทศ และกองทุนประกันตน  โดยกระบวนการที่เราจะทำนั้น เราขอเวลาตรวจรายละเอียด ทั้งกรอบการใช้เงิน ระยะเวลาดำเนินการ และกระบวนการที่เราจะนำงบประมาณมาใช้คืนให้หมดในระยะเวลาที่กำหนด รวมถึงไม่กระทบกับหนี้สาธารณะอย่างแน่นอน ไม่มีการกู้เงินเพิ่ม

นโยบายหนึ่งที่คนสนใจมากคือลดค่าพลังงาน ทั้งลดค่าไฟฟ้า ค่าน้ำมันนั่นแหละ คนสนใจว่า จะ ลดเท่าไร ? แล้วถ้ารัฐบาลต้องเอาเงินไปค้ำส่วนต่าง เอาเงินจากไหน วิธีลดลดอย่างไร กล้ายกเลิกการซื้อไฟฟ้าจากนายทุนโรงไฟฟ้าหรือเปล่า ? ก็คงบอกได้แค่ว่ารออีกนิดนึง เดี๋ยวให้เขาหารือกันก่อน

ก็ขอสรุปประเด็นเรื่องการแถลงนโยบายสั้นๆ ไว้เป็น digital footprint ไปคอยตรวจสอบทวงถามรัฐบาล เมื่อวันที่ 11 ก.ย.นายกฯ นิด เศรษฐา ทวีสิน ได้อ่านคำแถลงนโยบายของรัฐบาลตอนหนึ่ง ว่ารัฐบาลชุดนี้มีนโยบายพิทักษ์รักษาสถาบันพระมหากษัตริย์ สร้างความเข้าใจที่ถูกต้อง รัฐบาลมีกรอบนโยบายบริหารและพัฒนาประเทศตามกรอบความเร่งด่วน ได้แก่ กรอบระยะสั้น จะต้องกระตุ้นการใช้จ่าย จุดประกายให้เครื่องยนต์เศรษฐกิจกลับมาเติบโตอีกครั้ง  ส่วนกรอบระยะกลางและระยะยาว จะเสริมขีดความสามารถให้ประชาชนผ่านการสร้างรายได้ ลดรายจ่าย สร้างโอกาส ลดความเหลื่อมล้ำ และสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น นโยบายเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิตอลวอลเล็ต   จะเป็นตัวจุดชนวนกระตุกเศรษฐกิจประเทศให้ตื่นขึ้นมาอีกครั้ง  รัฐบาลจะได้รับผลตอบแทนคืนมาในรูปแบบภาษี

ข้อสังเกตต่อเงินดิจิทัลของพรรคเพื่อไทย ทำทั้งหมดได้โดยไม่ต้องใช้บล็อกเชน |  Blognone

รัฐบาลมี นโยบายเร่งด่วนอีก 4 ข้อ  เพื่อพลิกฟื้นเศรษฐกิจ เร่งแก้ปัญหาช่วยเหลือประชาชน  ได้แก่

1.การแก้ปัญหาหนี้สินภาคเกษตร ภาคธุรกิจ และภาคประชาชน ด้วยการพักหนี้เกษตรกร ตามเงื่อนไขและคุณสมบัติที่เหมาะสม มี มาตรการช่วยประคองภาระหนี้สินและต้นทุนการเงิน สำหรับภาคประชาชน ครอบคลุมถึงผู้ประกอบการวิสาหกิจขนากลางและขนาดย่อมที่ได้รับผลกระทบจากโควิด -19 ให้ฟื้นตัว  

2.ลดภาระค่าใช้จ่ายด้านพลังงานแก่ประชาชน  จะสนับสนุนให้เกิดการบริหารจัดการราคาพลังงานทั้งค่าไฟฟ้า ค่าก๊าซหุงต้ม ค่าน้ำมันเชื้อเพลิง ให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมทันที   

3.ผลักดันการสร้างรายได้จากการท่องเที่ยว  ยกเว้นเก็บค่าธรรมเนียมวีซ่ากลุ่มนักท่องเที่ยวในกลุ่มประเทศเป้าหมาย การยกระดับประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดงานแสดงสินค้า งานเทศกาลระดับโลก ปรับปรุงสนามบิน และจัดการเที่ยวบินของสนามบินทั่วประเทศให้มีประสิทธิภาพ ( ก็มีข่าวเตรียมสร้างสนามบินภูเก็ตเพิ่มแล้ว )

4.การแก้ปัญหาความเห็นแตกต่างเรื่องรัฐธรรมนูญปี2560  ให้มีรัฐธรรมนูญเป็นประชาธิปไตยมากขึ้น ไม่แก้ไขหมวดพระมหากษัตริย์ ( หมวด 2 ) รัฐบาลจะหารือแนวทางทำประชามติ ให้ประชาชนมีส่วนร่วมออกแบบกติกาที่เป็นประชาธิปไตยทันสมัย เป็นที่ยอมรับร่วมกัน  หารือแนวทางการจัดทำรัฐธรรมนูญในรัฐสภา ฟื้นฟูหลักนิติธรรมที่เข้มแข็ง โปร่งใส  เพื่อให้ใช้งบประมาณรัฐน้อยที่สุด แต่ได้ประสิทธิภาพมากสุดในการพัฒนาประเทศ

ส่วนนโยบายระยะกลางและระยะยาว รัฐบาลมีแนวทางสร้างรายได้ โดยใช้การทูตเศรษฐกิจเชิงรุกเปิดประตูสินค้าและการบริการของประเทศสู่ตลาดต่างประเทศใหม่ๆ   เร่งการเจรจากรอบความร่วมทางการค้าระหว่างประเทศ (เอฟทีเอ ) ปรับปรุงกระบวนการพิจารณาอนุมัติโครงการลงทุน  การส่งเสริมพัฒนาเศรษฐกิจใหม่ อาทิ พัฒนาอุตสาหกรรมเทคโนโลยีขั้นสูง  พัฒนาต่อยอดเขตเศรษฐกิจพิเศษและระเบียงเศรษฐกิจทั้ง 4ภาค ลงทุนโครงสร้างพื้นฐานด้านการขนส่งทั้งทางถนน ทางน้ำ ทางราง ทางอากาศ  สนับสนุนการเพิ่มประสิทธิภาพภาคการเกษตร การหาตลาดให้สินค้าเกษตรได้ขายในราคาที่เหมาะสม  มีเป้าหมายทำให้รายได้เกษตรกรทั้งประเทศเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญภายใน 4ปี

จะเร่งดำเนินการให้ประชาชนมีสิทธิในที่ดิน พิจารณาเอกสารสิทธิการใช้ประโยชน์ให้เป็นโฉนด ให้นำไปต่อยอดเข้าถึงแหล่งทุนได้  สร้างโอกาสให้ประชาชนในการสร้างรายได้ เช่น การปลดล็อกกฎระเบียบสุราพื้นบ้าน การบริหารรูปแบบการกระจายอำนาจ (ผู้ว่าฯซีอีโอ) เพื่อสร้างประสิทธิภาพการบริหารงานแต่ละจังหวัดให้ตอบสนองความต้องการประชาชนที่แตกต่างกันในแต่ละพื้นที่  ยกระดับพัฒนาความรู้ ความคิดสร้างสรรค์ของคนไทยให้สร้างมูลค่าและสร้างรายได้ผ่านการส่งเสริม 1ครอบครัว 1ทักษะซอฟต์พาวเวอร์  

รัฐบาลจะดำเนินนโยบายปฏิรูปการศึกษาและสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ตลอดชีวิต มุ่งส่งเสริมให้เป็นคนดี มีวินัย ภูมิใจในชาติ รวมทั้งเสริมสร้างศักยภาพของผู้เรียนตามความถนัด ส่งเสริมการอ่านเพื่อสร้างอนาคต สร้างรายได้ กระจายอำนาจการศึกษาให้ผู้เรียนได้เข้าถึงการเรียนรู้อย่างทั่วถึง มีอุปกรณ์การเรียนที่เหมาะสมต่อผู้เรียนแต่ละวัย  จัดทำหลักสูตรและให้คำแนะนำที่เหมาะสมกับความรู้ความสนใจของผู้เรียน ส่งเสริมงานวิจัย และพัฒนาทั้งในด้านสังคม ด้านวิทยาศาสตร์ประยุกต์ และการวิจัยขั้นแนวหน้าเพื่อต่อยอดให้เกิดการพัฒนาองค์ความรู้ เทคโนโลยี และนวัตกรรม โดยไม่ละเลยการศึกษาประวัติศาสตร์ ความเป็นมาของประเทศ และปลูกฝังความรักในสถาบันหลักของชาติ เพื่อให้เกิดความพร้อมต่อการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจสังคม และการเมืองของโลกสมัยใหม่อย่างมีคุณธรรมและจริยธรรม

รัฐบาลจะให้ความสำคัญต่อความมีคุณภาพของครูทั้งประเทศ รวมไปถึงครูแนะแนวเพื่อช่วยให้นักเรียนได้รับคำแนะนำด้านเนื้อหาของวิชาการและการเข้าถึงข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการตัดสิน เลือกเรียนและประกอบอาชีพรวมไปถึงการดูแลสุขภาพกาย และสุขภาพใจของนักเรียนทุกคน นอกจากนี้รัฐบาลจะส่งเสริมการสร้างรายได้ให้แก่นักเรียน นักศึกษาทั้งสายวิชาการ และสายอาชีพ ให้มีรายได้จากวิชาที่เรียน โอกาสฝึกงานระหว่างเรียน เพื่อสร้างบุคลากรที่มีทักษะ และความสามารถตรงต่อความต้องการของการจ้างงาน และที่สำคัญที่สุดรัฐบาลจะดำเนินการแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำทั้งการศึกษาที่เป็นรากฐานสำคัญของความเหลื่อมล้ำ ทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นในสังคมไทย

รัฐบาลจะร่วมกันพัฒนากองทัพให้เป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาศักยภาพประเทศ จะปรับโครงสร้างหน่วยงานความมั่นคงให้ทันสมัย  เปลี่ยนรูปแบบเกณฑ์ทหารเป็นแบบสมัครใจ ปรับปรุงการฝึกนักศึกษาวิชาทหารให้เป็นแบบสร้างสรรค์ ลดกำลังพลนายทหารชั้นสัญญาบัตรระดับสูง กำหนดอัตรากำลังในกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ให้สอดคล้องบทบาทภารกิจ ปรับปรุงการจัดซื้อจัดจ้างหน่วยงานกระทรวงกลาโหมให้โปร่งใส ขณะที่ด้านความปลอดภัยจะปราบปรามผู้มีอิทธิพลและยาเสพติดให้หมดจากสังคมไทย

นอกจากนี้รัฐบาลจะดำเนินนโยบายการใช้ประโยชน์จากกัญชาทางการแพทย์และสุขภาพ เพื่อสร้างมูลค่าเชิงเศรษฐกิจ การยกระดับนโยบาย 30บาท รักษาทุกโรค ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ไม่ต้องไปโรงพยาบาลในเมือง ลดความแออัดและภาระบุคลากรทางการแพทย์ การผลักดันกฎหมายสนับสนุนสิทธิและความเท่าเทียมของกลุ่มความหลากหลายทางเพศ( LGBT+) ซึ่งกฎหมายเพื่อกลุ่ม LGBT+ นี่ก็มีทั้งสมรสเท่าเทียม รับรองเพศ ท้ายที่สุดรัฐบาลขอให้ความเชื่อมั่นแก่ประชาชนว่า จะบริหารราชการแผ่นดินด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ยึดประโยชน์ส่วนรวมของประชาชนและประเทศเป็นที่ตั้ง  เพื่อให้ประเทศก้าวไปข้างหน้า ประชาชนมีความเป็นอยู่ดี มีรายได้เพิ่มขึ้น ส่งต่ออนาคตที่ดีกว่าให้ลูกหลานของพวกเรา

แต่ก็ยังมีการถามถึงการแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำ ว่า กล้าปรับฐานภาษีคนรวยหรือไม่ อย่างพวกภาษีที่ดิน ภาษีลาภลอย ภาษีมรดก หรือปรับอัตราจ่ายขั้นบันไดของรายได้  ซึ่งคิดว่า ก็คงทำยากอยู่ เพราะคนรวย“วางแผนภาษี”เป็น ..แบบในความหมายไหนเรารู้กันเนาะ …อีกทั้งยังถูกติงเรื่องนโยบายเกี่ยวกับแรงงานที่ไม่ชัดเจนนอกจากค่าแรงขั้นต่ำหกร้อยปี 70 ซึ่งรัฐบาลคงได้แต่บอกว่า นโยบายที่แถลงเป็นกรอบกว้างๆ เดี๋ยวแผนปฏิบัติมันก็ออกมา รออีกนิดนึง

นโยบายรถไฟฟ้า 20 บาท ตลอดสายนั้น นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม จะจัดให้สายสีแดงกับสายสีม่วงก่อน ในอีก 3 เดือน แบบว่าเป็นของขวัญปีใหม่คนไทย ส่วนสายเขียวยังต้องไปคุยกับ กทม. เพราะเป็นคู่สัญญากับบีทีเอส  นโยบายอีกเรื่องที่ถ้าฝ่ายค้านไม่พูดก็ลืมไปแล้ว คือที่ประกาศอัดฉีดครอบครัวที่รายได้ไม่ถึง 20,000 บาทต่อเดือน ให้ถึง  20,000 บาท ปัญหาคือคุณนิยามคำว่าครอบครัวอย่างไร ? ต้องมีพ่อ แม่ ลูก หรือลักษณะครอบครัวประเภทครอบครัว LGBT+ อยู่ด้วยกันแบบไม่มีทายาทก็ได้ ครอบครัวประเภทมีแต่ยายกับหลานนี่ได้หรือไม่ ?

เรื่องที่โผล่มารับน้องนายกฯ นิดเลยคือ การปราบปรามผู้มีอิทธิพล ทั้งพวกซุ้มมือปืน เจ้าพ่อ มาเฟียในพื้นที่ รวมถึงตำรวจที่เข้าไปสนับสนุนขบวนการ จากกรณีคดียิง พ.ต.ต.ศิวกร สายบัว สว.ส.ทล.1 กก.บก.ทล.( ตัวย่อมันเยอะ เอาเป็นว่าตำรวจทางหลวงล่ะกัน ) พ.ต.ต.ศิวกรหรือสารวัตรแบงค์ถูกยิงกลางงานเลี้ยงของ “กำนันนก”นายประวีณ จันทร์คล้าย ผู้กว้างขวางในนครปฐม เป็นการยิงอุกอาจท่ามกลางสายตาตำรวจเป็นสิบ .. ซึ่งคาดว่า เป็นเรื่องเกี่ยวกับส่วยสติ๊กเกอร์รถบรรทุก ที่นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล เคยเปิดเรื่องสติ๊กเกอร์พระอาทิตย์ยิ้มแฉ่งไว้ ..และยังมีผู้มีอิทธิพลอีกจำนวนมาก อันนี้คือต้องกวาดล้าง เพราะเป็นต้นตออาชญากรรม ซึ่งก็เป็นที่ฮือฮาว่า ได้มีการมอบหมายให้นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รมช.มหาดไทยไปรวบรวมรายชื่อผู้มีอิทธิพล กลายเป็นงานเด่นของ มท.4 ทันที

ทางฝ่ายผู้ใช้แรงงานก็มีข้อร้องเรียนที่อยากให้รัฐบาลรับฟังเยอะ ซึ่งก็ต้องบอกว่า “รออีกนิดนึง” เพราะรัฐบาลเขาบอกปาวๆ ว่า นโยบายนี้เป็นแค่กรอบการทำงานกว้างๆ ต้องลงรายละเอียดอีก

………………………………………………………
คอลัมน์ : ที่เห็นและเป็นอยู่
โดย “บุหงาตันหยง”