ถึงแม้นายชวน หลีกภัย จะบอกกับสส.ประชาธิปัตย์ 16 คน ที่ไปโหวตช่วยให้นายเศรษฐา ทวีสิน จากพรรคเพื่อไทย เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ว่าเหตุผลที่พรรคประชาธิปัตย์มีมติงดออกเสียง เพราะไม่ต้องการทรยศคนใต้ที่ถูกเลือกปฏิบัติในอดีต

ส่วนนายเดชอิศม์ ขาวทอง รักษาการรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ดูแลภาคใต้ บอกว่าเหตุผลที่ตัดสินใจโหวตให้นายเศรษฐาเพราะต้องการให้ประเทศเดินไปข้างหน้า พวกเราเป็นประชาธิปัตย์ยุคใหม่เกือบทั้งหมด ไม่เคยใส่เสื้อเหลือง เสื้อแดง ไม่เคยมีความขัดแย้ง เราไม่ควรมารับมรดกความขัดแย้งต่อจากรุ่นเก่า ๆ

ขณะที่นายเศรษฐาได้รับโปรดเกล้าฯเป็นนายกฯวันแรก รีบบึ่งไปจ.ภูเก็ตพังงาทันที ทั้ง ๆ ที่ 2 จังหวัดนี้ไม่มีสส.พรรคเพื่อไทยแม้แต่คนเดียว เพื่อไปดูเรื่องการท่องเที่ยว เตรียมหาเงินเข้าประเทศในช่วงไฮซีซัน ปลายปีนี้ เพราะไม่มีช่องทางไหนจะหาเงินเข้ากระเป๋าได้ง่ายและรวดเร็วกว่าภาคการท่องเที่ยวอีกแล้ว

นายเศรษฐาจึงไปดูตั้งแต่สนามบิน ไปนั่งคุยกับนายกีรติ กิจมานะวัฒน์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) ในหลายเรื่อง ตั้งแต่การตรวจเช็กคนเข้าเมือง ปัญหาเรื่องวีซ่า ความคับแคบของสนามบิน สภาพการจราจร โดยจะมีการขยับขยายสนามบินภูเก็ต-เชียงใหม่ ให้สามารถรองรับเที่ยวบินช่วงกลางคืนได้มากขึ้น

นอกจากนี้ยังได้พบปะแลกเปลี่ยนมุมมองกับผู้ประกอบการท่องเที่ยวในภูเก็ตและพังงาอีกด้วย โดยสิ่งที่ทำให้นายเศรษฐางงมาก คือไม่เคยมีนายกฯไปพังงามานานถึง 10 ปี ทั้งที่เป็นแหล่งรายได้มีอนาคต

กลับจากภูเก็ต-พังงา นายกฯ ยังไปพูดคุยหารือกับ “เจ้าสัว” เจ้าของธุรกิจรายใหญ่หลายคน เพื่อรับฟังปัญหา-อุปสรรคการทำธุรกิจในยุคปัจจุบัน

คุยกับ “เจ้าสัว” แล้วยังนั่งรถไฟฟ้าใต้ดินไปโผล่ที่ตลาดเมืองไทยภัทร ย่านรัชดาฯ เพื่อสอบถามปัญหาการดำรงชีพของประชาชน ทั้งพ่อค้าแม่ค้า และพนักงานบริษัทในย่านนั้น

หลังจากก่อนหน้านี้นายเศรษฐาได้หารือกับนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รมว.พลังงานของรัฐบาลรักษาการ เพื่อต้องการรื้อราคาค่าพลังงาน โดยจะลดราคาน้ำมันดีเซลไฟฟ้าก๊าซหุงต้ม ทันทีในการประชุมคณะรัฐมนตรีนัดแรกของรัฐบาลเศรษฐา

คิวถัดจากตลาดเมืองไทยภัทร นายเศรษฐาได้ลงพื้นที่จ.สมุทรสงคราม เพื่อพบปะกลุ่มชาวประมงที่ได้รับผลกระทบกันอย่างแสนสาหัสมา 8 ปี จากประกาศของ IUU และแนวทางการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องชาวประมง

เนื่องจากช่วง 8 ปีที่ผ่านมา พี่น้องชาวประมงได้รับความเดือดร้อนมากจากผลงานของรัฐบาลที่มาจากการรัฐประหาร ซึ่งไม่เป็นที่ยอมรับของสหภาพยุโรป

ส่งผลให้ชาวประมงออกเรือกันลำบาก เพราะเงื่อนไขกฎระเบียบต่าง ๆ หยุมหยิม และมีโทษรุนแรง จึงต้องเลิกอาชีพประมง ด้วยการจอดเรือทิ้งไว้เฉย ๆ กว่า 2,500 ลำ บ้างก็ต้องตัดใจขาย
เรือทิ้งไปเนื่องจากแบกรับภาระไม่ไหว

วันนี้สิ่งที่พี่น้องชาวประมง 22 จังหวัด ต้องการให้รัฐบาลเศรษฐาช่วยแก้ปัญหาเร่งด่วน คือ แก้ พ...ประมง พ.. 2558 ที่มีโทษรุนแรงเกินไป ตั้งแต่การแจ้งออกเรือผิดพลาด หรือเข้าไปในเขตชายฝั่ง 10-20 เมตร โดยไม่ได้เจตนา และการแจ้งเอกสารผิดพลาดที่ควรจะมีการตักเตือนก่อน

ไม่ใช่ถูกปรับเป็นเงินหลักแสน หลักล้านบาท ทำให้ชาวประมงรู้สึกว่าไม่ได้รับความยุติธรรมกับเขา หลายรายต้องถึงกับสิ้นเนื้อประดาตัว

เป็น 8 ปี ที่ไม่ใช่แค่อาชีพประมงที่ได้รับความเดือดร้อนกันอย่างหนัก แต่ยังมีอีกหลายอาชีพที่ไปไม่รอดจากปัญหาเศรษฐกิจของประเทศที่ซบเซามาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่มีการรัฐประหารในปี 57

ดังนั้นจึงต้องบอกว่าอย่าไปตำหนิติเตียน 16 สส. ประชาธิปัตย์ที่โหวตช่วยนายเศรษฐา เพราะวันนี้เริ่มเห็นประเทศเดินไปข้างหน้าอย่างมีอนาคต และประชาชนหลายสาขาอาชีพกำลังรู้สึกว่าพวกเขามีความหวังแล้ว!!

———————
พยัคฆ์น้อย