มีคนเคยกล่าวไว้ #ลูกไม่ใช่สมบัติของพ่อแม่ ควรส่งเสริมเขาในทางที่ดี ให้เขาได้ทำในสิ่งที่รัก และค้นพบเส้นทางที่ใช่..
ในยุคสมัยนี้ เชื่อว่าพ่อแม่หลายคนคงจะเห็นด้วยกับเรื่องนี้.. ดังเช่นครอบครัวของ “น้องณะโม” หรือ ด.ช.สุวิจักขณ์ คงรอด อายุ 9 ขวบ นักเรียนชั้น ป.3 โรงเรียนรัตนศึกษา อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช ที่พ่อแม่ให้การสนับสนุนลูกในทุกๆ ด้านที่ลูกชอบ จนน้องแสดงความสามารถออกมาได้อย่างเต็มที่ ทั้งในเรื่องงานศิลปะการปั้นดินน้ำมัน และการวาดภาพพระพุทธรูปต่างๆ
นายพงศ์ชิตพล คงรอด อายุ 40 ปี ผู้อำนวยการโรงเรียนวิเชียรมาตุ 3 จ.ตรัง และนางนิรมล คงรอด อายุ 38 ปี คุณครูโรงเรียนทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช ทั้งสองเป็นพ่อและแม่ของน้องณะโม ครอบครัวนี้อาศัยอยู่บ้านเลขที่ 32/2 หมู่ที่ 4 บ้านเขากอบ ต.เขากอบ อ.ห้วยยอด จ.ตรัง
“น้องณะโม” เริ่มวาดภาพพระพุทธรูปและปั้นดินน้ำมันเป็นรูปพระพุทธรูปองค์ต่าง ๆ พร้อมทั้งฝึกเล่นหนังตะลุงมาตั้งแต่อายุ 3 ขวบ ส่วนหนึ่งมาจากครอบครัวที่ชอบศิลปวัฒนธรรม โบราณสถาน การไหว้พระ สวดมนต์ ซึ่งพ่อน้องณะโมเคยนำนักเรียนไปแข่งขันสวดมนต์ทำนองสรภัญญะ และทำกิจกรรมส่งเสริมผู้เรียนด้านพระพุทธศาสนา จนได้รับรางวัลชนะเลิศระดับประเทศมาแล้วหลายรางวัล
เช่นเดียวกับแม่น้องณะโม ที่ชอบแนวเดียวกัน โดยจะพาน้องณะโมไปด้วยทุกที่ จึงทำให้น้องซึมซับสิ่งที่ดีงามเหล่านี้ จนกลายเป็นความชอบและหมั่นศึกษาหาความรู้เพิ่มเติม ทั้งจากยูทูบและจากคุณครูสอนศิลปะ จนสามารถวาดภาพพระพุทธรูปและปั้นดินน้ำมันได้อย่างคล่องแคล่ว ล่าสุดได้รับรางวัลชนะเลิศ การประกวดวาดภาพที่ จ.นครศรีธรรมราช เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา
พ่อน้องณะโม กล่าวว่า ชื่อ “ณะโม” พ่อเป็นคนตั้งให้ เพราะมีความหมายว่าผู้นอบน้อม น้องจะใช้เวลาว่างจากการเรียนฝึกวาดภาพ ปั้นดินน้ำมัน และเล่นหนังตะลุง โดยเริ่มจากการที่พ่อซื้อรูปหนังตะลุงมาให้ น้องจึงหัดเล่นจากยูทูบ จนสามารถขับหนังตะลุงได้ โดยมีพ่อเป็นลูกคู่ หรือเป็นผู้ช่วยนายหนัง
และน้องยังใช้เวลาว่างไปกับการวาดภาพพระพุทธรูป ปั้นดินน้ำมัน และท่องเที่ยวไปตามโบราณสถาน ทำบุญไหว้พระทั้งใน จ.ตรัง และ จ.นครศรีธรรมราช อย่างหนึ่งที่ได้คือลูกได้สืบทอดพระพุทธศาสนา มีภูมิต้านทานทางด้านจิตใจที่กระแสสังคมเข้ามากระทบ และสิ่งเหล่านี้ เข้ามาหล่อเลี้ยงจิตใจให้เขาเป็นคนดีได้
ด้าน น้องณะโม กล่าวว่า ตนเป็นคนที่ชอบพระศิลปะลาวล้านช้าง เห็นแล้วรู้สึกชอบและศรัทธา ตอนนี้วาดและปั้นได้ ส่วนความสามารถในการขับหนังตะลุง ยังไม่ได้เคยไปเล่นโชว์ที่ไหนมาก่อน อนาคตฝันอยากเป็นเกมเมอร์และวาดภาพต่อ โดยการปั้นไม่มีใครสอน ลองปั้นเอง ดูจากยูทูบตั้งแต่ 3 ขวบ ตอนนี้ 9 ขวบแล้ว ปั้นมาเรื่อย ๆ และนำผลงานไปโชว์ที่ตลาดชุมทาง
ทุกวันนี้ พ่อแม่ของน้องณะโม ยังมุ่งมั่นที่จะส่งเสริมลูกในสิ่งที่ลูกชอบ เพราะลูกเคยบอกว่าได้ทำแล้วมีความสุข โดยได้นำภาพพระพุทธรูปที่น้องณะโมวาด ไปทำเป็นลายสกรีนบนเสื้อยืดคอกลมและคอวี นำออกจำหน่ายทางเพจเฟซบุ๊กที่ชื่อว่า สอนศิลป์กับพิมพ์ไทย, เพจเด็กปั้น และเพจ niramol sommai โดยขายตัวละ 300 บาท แม้เพิ่งจะวางขายได้ไม่กี่วัน แต่ก็ขายได้แล้วกว่า 10 ตัว ส่วนเงินรายได้ จะนำไปเป็นทุนการศึกษาและซื้ออุปกรณ์การวาดภาพ ระบายสี เพื่อให้น้องณะโม มีกำลังใจในการสานฝันของตัวเอง ควบคู่ไปกับการได้อนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมไทย ให้คงอยู่อย่างยั่งยืน
คอลัมน์ : นิยายชีวิต โดย : อสงไขย
เรื่องและภาพโดย : ทรงวุฒิ นาคพล จ.ตรัง
[[คลิก]] อ่านเรื่องราว “นิยายชีวิต” ได้ที่นี่..