ช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ เปลี่ยนผ่านรัฐบาลใหม่ หลังผ่านพ้น3 การเลือกตั้งมา 3 เดือน 90 วันเต็ม ๆ แล้ว ตั้งแต่วันที่ 14 พ.ค. 66 ยังไม่สามารถ จัดตั้งรัฐบาลใหม่ และ โหวตนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ได้สำเร็จ คงถือเป็นอีกหน้าประวัติศาสตร์การเมืองไทย

เกมกระดานการเมืองพลิกผันกันแบบคาดเดาได้ยากยิ่งนัก แม้ พรรคก้าวไกล จะได้รับฉันทามติจากเสียงประชาชน14,438,851 คะแนน ชนะการเลือกตั้งมาอันดับ 1 ได้ สส.151 คน มี นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ก็ต้องพ่าย กับดัก 250 สว. จนต้องหลุดจากสูตร ข้าวต้มมัดประชาธิปไตย 312 เสียง

ส้มหล่นไปยัง พรรคเพื่อไทย อันดับ 2 สส. 141 คน กำลังเดินหน้ารวบรวมเสียงจัดตั้งรัฐบาล สลัดทิ้งก้าวไกลและสูตรข้าวต้มมัดประชาธิปไตย งัดยุทธศาสตร์สูตร สลายขั้วการเมือง ป่าวประกาศร่วมมือทุกฝ่ายทั้ง สส. และ สว. อ้างเหตุผลจะนำรัฐธรรมนูญออกจากวิกฤติ สร้างความสามัคคี เป็นวาระของประเทศ ขอให้ประชาชนมั่นใจในเพื่อไทยและพรรคการเมืองที่ให้การสนับสนุนครั้งนี้ว่า จะช่วยกันฝ่าวิกฤติไปได้เพื่อประโยชน์ของประชาชน

การเดินหน้าจัดตั้ง “รัฐบาลข้ามขั้ว” ครั้งนี้นำโดย เพื่อไทย141 เสียง, ภูมิใจไทย 71 เสียง, ชาติไทยพัฒนา 10 เสียง,ประชาชาติ 9 เสียง, เพื่อไทรวมพลัง 2 เสียง, ชาติพัฒนากล้า2 เสียง, เสรีรวมไทย, พลังสังคมใหม่, ท้องที่ไทย พรรคละ 1 เสียง รวม 238 เสียง แล้วไปบวก พลังประชารัฐ ที่บอกจะยกมือให้ อีก 40 เสียง ทำาให้ได้ยอด 278 เสียง นอกจากนี้ยังมีกลุ่ม สว.พร้อมโหวตให้ นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของเพื่อไทย

หลายคนแทบไม่เชื่อเพื่อไทย จะตัดสินใจใช้สูตรข้ามขั้วยิ่งไปตอบคำถามสื่อถึงการไปจับมือภูมิใจไทย ซึ่งตอนหาเสียงทั้ง 2 พรรคซัดกันดุเดือดว่า ’ไล่หนูตีงูเห่า มันเป็นภาพของการรณรงค์เพื่อให้ได้มาซึ่งคะแนนเสียงเลือกตั้ง กิจกรรมแต่ละครั้งจัดบนวัตถุประสงค์ที่เกิดขึ้นในขณะนั้น ๆ มิติทางการเมือง เราไปขอเสียงสนับสนุนจากพี่น้องประชาชน เราไม่เคยประกาศว่าเราเป็นศัตรูกับใคร เราเป็นคู่แข่งกันจริง เทคนิคการหาเสียง วิธีการหาเสียง ต่างฝ่ายต่างมี”

จากพรรคการเมืองที่มีอุดมการณ์แรงกล้าประชาธิปไตยต่อสู้อำนาจรัฐประหารมานาน ตอนนี้ต้องลุยไฟฝ่าวิกฤติศรัทธาทั้งกลุ่มคนเสื้อแดง รวมถึงบรรดาแฟนที่สนับสนุนเพื่อไทย ส่วนใหญ่เป็นเสียงของ ประชาชนต่อต้านอำนาจเผด็จการรัฐประหารที่สำคัญเกือบทั้งหมดไม่เอาพรรคการเมืองที่สนับสนุนฝ่ายรัฐประหารจึงตัดสินใจเทคะแนนเสียงให้

เมื่อมองข้ามศรัทธาของประชาชน ตลอดสัปดาห์จึงเกิดความเคลื่อนไหว กลุ่มคนเสื้อแดง ทั้งในกรุงเทพมหานคร และอีกหลายจังหวัด แสดงออกด้วยเชิงสัญลักษณ์หลากหลายรูปแบบหลายคนถึงขั้นนำ รูปถ่ายของ “ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร”เสื้อผ้าสีแดง เสื้อยืดที่เก็บไว้ตั้งแต่สมัย ไทยรักไทย, พลังประชาชน อุปกรณ์ต่าง ๆ นำมาเผาทิ้งแบบไม่มีเยื่อใย เหมือนส่งสัญญาณจบสิ้นกันเสียที นอกจากนี้ยังมีม็อบบุกไปทำกิจกรรมทั้งที่หน้าพรรคเพื่อไทยและภูมิใจไทย อย่างดุเดือด

ถึงแม้เพื่อไทย จะพยายามออกมาอธิบายเหตุผลผ่านทางโซเชียล พร้อมงัดนโยบายตอนหาเสียงขึ้นมาอีก ประกาศว่าจะเร่งเดินหน้าทำเพื่อประชาชน ถ้าจัดตั้งรัฐบาลสำเร็จ คือ 1.ร่างรัฐธรรมนูญใหม่ของประชาชน 2.Digital wallet คนละ 10,000 บาท เดินหน้าทั่วไทย 3.ค่าไฟ ค่าน้ำมัน ลดราคาทันทีและ 4.พักหนี้เกษตร 3 ปี, พักหนี้ SME 1 ปี

เชื่อว่าชาวบ้านตอนนี้เริ่มจับได้ไล่ทัน มองสิ่งที่เพื่อไทยประกาศออกมาเป็นเพียงอีกวาทกรรม ใช้ข้ออ้างเดิมๆเพื่อประชาชน แต่ยอมไปเป็น นั่งร้านให้ขั้วอำนาจเก่า เพราะพรรคที่ดึงเข้ามาเกือบทั้งหมด คือ รัฐบาลเก่าของ “ระบอบ 3 ป.” ที่บริหารประเทศมา 9 ปี สุดท้ายก็หวังแต่ “อำนาจ-ผลประโยชน์” ส่วนประชาชนก็แค่เบี้ยในกระดานถูกหลอกเหมือนเดิม!!

——————-
เชิงผา