“พบกันเป็นประจำทุกวันเสาร์ ข่าวสังคมออนไลน์ภาคกลาง พร้อมนำเสนอข่าวสารรอบตัว รวมทั้งกิจกรรมแต่ละพื้นที่ 8 จังหวัด พร้อมกับ อำเภอพยุหคีรี ตาคลี ตากฟ้า เพื่อให้ประชาชนได้รับรู้ทุกๆ เหตุการณ์……..”

ศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา จัดพิธีบำเพ็ญกุศลและวางพวงมาลา ถวายสักการะ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้ารพีพัฒนศักดิ์ กรมหลวงราชบุรีดิเรกฤทธิ์ บิดาแห่งกฎหมายไทย ใน “วันรพี” พร้อมจัดกีฬาฟุตบอล สานสามัคคี

        วันที่ 7 สิงหาคม 2566 ที่ศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา  นายอาทิตย์ สอนไทย ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา  นายนิวัฒน์ รุ่งสาคร ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นำข้าราชการกระบวนการยุติธรรม เหล่ากาชาดจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมพิธีบำเพ็ญกุศลและวางพวงมาลา น้อมสักการะถวายแด่ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้ารพีพัฒนศักดิ์ กรมหลวงราชบุรีดิเรกฤทธิ์ เนื่องในวันรพี ประจำปี 2566

        นายอาทิตย์ สอนไทย ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา  กล่าวว่า ศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้จัดพิธีดังกล่าวขึ้นเป็นประจำทุกปี ซึ่งเป็นวันคล้ายวันสิ้นพระชนม์ของพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้ารพีพัฒนศักดิ์ กรมหลวงราชบุรีดิเรกฤทธิ์ ผู้ทรงได้รับการยกย่องให้เป็น บิดาแห่งกฎหมายไทย

        ในช่วงเย็น นายอาทิตย์ สอนไทย ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ร่วมกับนายนิวัฒน์ รุ่งสาคร ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นางวัชราภรณ์ รุ่งสาคร นายกเหล่ากาชาดจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นางพะงารัตน์ มาประณีต ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลเด็กและเยาวชนและครอบครัวจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นายศุภกิจ  กลั่นกล้า อัยการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้ร่วมกันจัดการแข่งขันกีฬาเชื่อมความสามัคคีสานสัมพันธ์ “วันระพี” 2566 ต่อเนื่องอีกด้วย   (เผอิญ – วุฒิภัทร ไทยสม / อยุธยา)

ที่ศาลจังหวัดชัยนาท นายทรงธน ติระการ ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดชัยนาท เป็นประธานในพิธีสงฆ์ พร้อมด้วย นางสาวชไมพร อำไพจิตร รองผู้ว่าราชการจังหวัดชัยนาท อัยการจังหวัดชัยนาท และสำนักงานในสังกัดกระทรวงยุติธรรม ร่วมงานรำลึก วันรพี ซึ่งเป็นวันคล้ายวันสิ้นพระชนม์ของพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงราชบุรีดิเรกฤทธิ์ บิดาแห่งกฎหมายไทย จัดการทำบุญพระสงฆ์ 10 รูป โดยมีพระราชวชิรกิจจาทร เจ้าคณะจังหวัดชัยนาทเป็นประธานฝ่ายสงฆ์ และมีการวางพวงมาลา กล่าวคำสดุดี และยืนสงบนิ่งเป็นเวลา 1 นาที เบื้องหน้าพระบรมรูปจำลองพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงราชบุรีดิเรกฤทธิ์

        วันรพี ตรงกับวันที่ 7 สิงหาคม ของทุกปี เป็นวันคล้ายวันสิ้นพระชนม์ของ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงราชบุรีดิเรกฤทธิ์ พระนามเดิม พระองค์เจ้ารพีพัฒนศักดิ์ เป็นต้นราชสกุลรพีพัฒน์ เป็นพระราชโอรสองค์ที่ 14 ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ทรงเป็นผู้วางรากฐานด้านกฎหมายในเมืองไทย จนได้รับพระสมัญญานามว่า พระบิดาแห่งกฎหมายไทย

        พระองค์ทรงศึกษากฎหมายที่ประเทศอังกฤษและฝรั่งเศส เมื่อเสด็จกลับประเทศไทย ทรงดำรงตำแหน่งเสนาบดีกระทรวงยุติธรรม และทรงปฏิรูประบบศาลยุติธรรมให้ทันสมัยและมีประสิทธิภาพ ทรงจัดตั้งโรงเรียนกฎหมายขึ้นเป็นครั้งแรกในประเทศไทย คือ โรงเรียนกฎหมาย (ปัจจุบันคือ คณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย) ทรงเป็นผู้บัญญัติกฎหมายสำคัญหลายฉบับ เช่น ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ประมวลกฎหมายอาญา พระราชบัญญัติจัดตั้งศาลยุติธรรม เป็นต้น

        พระกรณียกิจของพระองค์เจ้ารพีพัฒนศักดิ์ มีส่วนสำคัญอย่างยิ่งในการพัฒนาระบบกฎหมายไทยให้เจริญก้าวหน้า เป็นรากฐานสำคัญในการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข พระองค์จึงได้รับการยกย่องให้เป็น “พระบิดาแห่งกฎหมายไทย”  (วรชล  ฟักขาว  / ชัยนาท)

กิจกรรมถวายพระพรวันแม่แห่งชาติ เดิน ปั่น ปลูก เฉลิมพระเกียรติ

        วันเฉลิมพระชนมพรรษา ของสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมชินีนารถ ในวันที่ 12 สิงหาคม 2566       อันเป็นวันคล้ายวันพระราชสมภพ และถือว่าเป็นวันแม่แห่งชาติ  เป็นวันปิติอีกวันหนึ่งของประชาชนชาวไทย   ผู้ทรงคุณประโยชน์อันยิ่งใหญ่แก่พสกนิกรทุกหมู่เหล่าในสยามประเทศมาอย่างต่อเนื่องและยาวนาน   พระองค์จึงเปรียบเสมือนมารดาของคนไทยทั้งแผ่นดิน 12 สิงหาคม ของทุกปี  จึงได้รับการยกย่องพระองค์ให้เป็นวันแม่แห่งชาติอักด้วย เพื่อยกย่องให้เกียรติแก่สตรีเพศที่อยู่ในสถานะของความเป็นแม่ พระราชกรณียกิจของสมเด็จพระนางเจ้าฯ  พระบรมชินีนารถ ด้านสุขภาพพลานามัยทรงพิจารณาเห็นว่า  เรื่องสุขภาพเป็นสิ่งที่สำคัญ  เพราะเป็นพื้นฐานของสิ่งที่มีชีวิตทั้งมวล หากประชาชนมีสุขภาพอนามัยที่สมบูรณ์ก็มีสติปัญญาเล่าเรียน ประกอบสัมมาอาชีพสร้างสรรค์ความเจริญต่างๆ ให้บ้านเมือง ทรงเห็นว่าพลเมืองแข็งแรง ย่อมสามารถสร้างชาติที่มั่นคงได้                                                                                                                     นางเพลินพิศ  ศรีภพ นายกเทศมนตรีเมืองตาคลีกล่าวว่า  เทศบาลเมืองตาคลี อำเภอตาคลี จังหวัดนครสวรรค์   จัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จฯพระนางเจ้าสิริกิตติ์ พระบรมชินีนารถ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 91พรรษา 12 สิงหาคม 2566โดยกำหนดจัดพิธีถวายพระพรและกิจกรรมเดิน ปั่น ปลูกเฉลิมพระเกียรติ ในวันที่ 9 สิงหาคม 2566 ณ บริเวณหน้าสำนักงานเทศบาลเมืองตาคลี        (แห่งใหม่)  ซึ่งในการดำเนินการกิจกรรมเดินและปั่นจักรยานเพื่อสุขภาพ กิจกรรมปลูกต้นไม้ และขยายพันธุ์ไม้เพื่อสิ่งแวดล้อม  ณ บริเวณวัดพุทธนิมิต จะมีข้าราชการ ทหาร ตำรวจ ภาครัฐ-ภาคเอกชน   กลุ่มสตรี ชุมชน อสม.ชมรมคนรักกีฬา ชมรมเพื่อสุขภาพ นักเรียน นักศึกษา และเยาวชนประมาณ 1,000 คน

                พิธีเริ่ม เวลา 07.20 น. การแสดงรำถวายพระพร  เวลา 07.39 น พิธีถวายพระพร สมเด็จฯพระนางเจ้าสิริกิตติ์ พระบรมชินีนารถ  เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 91พรรษา 12 สิงหาคม 2566  นางเพลินพิศ ศรีภพ นายกเทศมนตรีเมืองตาคลี ประธานในพิธี  ขึ้นเวทีประดิษฐานพระบรมสาทิสลักษณ์ เปิดกรวยดอกไม้ ถวายพานพุ่มดอกมะลิ  ถวาย เครื่องราชสักการะ  และกล่าวถวายราชสดุดีเฉลิมพระเกียรติ  ผู้เข้าร่วมร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี  จากนั้นประธานในพิธีมอบประกาศเกียรติคุณแม่ดีเด่นเทศบาลเมืองตาคลีปี 2566  หลังจากนั้นผู้เข้าร่วมกิจกรรมวันแม่แห่งชาติจะปั่นจักรยาน เพื่อเฉลิมพระเกียรติ  เส้นทางเริ่มออกจากหน้าสำนักงานเทศบาลเมืองตาคลีแห่งให่ม  และเลี้ยวซ้ายไปสวนสาธารณะสระทะเล ผ่านสนามเทนนิสเทศบาลตาคลี เลี้ยวขวาเข้าสู่ถนนหัสนัย  ผ่านหน้าโรงพยาบาลตาคลี เลี้ยวขวาถนนประชาตาคลี  เลี้ยวซ้ายลอดอุโมงค์ทางรถไฟบ้านไร่ปลายนา  เลี้ยวขวาสู่ถนนทวีชัย  ผ่านวัดเขาถ้ำประทุน เลี้ยวซ้ายเข้าสู่วัดพุทธนิมิต ซึ่งเป็นจุดเป้าหมาย ร่วมรับประทานอาหารถ่ายรูปร่วมกัน  หลังจากนั้นทางเทศบาลเมืองตาคลียังมอบต้นไม้ให้กับผู้มาร่วมกิจกรรมนำไปปลูกที่บ้านคนละ 1 ต้นอีกด้วย

        วัตถุประสงค์ เพื่อจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมชินีนารถ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 86 พรรษา วันที่ 12 สิงหาคม 2566 และน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ เพื่อประกาศเกียรติคุณและยกย่องความเป็นแม่ ต่อสังคมให้ได้รับการยกย่องเชิดชู  เพื่อส่งเสริมกิจกรรมออกกำลังกาย เพื่อสุขภาพและสร้างพลังต่อต้านยาเสพติดให้กับประชาชนและเยาวชน นักเรียน นักศึกษา ห่างไกลยาเสพติด  เพื่อรณรงค์และส่งเสริมให้ทุกภาคส่วนของสังคมตระหนักถึงความสำคัญในการออกกำลังกายและรักษาสิ่งแวดล้อม  นอกจากนั้นยังประกาศเกียรติคุณแม่ดีเด่นที่ทุกคนได้รับในวันแม่แห่งชาติ และเป็นเกียรติแก่ครอบครัวผู้ได้รับอีกด้วย  (กิตติ์ธเนศ พัวพรพงษ์ / นครสวรรค์)

ขอเชิญร่วมงาน “4 สิงหาคม วันคุณธรรม” ต้นแบบจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ประจำปี พ.ศ. 2566

        ณ หอประชุมพระพิรุณระลึกโปรดเกล้าฯมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ ตำบลหันตรา อำเภอพระนครศรีอยุธยา เพื่อเป็นการรำลึกถึงวันคุณธรรมจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งจังหวัดพระนครศรีอยุธยาเป็นจังหวัดแรกของประเทศที่ได้ประกาศให้มีวันคุณธรรมขึ้น และเพื่อเชื่อมโยงเครือข่าย ตลอดจนสนับสนุนการขับเคลื่อนแผนปฏิบัติการด้านการส่งเสริมคุณธรรมแห่งชาติ ระยะที่ 2 (พ.ศ. 2566 – 2567)

        ภายในงานนายนิวัฒน์ รุ่งสาคร ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นประธานในพิธีเปิดงานพร้อมเดินชมร้านค้าในบริเวณงาน ในงานนางสุณิสา โกศินานนท์ นักวิชาการวัฒนธรรม ชำนาญการพิเศษ รักษาราชการแทนวัฒนธรรมจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กล่าววัตถุประสงค์ในการจัดงานในวันที่ 4 สิงหาคมวันคุณธรรม พร้อมกันนั้นทางนายนิวัฒน์ฯ ได้แจกเกียรติบัตรรางวัลคนดีศรีจังหวัด ประจำปี 2566 ให้กับ  พันตำรวจโทวีระ นุชศิลป์ ประเภทประชาชน และนายสุรบดินทร์ ผกาหอม ประเภทเด็กและเยาวชน พร้อมกับมอบเกียรติบัตรให้กับเครือข่ายสภาองค์กรคุณธรรมต้นแบบโดดเด่นอีกด้วย

        นายนิวัฒน์ รุ่งสาคร ได้กล่าวถึง ใน “งาน 4 สิงหาคม วันคุณธรรม”  ซึ่งจังหวัดพระนครศรีอยุธยาเป็นจังหวัดแรกของประเทศที่ได้ประกาศให้มีวันคุณธรรมขึ้น เพื่อสนับสนุนการขับเคลื่อนแผนปฏิบัติการด้านการส่งเสริมคุณธรรมแห่งชาติ ระยะที่ 2 ตลอดการเชื่อมโยงเครือข่ายทุกภาคส่วนในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ การขับเคลื่อนและพัฒนาคุณธรรม ในระดับองค์กรและพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา พร้อมกันนี้ทางหน่วยงานได้จัดกิจกรรมส่งเสริมคุณธรรม ภายในแนวคิด “ชาวอยุธยามีวินัย ใส่ใจส่วนรวม” ในช่วงเดือนสิงหาคม 2566 “จัดทอดผ้าป่าขยะรีไซเคิล เสริมหนุนอยุธยาเมืองสะอาด” เช่น ขวดพลาสติก กระดาษ ลังกระดาษ ฯลฯ นำไปช่วยในการทำกิจกรรมต่างๆ   (เผอิญ – วุฒิภัทร ไทยสม / อยุธยา)

สิงห์บุรี จัดกิจกรรมโครงการน้ำพระทัยพระราชทานส่วนภูมิภาค เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชนนีพันปีหลวง

        วันที่ 8 สิงหาคม 2566 นายสุพจน์ ยศสิงห์คำ ผู้ว่าราชการจังหวัดสิงห์บุรี เป็นประธานในพิธิเปิดกิจกรรมโครงการน้ำพระทัยพระราชทานส่วนภูมิภาค สมาคมสภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย ในพระราชูปถัมภ์ 76 จังหวัด ประจำปี 2566 เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชนนีพันปีหลวง เป็นปีที่ 25 ณ หอประชุมองค์การบริหารส่วนจังหวัดสิงห์บุรี โดยสภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทยฯ ร่วมกับจังหวัดสิงห์บุรีพร้อมด้วยสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดสิงห์บุรี

         โดยนางจิราภรณ์ กองเงิน รองนายกเหล่ากาชาดจังหวัดสิงห์บุรี นางสมคิดรอดอินทร์ ประธานชมรมแม่ดีเด่นแห่งชาติประจำจังหวัดสิงห์บุรี ประธานกรรมการประสานงานส่วนภูมิภาค ภาค 2 ประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดสิงห์บุรี คณะกรรมการเหล่ากาชาด อุตสาหกรรมจังหวัด องค์การบริหารจังหวัดสิงห์บุรี ภาครัฐและเอกชน ร่วมกันจัดกิจกรรมเลี้ยงอาหารกลางวันให้กับผู้สูงอายุ ผู้พิการและผู้ด้อยโอกาส มอบเครื่องอุปโภคบริโภค มอบวีลแชร์ ให้ผู้พิการ และบริการทันตกรรม เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชนนีพันปีหลวง เนื่องในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษาในเดือนกรกฎาคม และเดือนสิงหาคม 2566  (อำนาจ  สุขเย็น / สิงห์บุรี)

ศูนย์วงเดือน อาคมสุรทัณฑ์ จัดโครงการ Open House เปิดบ้านวิชาชีพ เพื่อส่งเสริมพัฒนาการเรียนรู้ สู่คุณภาพชีวิตที่ดี ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566

       ที่ศูนย์วงเดือน อาคมสุรทัณฑ์ อำเภอเมืองอุทัยธานี จังหวัดอุทัยธานี นายธีรพัฒน์ คัชมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุทัยธานี เป็นประธานเปิด โครงการ Open House เปิดบ้านวิชาชีพ เพื่อส่งเสริมพัฒนาการเรียนรู้ สู่คุณภาพชีวิตที่ดี ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 โดยมี นายอลงกต วรกี นายพีระพล ตัณฑโอภาส รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุทัยธานี นางอุทัยวรรณ โพธิ์กระจ่าง ผู้อำนวยการศูนย์วงเดือน อาคมสุรทัณฑ์ นางสมพร โต๋วสัจจา รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุทัยธานี ส่วนราชการ ครู นักเรียน นักศึกษา และประชาชน เข้าร่วมกิจกรรม

            ศูนย์วงเดือน อาคมสุรทัณฑ์ เป็นศูนย์ฝึกอาชีพตามพระราชดำริ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้ดำเนินการจัดการศึกษา เพื่อเพิ่มพูนทักษะและมีช่องทางการประกอบอาชีพสำหรับสร้างรายได้ให้กับตนเอง และครอบครัว สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงพระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ จำนวน 10,600,000 บาท ในการก่อสร้างศูนย์ฝึกอาชีพตามพระราชดำริ บนที่ดินในพระนามาภิไธย ซึ่งนางสาววงเดือน อาคมสุรทัณฑ์ ได้น้อมเกล้าฯ ถวาย และพระราชทานชื่อว่า ศูนย์วงเดือน อาคมสุรทัณฑ์ ซึ่งศูนย์วงเดือน อาคมสุรทัณฑ์ ได้ดำเนินการจัดการศึกษา และฝึกอบรมอาชีพ เพื่อสนองพระราชดำริ และส่งเสริมให้ประชาชนมีความรู้ มีอาชีพ มีรายได้ และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

              โดยในวันนี้ ศูนย์วงเดือน อาคมสุรทัณฑ์ ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุทัยธานี จำนวน 300,000 บาท เพื่อใช้ในการจัดฝึกอบรมอาชีพให้กับประชาชนในจังหวัดอุทัยธานี และได้จัดงาน Open House เปิดบ้านวิชาชีพ เพื่อส่งเสริมพัฒนาการเรียนรู้ สู่คุณภาพชีวิตดี ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2566 ในระหว่าง วันที่ 3 – 4 สิงหาคม 2566 ณ บริเวณศูนย์วงเดือน อาคมสุรทัณฑ์ โดยมีวัตถุประสงค์

1.เพื่อพัฒนาประชาชนให้เกิดการเรียนรู้ด้านอาชีพ                                                                                                       2.เพื่อประชาสัมพันธ์เผยแพร่ผลงานของผู้เรียน ให้เป็นที่รู้จักแพร่หลาย                                                                         3.เพื่อเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่ายให้กับผู้เรียน

        รูปแบบของการจัดงานฯ ครั้งนี้ ประกอบไปด้วยกิจกรรมสาธิตอาชีพ จัดแสดงนิทรรศการ – ผลงานของผู้เรียน และจำหน่ายสินค้าผลิตภัณฑ์ของผู้เรียน และของกลุ่มคนพิการ  (ชนม์สวัสดิ์ ทองโพธิ์งาม / อุทัยธานี)

เข้าเยี่ยมคารวะ พร้อมปรึกษาข้อราชการเกี่ยวกับกิจกรรมของสมาคมฯ

                นายไชยยงค์ มณีพิลึกกุล นายกสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์ส่วนภูมิภาคแห่งประเทศไทย (สนพท.) หัวหน้าศูนย์เดลินิวส์ภาคใต้ (หาดใหญ่) พร้อมคณะกรรมการฯ เข้าเยี่ยมคารวะ นายผล ดำธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี และเพื่อปรึกษาข้อราชการเกี่ยวกับกิจกรรมของสมาคมฯ โดยมี นายวิรัตน์ เดชะวราฤทธิ์ ผู้สื่อข่าว เดลินิวส์ จังหวัดสระบุรี (ประธานชมรมสื่อมวลชน จังหวัดสระบุรี) ร่วมเข้าพบด้วย ณ ห้องรับรอง ผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี (ชั้น 4) เมื่อ บ่าย วันที่ 8 สิงหาคม 2566  (วิรัตน์ เดชะวราฤทธิ์ / สระบุรี)

สิงห์บุรี จัดโครงการสืบสานประเพณียายดอกไม้ เนื่องในเทศกาลเข้าพรรษา

        ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสุพจน์ ยศสิงห์คำ ผู้ว่าราชการจังหวัดสิงห์บุรี เป็นประธานเปิดโครงการสืบสานประเพณียายดอกไม้ เนื่องในเทศกาลเข้าพรรษา ณ วัดจินดามณี ตำบลบ้านแป้ง อำเภอพรหมบุรี จังหวัดสิงห์บุรี โดยมีนายประสิทธิ์ พุ่มไม้ชัยพฤกษ์ วัฒนธรรมจังหวัดสิงห์บุรี วัดจินดามณี องค์การบริหารส่วนจังหวัดสิงห์บุรี และองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านแป้งจัดทำโครงการสืบสานประเพณียายดอกไม้ ตักบาตรดอกไม้ เทศกาลเข้าพรรษาตำบลบ้านแป้ง เพื่อสืบสานและอนุรักษ์วัฒนธรรมประเพณีอันดีงามรวมถึงเป็นการรักษาไว้ซึ่งวัฒนธรรมภูมิปัญญาท้องถิ่นของตำบลบ้านแป้ง ส่งเสริมให้ชุมชนเกิดรายได้และการท่องเที่ยวของจังหวัดสิงห์บุรีในรูปแบบการจัดงานประเพณีให้เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย

        ซึ่งประเพณียายดอกไม้เป็นประเพณีเก่าแก่ของชุมชนบ้านแป้งที่สืบทอดกันมาราวปี พ.ศ.2381 หรือประมาณ 185 ปีมาแล้ว โดยผู้ที่ริเริ่มประเพณียายดอกไม้ในชุมชนบ้านแป้งสันนิษฐานว่าเป็นบรรพบุรุษที่สืบเชื้อสายมาจากชาวลาวเวียงจันทน์ที่ถูกกวาดต้อนเข้ามาในประเทศไทยเมื่อครั้งสงครามปราบกบฏเจ้าอนุวงศ์แห่งกรุงเวียงจันทน์และด้วยเหตุว่าชาวลาวเวียงจันทน์ที่อพยพเข้ามาอยู่ในชุมชนบ้านแป้งเป็นพุทธศาสนิกชนจากการสร้างวัดอารามในเขตตำบลบ้านแป้งในครั้งนั้นและมีการสืบทอดพิธีพุทธบูชาในเทศกาลเข้าพรรษาโดยมีการถวายเทียนจำนำพรรษาและตักบาตรดอกไม้ซึ่งก็คือการนำข้าวตอกดอกไม้สีขาวใส่ในกระทงแล้วหยิบใส่บาตรพระสงฆ์ขณะกำลังเดินเข้าพระอุโบสถเพื่อทำพิธีอธิษฐานเข้าพรรษา ในวันแรม 1 ค่ำ  (อำนาจ  สุขเย็น / สิงห์บุรี)

สระบุรีประชุมคณะกรรมการบริหารงานจังหวัดแบบบูรณาการและคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อพัฒนาและแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจ

        ผู้สื่อข่าวรายงานมาว่า ที่ห้องประชุมพระพุทธบาท ศาลากลางจังหวัดสระบุรี นายผล  ดำธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารงานจังหวัดแบบบูรณาการและคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อพัฒนาและแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจจังหวัดสระบุรี โดยมีการรายงานผลการเบิกจ่ายงบประมาณโครงการตามแผนปฏิบัติราชการประจำปี 2566 ของจังหวัดสระบุรี การจัดทำแผนงานด้านความมั่นคงจังหวัดสระบุรี การดำเนินโครงการก่อสร้างสะพานกลับรถบนถนนมิตรภาพ 4 จุด แขวงทางหลวงรายงานว่า สะพานเกือกม้าบนทางหลวงหมายเลข 2 ปัจจุบัน ได้ทำการสำรวจเบื้องต้นหาตำแหน่งที่เหมาะสม ยังไม่ผ่านกระบวนการมีส่วนร่วมกับประชาชนเป็นเพียงศึกษาความเป็นไปได้ และงบประมาณอยู่ระหว่างเสนอ ครม.อนุมัติโครงการ

        ด้านพาณิชย์จังหวัดสระบุรี รายงานว่า จังหวัดสระบุรี ได้รับเป็นเจ้าภาพในการจัดงาน UP EXPO 2023 ภายใต้โครงการเพิ่มขีดความสามารถในการบริหารจัดการห่วงโซ่คุณค่าสินค้าเกษตร กิจกรรมหลักสร้างการรับรู้และส่งเสริมการตลาดธุรกิจเกษตร โดยกำหนดจัดวันที่ 28 สิงหาคม – 3 กันยายน 2566 ณ ตลาดจตุจักร สระบุรี ในงานมีการออกบูธจำหน่ายสินค้า การจัดแสดงสินค้า การเจรจาธุรกิจ รวม 200 บูธ การแสดงดนตรี ตลอดงาน มีกลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนบนร่วมงาน นอกจากนี้ในการประชุม ได้ให้ความเห็นชอบการเปลี่ยนแปลงโครงการต่าง ๆ เพื่อให้มีความเหมาะสมและเกิดประโยชน์สูงสุดอีกด้วย  (สมนึก  สุขีรัตน์ / สระบุรี)

ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดลพบุรี เตรียมขับเคลื่อน ยุทธศาสตร์ ยกระดับการท่องเที่ยวเมืองละโว้

              นางเพชรรัตน์ เลิศรัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี  เป็นประธานการประชุมคณะทำงานขับเคลื่อนยุทธศาสตร์การพัฒนา จังหวัดลพบุรี ประเด็นการพัฒนาที่ 2 พัฒนาฟื้นฟูและยกระดับการท่องเที่ยวพร้อมรับการท่องเที่ยววิถีใหม่ โดยมีน.ส.นพรัตน์  ศตะรัตน์  ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดลพบุรี  นางสวามินี อิสระทะ ประชาสัมพันธ์จังหวัดลพบุรี   รวมทั้งคณะทำงาน ประเด็นการพัฒนาที่ 2 และส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม   ที่ห้องคอนเวนชั่น โรงแรมลพบุรีอินน์ อำเภอเมืองลพบุรี  จังหวัดลพบุรี 

                การประชุมในครั้งนี้เพื่อรับทราบแผนงานโครงการ ที่สำคัญภายใต้แผนพัฒนาจังหวัดปี 2566-2570 ฉบับทบทวนประจำปีงบประมาณพ.ศ 2567 ประเด็นพัฒนาที่ 2 พัฒนา ฟื้นฟูและยกระดับการท่องเที่ยว พร้อมรับกับการท่องเที่ยววิถีใหม่ ทั้งนี้เพื่อยกระดับแหล่งท่องเที่ยว และการค้าสินค้าชุมชนให้ขยายตัวเพิ่มสูงขึ้นโดยตั้งเป้าหมายไว้ว่ามีจำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นร้อยละ 5 และรายได้การท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นร้อยละ 5 เช่นกัน

                สำหรับแผนงานกิจกรรมที่สำคัญคือ แผนงานที่ 1 พัฒนายกระดับโครงสร้างพื้นฐานสนับสนุนการท่องเที่ยวและแหล่งท่องเที่ยว  1 โครงการ งบประมาณ 90 ล้านบาทเศษ  แผนงานที่ 2 พัฒนาสินค้าบริการและปัจจัยสนับสนุนการท่องเที่ยว  1 โครงการ งบประมาณ 1 ล้านบาทเศษ และแผนงานที่ 3 สร้างความเชื่อมั่นด้านภาพลักษณ์และประชาสัมพันธ์ส่งเสริมการตลาดการท่องเที่ยว 1 โครงการ งบประมาณ 31 ล้านบาทเศษ  นอกจากนี้ยังมีการพิจารณาถึงโครงการกิจกรรมที่เสนอขอรับการเปลี่ยนงบประมาณตามแผนปฏิบัติราชการจังหวัดลพบุรีประจำปีงบประมาณ 2568 โดยมีแผนงานที่ 1 พัฒนายกระดับโครงสร้างพื้นฐานสนับสนุนการท่องเที่ยวและแหล่งท่องเที่ยวหลักของจังหวัดลพบุรีจำนวน 1 โครงการ แผนงานที่ 2 พัฒนาสินค้าบริการและปัจจัยสนับสนุนการท่องเที่ยว จำนวน 1 โครงการคือกิจกรรมพัฒนาสินค้าท้องถิ่นและผลิตภัณฑ์ชุมชน  แผนงานที่ 3 สร้างความเชื่อมั่นด้านภาพลักษณ์และประชาสัมพันธ์ส่งเสริมการตลาดด้านการท่องเที่ยว จำนวน 1 โครงการ 2 กิจกรรมคือกิจกรรมพัฒนาทักษะบุคลากรด้านการท่องเที่ยวและบริการ และกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมและประเพณีท้องถิ่น โดย สำนักงานท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดลพบุรี จะส่งแผนงานที่สมบูรณ์ให้กับสำนักงานจังหวัดลพบุรีเพื่อรวบรวมเสนอสำนักงบประมาณต่อไป  (กฤษณพงศ์ อยู่รอด – ธนพล อาภรณ์พงษ์ / ลพบุรี)

สระบุรี ประชุมขับเคลื่อนนโยบายและแผนปฏิบัติการด้านการประชาสัมพันธ์แห่งชาติ ครั้งที่ 2/2566

        ที่ห้องประชุมสำนักงานคลังจังหวัดสระบุรี นางอังคณา  ชิตะติตติ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี เป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการประชาสัมพันธ์แห่งชาติระดับจังหวัด  ครั้งที่ 2/2566 โดยมี นายธีระชัย  มังกรทอง ประชาสัมพันธ์จังหวัดสระบุรี พร้อมด้วย คณะอนุกรรมการประชาสัมพันธ์แห่งชาติระดับจังหวัด ร่วมประชุม ณ ห้องประชุมสำนักงานคลังจังหวัดสระบุรี

              การประชุมครั้งนี้ เป็นการติดตามผลการดำเนินงานตามแผนปฏิบัติการประชาสัมพันธ์แห่งชาติระดับจังหวัด ประจำปีงบประมาณ 2566 ที่คณะอนุกรรมการประชาสัมพันธ์แห่งชาติระดับจังหวัด ได้ขับเคลื่อนนโยบายและแผนการประชาสัมพันธ์แห่งชาติที่สอดคล้องกับประเด็นการประชาสัมพันธ์ เรื่องสื่อสารที่สำคัญในประเทศ จำนวน 7 ประเด็น และ เรื่องสื่อสารที่สำคัญด้านต่างประเทศ จำนวน 4 ประเด็น รวมทั้งประเด็นสื่อสารที่สำคัญในระดับพื้นที่ จำนวน 2 ประเด็น โดยมีผลการดำเนินงานเป็นไปแผนและเป้าหมายที่วางไว้

                ในปี 2566 คณะกรรมการประชาสัมพันธ์แห่งชาติ ให้ความเห็นชอบ กำหนดประเด็นการประชาสัมพันธ์ เรื่องสื่อสารที่สำคัญในประเทศ ประจำปี 2566 ที่มีความสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ แผนระดับชาติและนโยบายของรัฐบาล จำนวน 7 ประเด็น ได้แก่ การพัฒนาประเทศด้วยโมเดลเศรษฐกิจ BCG การฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังโควิด-19 การบริหารจัดการระบบสาธารณสุขและสถานการณ์โรคอุบัติใหม่  สังคมสูงวัยกับวิถีชีวิตในอนาคต การรู้เท่าทันสื่อสารสนเทศและดิจิทัล  การส่งเสริมค่านิยมที่ดีของไทย และ ธรรมาภิบาลในการบริหารงานภาครัฐ และเรื่องสื่อสารที่สำคัญด้านต่างประเทศ ประจำปีงบประมาณ 2566 จำนวน 4 ประเด็น ประกอบด้วย BCG Economy เศรษฐกิจยุคใหม่ Tech and Innovation นวัตกรรมไฮ-เทคโนโลยี  Health Care ความก้าวหน้าทางการแพทย์ระดับโลก และ Thai Soft Power ความเป็นไทยสู่สากล   (สมนึก  สุขีรัตน์ / สระบุรี)

ผู้ว่าฯอยุธยา สั่งการเจ้าท่าอยุธยาเร่งกำจัด ผักตบชวาต่อเนื่อง ในช่วงนี้หนาแน่น  ไม่ให้กระทบการสัญจรทางเรือ

        นายนิวัฒน์ รุ่งสาคร ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เปิดเผยถึงปัญหาผักตบชวาในแม่น้ำเจ้าพระยา  โดยจากการติดตามสถานการณ์ฯ  พบว่า มีปัจจัยหลาย ๆ ปัจจัย ที่ทำให้ปริมาณผักตบชวามีมากตามแม่น้ำลำคลองต่าง ๆ อาทิ น้ำทะเลหนุนสูง ช่วงเวลาน้ำขึ้นน้ำลง ซึ่งจากสาเหตุเหล่านี้ทำให้ปริมาณผักตบชวาจะหนาแน่นโดยเฉพาะช่วงจุดบรรจบแม่น้ำเจ้าพระยาและป่าสัก ที่บริเวณวัดพนัญเชิงวรวิหาร โดยทางเจ้าท่าอยุธยา ได้สั่งการให้ นายพีรธร นาคสุข ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาอยุธยา ติดตามสถานการณ์ผักตบชวาที่ลอยอยู่เต็มแม่น้ำเจ้าพระยา และแม่น้ำป่าสัก โดยสำนักพัฒนาและบำรุงรักษาทางน้ำ ได้ดำเนินการกำจัดผักตบชวาและวัชพืช ภายใต้การบูรณาการกับหน่วยงานต่างๆ และการกำกับของคณะกรรมการอำนวยการบูรณาการเพื่อแก้ไขปัญหาผักตบชวา ในการบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนและเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำ โดยเจ้าท่าฯ ได้จัดผักตบชวาในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ทางเจ้าท่าได้ประสานศูนย์ขุดนำเรือขจัดผักตบชวาจากแม่น้ำน้อย เข้าประจำการ ที่บริเวณจุดตัดแม่น้ำเจ้าพระยาป่าสัก หน้า วัดพนัญเชิงเป็นการด่วน  (ศูนย์ข่าวภาคกลาง)

อำเภอวังน้อย ร่วมกับ  เทศบาลเมืองลำตาเสา   เปิดโครงการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดและการปฏิบัติการชุมชนยั่งยืน เพื่อแก้ไขปัญหายาเสพติดแบบครบวงจร  

        วันที่ 5 สิงหาคม 2566 ที่  เทศบาลเมืองลำตาเสา อำเภอวังน้อย นายนิวัฒน์ รุ่งสาคร ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา  มอบหมายให้  นายไพรัตน์ เพชรยวน รองผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นประธานเปิดโครงการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดและการปฏิบัติการชุมชนยั่งยืน เพื่อแก้ไขปัญหายาเสพติดแบบครบวงจร ตามยุทธศาสตร์ชาติของชุมชนลำตาเสา ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2566   โดยมี พล.ต.ท.นพดล ศรสำราญ ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ต.ชยานนท์ มีสติ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นางสมทรง พันธ์เจริญวรกุล นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นางสมศรี พันธ์เจริญวรกุล นายกเทศมนตรีเมืองลำตาเสา พ.ต.อ.สมเจษฐ์ แม้นบุตร ผกก.สภ.วังน้อย หัวหน้าส่วนราชการ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และผู้เกี่ยวข้อง เข้าร่วมตรวจติดตามการดำเนินโครงการในครั้งนี้

        นายไพรัตน์ เพชรยวน รองผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า  ตามที่รัฐบาลได้กำหนดการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดเป็นวาระแห่งชาติ โดยในปีงบประมาณ พ.ศ.2566 สำนักงานตำรวจแห่งชาติกำหนดให้สถานีตำรวจทุกแห่งทั่วประเทศ ดำเนินการ 1 สถานีตำรวจต่อ 1 ชุมชน โดยเน้นการบูรณาการร่วมกันทุกภาคส่วน สำหรับจังหวัดพระนครศรีอยุธยา สถานีตำรวจภูธรวังน้อย ได้กำหนดเป้าหมาย คือ ชุมชนลำตาเสา ตำบลลำตาเสา อำเภอวังน้อย เป็นพื้นที่ดำเนินการโครงการฯ โดยบูรณาการกับ ฝ่ายปกครอง เทศบาลเมืองลำตาเสา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมกันทั้งตำบล รวม 13 หมู่บ้าน โดยตำรวจชุดปฏิบัติการชุมชนมวลชนสัมพันธ์ เข้าดำเนินการในพื้นที่เป้าหมาย เป็นระยะเวลา 3 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน – 30 มิถุนายน 2566  (ศูนย์ข่าวภาคกลาง)

สภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย ร่วมกับศูนย์การค้าอยุธยาซิตี้พาร์ค จัดฟรีคอนเสิร์ต “รวมพลลูกกตัญญูแห่งชาติ” ครั้งที่ 14 “ด้วยรักแห่งแผ่นดิน เทิดพระเกียรติสมเด็จพระพันปีหลวง”     

        วันที่ 4 สิงหาคม 2566  ที่ ศูนย์การค้าอยุธยาซิตี้พาร์ค นายนิวัฒน์ รุ่งสาคร ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา มอบหมายให้ นายประทีป การมิตรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ให้การต้อนรับ คณะจากสภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ นำโดย ร้อยตำรวจโท ดร.มนัส โนนุช รองประธานสมาคมสภาสังคมสงเคราะห์ฯ และประธานคณะกรรมการจัดงานฟรีคอนเสิร์ต “รวมพลลูกกตัญญูแห่งชาติ” ครั้งที่ 14 “ด้วยรักแห่งแผ่นดิน เทิดพระเกียรติสมเด็จพระพันปีหลวง” เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาครบ 91 พรรษา 12 สิงหา วันแม่แห่งชาติ ประจำปี 2566 โดยมี นางสาวปภาวี ด่านชัยวิโรจน์ ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ศูนย์การค้าอยุธยาซิตี้พาร์ค นางสมทรง พันธ์เจริญวรกุล นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ผู้แทนภาครัฐ และภาคเอกชน ร่วมจัดงานในครั้งนี้

        นางสาวปภาวี ด่านชัยวิโรจน์ เปิดเผยว่า สภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย ร่วมกับศูนย์การค้าอยุธยาซิตี้พาร์ค และสมาคมลูกกตัญญูแห่งชาติ จัดฟรีคอนเสิร์ต “รวมพลลูกกตัญญูแห่งชาติ” ครั้งที่ 14 “ด้วยรักแห่งแผ่นดิน เทิดพระเกียรติสมเด็จพระพันปีหลวง” โดยนำดาราศิลปิน “ลูกกตัญญูแห่งชาติ” มาร่วมเปิดฟรีคอนเสิร์ต ส่งต่อความรักให้กับเหล่าบรรดาคุณแม่แน่นเวที เพื่อแสดงพลังความจงรักภักดีและเทิดพระเกียรติ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาครบ 91 พรรษา 12 สิงหา วันแม่แห่งชาติ ประจำปี 2566 รวมทั้งรวมพลังแห่งความรัก ความกตัญญูของสถาบันครอบครัวไทยให้เต็มเปี่ยมไปด้วยความรัก ความผูกพัน คุณค่าของความสัมพันธ์ระหว่างแม่ – ลูก ตลอดจนส่งเสริมให้เยาวชน รู้ถึงบทบาทหน้าที่ของการเป็นลูกที่ดี  (วุฒิภัทร ไทยสม / อยุธยา)

วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี ชัยนาท จัดโครงการเสริมสร้างเอกลักษณ์ของการก้าวเข้าสู่วิชาชีพ พิธีรับหมวกและเข็มชั้นปีที่ 2 รุ่นที่ 30 ปีการศึกษา 2566

        ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่หอประชุมทรงบาดาล วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี ชัยนาท ตำบลชัยนาท อำเภอเมือง จังหวัดชัยนาท ดร.ชุติมา มาลัย ผู้อำนวยการวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี ชัยนาท คณะพยาบาลศาสตร์ สถาบันพระบรมราชชนก เป็นประธานโครงการเสริมสร้างเอกลักษณ์ของการก้าวเข้าสู่วิชาชีพ พิธีรับหมวกและเข็มชั้นปี ปีการศึกษา 2566 ให้กับนักศึกษาพยาบาลศาสตรบัณฑิต ชั้นปีที่ 2 รุ่นที่ 30 จำนวน 108 คน

        นางสาวจารุวรรณ ก้านศรี รองผู้อำนวยการวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี ชัยนาท รายงานว่า พิธีการรับหมวก เป็นพิธีที่แสดงถึงการก้าวเข้าสู่วิชาชีพการพยาบาลของนักศึกษาพยาบาล เป็นการปลูกฝังค่านิยมแห่งวิชาชีพและจรรยาบรรณวิชาชีพการพยาบาลและแสดงให้เห็นว่านักศึกษาพยาบาล ได้ผ่านการเรียนรู้มาด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจ มีมานะอดทน จนมีความรู้ความสามารถและพร้อมก้าวเข้าสู่วิชาชีพพยาบาล หมวกและเข็มเป็นสัญลักษณ์ที่บอกถึงความรู้ความสามารถของวิชาชีพพยาบาลที่เพิ่มมากขึ้นของนักศึกษาพยาบาล

        ดร.ชุติมา มาลัย ผู้อำนวยการวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี ชัยนาท พร้อมด้วยรองผู้อำนวยการและคณาจารย์ ติดหมวกและเข็มชั้นปี แก่นักศึกษาพยาบาลศาสตรบัณฑิต ชั้นปีที่ 2 รุ่นที่ 30 นักศึกษาชั้นปีที่ 2 กล่าวคำปฏิญาณและร่วมร้องเพลงมาร์ชนักเรียนพยาบาล พร้อมมอบหมวกและเข็มชั้นปีเป็นพิธีความชื่นชมยินดีพิธีหนึ่ง แสดงถึงความเป็นเอกลักษณ์ในวิชาชีพพยาบาลนักศึกษาจะต้องเป็นผู้ที่รู้จริงในวิชาชีพ ทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ นักศึกษาจะต้องรับผิดชอบดูแลชีวิตของผู้รับบริการ มีความเมตตาและเอาใจใส่ เพื่อให้ผู้รับบริการ ได้รับการดูแลรักษาพยาบาลที่ถูกต้อง และ ได้รับการสร้างเสริมสุขภาพทั้งกายและใจ ด้วยหัวใจความเป็นมนุษย์ เพื่อให้หายจากการเจ็บป่วยโดยเร็ว   (สุรพล  บำรุงศรี  / ชัยนาท)

“สองมือเธอ สองมือฉัน ช่วยกันทำความสะอาด” พื้นที่เขตเมืองเก่าลพบุรี เร่งสร้างการมีส่วนร่วมทุกภาคส่วนอย่างต่อเนื่อง

        นายสุชาติ กลิ่นทองหลาง เกษตรจังหวัดลพบุรี   นำส่วนราชการ  ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่ในสังกัด เกษตรจังหวัด ฯ สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัด ฯ   กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช  และประชาชนชาวจังหวัดลพบุรี  ร่วมกันทำความสะอาดบริเวณเขตเมืองเก่าลพบุรี ในกิจกรรม “สองมือเธอ สองมือฉัน ช่วยกันทำความสะอาด”   โดยร่วมกันทำความสะอาดจุดให้อาหารลิง หลังพระปรางค์สามยอด  บริเวณรั้วโรงเรียนพิบูลวิทยาลัย  และ บริเวณริมรางรถไฟ ทั้งนี้เพื่อปรับปรุงภูมิทัศน์ พัฒนาเมือง โบราณสถาน สถานที่ราชการ สถานศึกษา ศาสนสถาน สถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ให้เป็นระเบียบเรียบร้อย เอื้อต่อการอยู่อาศัยของประชาชน   (กฤษณพงศ์ อยู่รอด – ธนพล อาภรณ์พงษ์ / ลพบุรี)

ธนาคารเมล็ดพันธุ์ (The Seed Bank Set Project) ของเยาวชนรุ่นใหม่ที่มีจิตใจในการช่วยเหลือสังคม แนะนําวิธีการเก็บเมล็ดพันธุ์เพื่อความมั่นคงและยั่งยืนของชุมชน

                เมื่อเร็วๆนี้ ที่ ชุมชนหมู่บ้านหลังเขา (ซับชะอม) ม.10 ต.ขุนโชลน อ.พระพุทธบาท จ.สระบุรี นาย อัษฎา อิสราพานิช (Atsada Israpanich) ผู้ก่อตั้งโครงการ The Seed Bank Set ได้นำความรู้ ขั้นพื้นฐานในการทำความสะอาดเมล็ดพันธุ์และการเก็บเมล็ดพันธุ์เพื่อให้มีประสิทธิภาพให้กับชุมชนในจังหวัดสระบุรีได้ทำการสาธิต ความสะอาดเมล็ดจากผลไม้ ที่มีเมือกกับเมล็ดที่แห้ง และได้นําเสนอเคล็ดลับต่างๆ โดยมี poster พร้อมกับข้อมูล รูปภาพประกอบให้เข้าใจได้ง่ายขึ้น และผู้เข้าร่วมโครงการสามารถนําไปประยุกต์ใช้ได้

                อีกทั้งยังได้สอนวิธีการเริ่มตั้งธนาคารเมล็ดพันธุ์ในชุมชน   โดยนายอัษฎาได้เตรียมอุปกรณ์ ชุด Seed Bank Set มาเพื่อ สาธิต ในการเก็บเมล็ดพันธุ์ ที่ใช้เพียงขวดโหลแก้วหรือขวดน้ำพลาสติกที่บริโภคแล้วมาทำให้เป็นสูญอากาศ เพื่อใส่เมล็ดพันธุ์และนำไปเก็บในบ้านในที่ร่ม ไม่จำเป็นต้องมีห้องเก็บที่ใช้เครื่องปรับอากาศ ก็สามารถเก็บเมล็ดพันธุ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

                ความรู้จากโครงการ The Seed Bank Set ดังกล่าวนี้สามารถนําไปใช้ในชุมชนและ หมู่บ้านเพื่อใช้ร่วมกันและแบ่งปันเมล็ดพันธุ์ ในการสนับสนุนการทำการเกษตรที่มั่นคง สร้างวงจรการเก็บ ปลูก เมล็ดพันธุ์เพื่อผลประโยชน์ต่อเศรษฐกิจและความยั่งยืนของชุมชน ไม่ว่าจะเป็นเมล็ดพันธุ์ใดๆ การก่อตั้ง”ธนาคารเมล็ดพันธุ์” ของตนเองนับเป็นขั้นตอนแรกที่สำคัญต่อการทำการเกษตร  สำหรับพี่น้องประชาชนที่ด้อยโอกาสต่อการรับรู้เทคโนโลยีที่ทันสมัยในปัจจุบัน  (วิรัตน์  เดชะวราฤทธิ์ / สระบุรี)