ในคำถามเกือบทั้งหมด ผู้ชายและผู้หญิงมักจะรายงานกิจกรรมทางเพศในระดับต่าง ๆ เมื่อคิดว่าเพื่อนจะเห็นคำตอบของพวกเขา ความแตกต่างทางเพศมีน้อยกว่ามากในกลุ่มเครื่องจับเท็จ ตัวอย่างเช่น เมื่อพวกเขาเชื่อว่าคนรอบข้างจะเห็นการตอบแบบสอบถามของพวกเขา ผู้ชายมักจะรายงานว่าการช่วยตัวเองบ่อยกว่าผู้หญิงมาก แต่ความแตกต่างเหล่านั้นแทบจะหายไปในกลุ่มเครื่องจับเท็จ ผู้ชายรายงานเกี่ยวกับคู่นอน 4.4 คน และผู้หญิง 4.0 คน

ผู้ชายไม่ต้องการเพศสัมพันธ์เสมอไป แม้จะมีแบบแผนการรับรู้ภาพลักษณ์ของกลุ่มสังคม แต่สัดส่วนที่สำคัญของผู้ชาย–มากถึง 1 ใน 6–มักมีความต้องการทางเพศในระดับต่ำ ซึ่งหมายความว่าบุคคลนั้นจะมองว่าเป็นปัญหาค่อนข้างต่ำ การทบทวนการศึกษาหลายชิ้นในปี พ.ศ. 2010 พบว่าประมาณร้อยละ 14 ถึง 19 ของผู้ชายได้บ่งชี้เป็นประจำและเชื่อถือว่าพวกเขามีความต้องการทางเพศต่ำหรือลดลงอย่างเป็นปัญหา ผู้ชายไม่ใช่หุ่นยนต์เดินได้ที่ต้องการมีเพศเพียงแค่ในพริบตาเดียว” นักวิจัยกล่าวว่า “เรามักไม่อนุญาตให้ผู้ชายพูดถึงสิ่งที่นำไปสู่ความต้องการทางเพศต่ำ เช่น การเปลี่ยนแปลงของความสัมพันธ์ ความเครียด ความเหน็ดเหนื่อยจากการทำงาน การเลี้ยงดู และงานบ้านและชีวิตประจำวันที่ต้องทำ

ความแตกต่างของความปรารถนา เป็นการยากที่จะวัดว่าผู้ชายต้องการเพศสัมพันธ์มากกว่าผู้หญิงจริง ๆ หรือไม่ เมื่อท่านสัมภาษณ์ผู้ชายหรือผู้หญิงอย่างโดดเดี่ยวเพื่อการวิจัย หากผู้ชายบอกว่าเขาต้องการมีเพศสัมพันธ์มากกว่าคู่ขาผู้หญิง ท่านจะทราบได้อย่างไรว่าผู้หญิงคิดเช่นเดียวกัน งานวิจัยไม่กี่ชิ้นที่พิจารณาความต้องการทางเพศในความสัมพันธ์แบบ “ตายตัว” นั่นคือการสัมภาษณ์คู่รักต่างเพศที่มีความสัมพันธ์กัน พบว่าผู้ชายมากหรือน้อยจะไม่มีแนวโน้มจะเป็นคู่รักที่ต้องการมีเพศสัมพันธ์บ่อยขึ้น หนึ่งในการศึกษาแรก ๆ ที่ค้นพบรูปแบบนี้เกิดขึ้นเมื่อ 20 ปีที่แล้ว ในกลุ่มคู่รักต่างเพศวัยเรียน 72 คู่ ประมาณครึ่งหนึ่งรายงานว่ามีความต้องการทางเพศในระดับใกล้เคียงกัน ในบรรดาคู่รักที่มีความต้องการต่างกัน ประมาณครึ่งหนึ่งกล่าวว่าเป็นผู้ชายที่ต้องการมีเพศสัมพันธ์น้อยลง

ไม่นานมานี้ มีนักวิจัยตีพิมพ์ผลการศึกษาที่คล้ายกันเกี่ยวกับคู่รักวัยเรียนซึ่งมีผลการศึกษาที่เหมือนกันมาก ประมาณครึ่งหนึ่งของคู่รักมีระดับความปรารถนาที่ใกล้เคียงกัน และในบรรดาผู้ที่ไม่มี ผู้ชายก็มีแนวโน้มพอ ๆ กับผู้หญิงที่จะเป็นคู่นอนที่มีความต้องการทางเพศต่ำกว่า การศึกษาหลายชิ้นแสดงให้เห็นว่าระดับความต้องการทางเพศของผู้ชายและผู้หญิงมีความคล้ายคลึงกันมากกว่า
ที่แตกต่างกัน นักวิจัยกล่าว ยังไม่มีการวิจัยมากนักเกี่ยวกับระดับความปรารถนาของคนข้ามเพศและคนที่ไม่ใช่ไบนารีคือ อัตลักษณ์ทางเพศแบบหนึ่งที่ไม่ได้อยู่ในนิยามที่บรรทัดฐานทางสังคมกำหนดไว้ เป็นเพศที่ไม่ใช่ผู้ชายและผู้หญิง บรรทัดฐานทางเพศเกี่ยวกับแรงขับทางเพศนั้นล้าสมัยไปแล้วในหลาย ๆ เรื่อง

นักวิจัยกล่าวว่า “หากมีบางอย่างเกี่ยวกับวิธีที่ท่านประสบกับความปรารถนาที่สอดคล้องกับแบบแผนการรับรู้ภาพลักษณ์ แต่พวกเราหลายคนอยู่นอกกรอบจำกัดเหล่านี้ มีผู้ชายที่มีความสนใจในเรื่องเพศตั้งแต่น้อยไปถึงไม่มีเลย และไปจนถึงสูงมาก ซึ่งในผู้หญิงก็เช่นเดียวกัน ในฐานะมนุษย์ เรามีความแตกต่างกัน และตราบใดที่การแสดงออกทางเพศของท่านเป็นไปในทางที่ดีต่อสุขภาพซึ่งรู้สึกดีและเหมาะสมสำหรับท่านและคู่ของท่าน โอกาสที่ประสบการณ์ของท่านจะเป็นเรื่องปกติ

—————————
ศ.น.ท.ดร.นพ.สมพล เพิ่มพงศ์โกศล