“คอลัมน์ตรวจการบ้าน” จึงต้องมาสนทนากับ สายฟาดแถวหน้า “วิโรจน์ ลักษณาอดิศร” สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ว่า จะแก้เกมการเมืองพลิกสถานการณ์สู้ต่อในสถานการณ์นี้อย่างไร

โดย วิโรจน์” เปิดประเด็น ว่า สิ่งเหล่านั้นเป็นความเห็นของคนวงนอก แต่ยืนยันว่าพรรคก้าวไกลไม่เป็นฝ่ายค้านแน่ๆ ตอนนี้เราเตรียมงานทุกอย่าง เพื่อขับเคลื่อน 300 นโยบาย แต่การเป็นรัฐบาลผสมก็ต้องมีการปรับสมดุลใหม่ มีการเจรจาต่อรองทั้งในเรื่องการขับเคลื่อนนโยบาย และการจัดสรรงบประมาณ เพื่อโอบรับนโยบายของ 8 พรรค ในการขับเคลื่อน เพื่อประโยชน์ของประชาชน ตอนนี้เรายังไม่ได้เตรียมการหรือคิดเอาไว้เลยว่าจะเป็นฝ่ายค้าน  ส่วนจะทำอย่างไรนั้นผมว่ากระบวนการในระบอบประชาธิปไตยในระบบรัฐบาลผสมก็ต้องพูดคุยกันไปเรื่อยๆ แต่เดดล็อก คือ 10 เดือน ซึ่งเกิดจาก สว.อย่างเดียว สส.ไม่ได้มีปัญหา ถามว่าเรามีระยะเวลาอีก 10 เดือนก็พยายามไปตลอด 10 เดือน ไม่ใช่รอนะครับ หลายคนบอกให้รอ 10 เดือน ผมไม่เห็นด้วย

 แต่ถ้า 8 พรรคมุ่งมั่นตั้งใจ มีความมุ่งมั่นตรงกันว่า 10 เดือนก็ 10 เดือน ฉันก็จะตั้งรัฐบาลต่อไป เจรจาต่อไป พูดคุยต่อไป เชื่อผมหรือไม่ถ้าเรามีความมุ่งมั่นตั้งใจแบบนี้มันไม่ถึง 10 เดือนแน่นอน เพราะวันเวลาที่มันผ่านและงวดลงไปเรื่อยๆ อำนาจการต่อรองของ สว.ลดลง อำนาจการต่อรองของ 8 พรรคร่วมสูงขึ้น และเข้าใกล้เส้นชัยเรื่อยๆ ส่วน สว.นับถอยหลังสู่วันสิ้นอำนาจ ครบ 10 เดือนเมื่อไรก็สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ ผ่านสภาผู้แทนราษฎรโดยที่ สว.ไม่ต้องมายุ่ง ผมจึงไม่รู้สึกกังวลกับเวลาที่ผ่านไปเลย ยิ่งเวลาผ่านไปความได้เปรียบอยู่ที่ฝั่ง สส.หรือสภาล่าง  

ถ้ามีพรรคใดพรรคหนึ่งใน พรรคการเมืองรอไม่ได้  

ก็คงต้องพูดคุยกัน คือถามว่าสุดท้ายเอาง่ายๆ ก่อน พูดตรงๆ ขอเพียงเพื่อไทยกับกับก้าวไกลเห็นตรงกัน 2 พรรคก็เกือบ 300 เสียงแล้ว คิดว่าถ้าเพียงก้าวไกลกับเพื่อไทยจับมือกันให้มั่น แล้วก็มีเพื่อนพรรคอื่นๆ ด้วยผมคิดว่าไม่มีปัญหาหรอก ก็ได้เสียงส่วนใหญ่ในสภาแล้ว ผมเชื่อว่า ณ วันนี้โอกาสในการจัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างมากในสภา ยังมีความเป็นไปได้มากกว่าการจัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย เพราะรัฐบาลเสียงข้างน้อยมันไม่เป็นจริงในทางปฏิบัติหรอก คุณจะผ่านงบประมาณ คุณจะผ่านกฎหมายอย่างไร  

@ตอนนี้พรรคก้าวไกลเกรงว่าจะมีการฉีกเอ็มโอยู พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลหรือไม่  

 ไม่ได้กลัวเลย ถ้าก้าวไกลกับเพื่อไทยเราพยักหน้าใส่กัน เราเข้าใจหนักนิดเบาหน่อย เราวางไว้ข้างๆ แสวงจุดร่วม สงวนจุดต่าง แล้วก็ให้เกียรติอีก 6 พรรค ผมว่ามันไปได้ ที่สำคัญที่สุดคือเราต้องตระหนักว่าภารกิจสำคัญ คือ อะไร คือการปิดสวิตซ์ . ยุติการสืบทอดอำนาจ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อมของเครือข่ายรัฐประหาร คือ พันธกิจสำคัญที่เราให้คำมั่นไว้กับประชาชน ทั้งเพื่อไทยและก้าวไกลก็ให้คำมั่นนี้ถูกหรือไม่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย และนายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกฯ พรรคเพื่อไทย ก็เคยพูดไว้ว่าปิดสวิดซ์ 3 ป. ปิดสวิตซ์ สว.  ไม่ร่วมกับพลังประชารัฐ และรวมไทยสร้างชาติ และนพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย เองก็พูดในหลายเวที ดังนั้นปิดสวิตซ์ 3 ป. และ สว. ผมว่ามันอยู่ในอุดมการณ์ที่ร่วมกันระหว่างเพื่อไทยและก้าวไกลอยู่แล้ว  

ทำไมก้าวไกลถึงไม่ถอยไปเป็นฝ่ายค้าน คำว่าหน้าด้านก็พูดเล่นๆ แต่จริงๆ ถ้าเราถอยแล้วเกิดอะไรขึ้น เปิดทางให้ . เข้ามาสืบทอดอำนาจทันที เพราะว่า ถอนไป 151 เสียง ในทางคณิตศาสตร์มันเป็นโอกาสที่ . จะเข้ามาร่วมรัฐบาลและสืบทอดอำนาจ เราเลยบอกว่าเราถอยไม่ได้ คำถามคือถ้า . สืบทอดอำนาจแล้วเกิดอะไรขึ้น รัฐธรรมนูญฉบับประชาชนไม่มีทางที่จะร่างได้เลย เขาจะยอมร่างรัฐธรรมนูญใหม่แทนรัฐธรรมนูญที่เขาสร้างขึ้นมาเพื่อพวกเขาหรือ ไม่มีทาง และทุนผูกขาดก็ไม่มีทางได้รับการแก้ปัญหา เครือข่ายอุปถัมภ์ของเขาที่ยึดกุมฮุบสัมปทานแล้วคอยมัดมือชกประชาชน อย่างสัมปทานพลังงาน ดังนั้นโอกาสที่ประชาชนจะได้จ่ายค่าไฟฟ้าอย่างเป็นธรรมจะมีหรือไม่ เป็นต้น  

@มาตรา 112 จะเป็นเงื่อนไขที่นำไปสู่การยุบพรรคก้าวไกลได้หรือไม่  

ตอนนี้ยืนยันแล้วว่ามันไม่ใช่ 112 เพราะเป็นแค่ข้ออ้าง ซึ่งมาตรา 112 ภาพลักษณ์ที่ฝ่ายตรงข้ามพยายามจะสาดโคลน และใส่ร้ายก้าวไกลตลอดมาว่าเราหัวรั้นไม่ถอยเลย เรายืดหยุ่นโดยหลักการของเรา คือ หลักการเดิม โดยเราต้องการปกป้องให้สถาบันพระมหากษัตริย์ดำรงความสัมพันธ์อันดีกับประชาชน ไม่มีใครไปแอบอ้างสถาบันพระมหากษัตริย์แล้วก็ไปฟ้องร้องสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนอีกกลุ่มหนึ่ง โดยเฉพาะประชาชนกลุ่มที่เห็นต่าง และในทำนองเดียวกันเราก็ต้องปรับให้มันเป็นสากลมากขึ้น เพื่อคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของประชาชนตามรัฐธรรมนูญ เป็นเจตนาที่ดีของเรา  

ส่วนเรื่องนี้จะนำไปสู่การยุบพรรคหรือไม่ คงไม่เป็นอย่างนั้น เพราะถ้าเราล้มล้างการปกครอง คนอย่างนายอานันท์ ปันยารชุน อดีตนายกฯ หรือนายคณิต ณ นคร อดีตคณะกรรมการปรองดองที่เคยเสนอเรื่องนี้ ก็ต้องล้มล้างการปกครองด้วยหรือไม่  เราอย่าตีความไปในทางลบทางร้าย ผมยืนยันว่านี่เป็นการแก้ประมวลกฎหมายอาญาเป็นหน้าที่ในอำนาจนิติบัญญัติไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับสถาบันเลย แต่การที่คุณตีความอย่างนี้ พยายามดึงมาแบบนี้ คุณกำลังทำในสิ่งที่มิบังควรคือ การดึงเอาสถาบันมาชนกับประชาชน ซึ่งผมคิดว่าไม่ยุติธรรม ทำไม่ได้ และห้ามทำอย่างยิ่ง  

@ระหว่างนี้พรรคก้าวไกลจะทำงานอย่างไรให้เป็นประโยชน์ต่อประชาชน  

เราก็ทำงานตามหน้าที่ สส.เราจะพยายามเร่งรัดให้เกิดการตั้งคณะกรรมาธิการสามัญประจำสภาผู้แทนราษฎรให้เร็วที่สุด ทัง 35 คณะโดยจะหารือกับประธานสภาต่อไป เพราะเราก็รอไม่ได้แล้ว ในเมื่อการจัดตั้งรัฐบาลก็อาจมีความจำเป็นต้องรอ แต่ว่าสภามันเรียบร้อยสมบูรณ์แล้วก็ตั้งคณะกรรมาธิการฯ ขึ้นมาทำหน้าที่ ไม่ได้มีปัญหาอะไร.