ปฏิบัติการเชิญ พรรคภูมิใจไทย พรรคพลังประชารัฐ พรรครวมไทยสร้างชาติ ชาติพัฒนากล้า ชาติไทยพัฒนา มากิน “ช็อกมินต์” ที่พรรคเพื่อไทย จนหัวกะไดไม่แห้ง คือ สัญญาณฉีก MOU 8 พรรคร่วมทิ้ง แม้ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว จะยืนยันว่า แค่เชิญมาหารือทางออกประเทศ ไม่ใช่หารือพลิกขั้วรัฐบาลใหม่ แต่ไม่ยักมีคนเชื่อ เพราะสาธารณชนรู้คำตอบแต่ในมุ้งแล้วว่า เค้ามาเพื่อประสานเสียงไม่เอา ก้าวไกล เรื่องแก้ ม.112 แค่ข้ออ้าง เท่านั้น

เวรกรรมยังไปตกที่เครื่องดื่มสุดฮอต ช็อกมินต์ ซึ่งรสชาติแม้เหมือนยาสีฟัน แต่ก็อร่อยเลิศ พลอยถูกเปลี่ยนชื่อเป็น “เครื่องดื่มหักหลังเพื่อน” ซะงั้น ร้านกาแฟบางร้านของดขายชั่วคราว บ่งบอกอารมณ์สังคมได้ในระดับหนึ่ง

ปัญหาไม่ได้อยู่แค่ เพื่อไทย ต้องได้อีก 63 เสียงจาก สว.ลากตั้ง และพรรคอื่น ๆ เพียงพอได้เก้าอี้นายกฯ แต่ปัญหาอยู่ที่ เพื่อไทย ต้องเดินตามเกม สว.ลากตั้งและพรรคขั้วสืบทอดอำนาจที่ผนึกกันเหนียวแน่น ปักธงล้ม MOU ดีดก้าวไกลเป็นฝ่ายค้าน

ถูกแล้วที่ก้าวไกลยืนยันไม่ออก เจอคนหน้าด้าน ต้องหน้าด้านกว่า ในเมื่อชัดเจน จาก พีระพันธ์ุ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ พรรคที่ถูกมองว่าสืบทอดอำนาจทหาร หลังมุดเข้าถ้ำเพื่อไทย ว่า “เราไม่ได้ติดขัดแค่ ม.112แต่แนวทางอุดมการณ์ต่างกันเยอะมาก เราไม่สามารถให้เขามีอำนาจการเมืองเยอะไปกว่านี้ได้” นั่นเพราะพรรคก้าวไกลมีชุดนโยบายปฏิรูปกองทัพที่เข้มข้น ตั้งแต่ ยกเลิกเกณฑ์ทหาร ลดนายพลครึ่งหนึ่ง ลดงบฯซื้ออาวุธ ลดธุรกิจทหาร (แค่สนามกอล์ฟ ก็ 71 แห่ง โอ…มายก็อต) ยุบ กอ.รมน. แก้ พ.ร.บ.กลาโหม เอาทหารที่ปฏิวัติมารับโทษ ยังจะทลายทุนผูกขาดอีก ทั้งหมดล้วนสะเทือนอำนาจกองทัพและทุนใหญ่รุนแรง

ขณะที่พรรคเพื่อไทย ไม่มีนโยบายปฏิรูปกองทัพจริงจัง แม้จะเป็นผู้ถูกกระทำตลอด 20 ปี ซึ่งว่าไปแล้ว สิ่งที่กำลังเกิดขึ้นกับ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ และสิ่งที่กำลังจะเกิดกับพรรคก้าวไกล คือโศกนาฏกรรมที่ แม้ว–ปู และพรรคไทยรักไทย เคยเผชิญมาแล้วทั้งสิ้น เป็นยุทธวิธี เผาหญ้ารอบนอกก่อน แล้วค่อยเผาทิ้งต้นไม้ใหญ่ใจกลางให้ราบคาบ

ไม่อยากพูดเลยว่า เพื่อไทยสู้ไปกราบไป ดูไม่เป็นธรรมเลย เพื่อไทยครองใจคนจนชนะเลือกตั้งตามหนทางประชาธิปไตยทุกครั้ง ทำนโยบายดี ๆ เพื่อประชาชน ทั้ง 30 บาทรักษาทุกโรค กองทุนหมู่บ้าน OTOP หวยบนดินแต่ผู้นำพรรคกลับไร้แผ่นดินอยู่ ถูกปฏิวัติถึง 2 หน เพราะเสียท่าจากกรณีขายหุ้นให้เทมาเส็ก และ พ.ร.บ.นิรโทษกรรมสุดซอย

ทั้งที่ความจริงอีกด้าน คือ เผด็จการไม่อาจยอมให้พรรคไหนครองใจประชาชนมากเกินไปเหมือน “ก้าวไกล” ที่กำลังครองใจคนรุ่นใหม่ เป็นความหวังแห่งการปฏิรูปประเทศอยู่ตอนนี้ จึงต้องตัดไฟแต่ต้นลม?!?

จตุพร พรหมพันธ์ุ จะมีราคาแค่ไหนไม่รู้ แต่มองขาดว่า หากเพื่อไทย “พลิกขั้ว” ตามเกมเผด็จการ ก็คือ การหักหลังประชาชน ไม่ใช่ด้อมส้มจะแค้น แต่เสื้อแดงจะไม่เอาไว้ด้วย เป็นจุดเริ่มต้น “ม็อบใหญ่” แล้วเพื่อไทยจะกล้าปราบหรือ เหนืออื่นใด สว.ลากตั้งและ
กลไกทั้งหมดตั้งมาเพื่อกำจัดทักษิณถึงที่สุด จะไม่เปลี่ยนใจง่าย ๆ แน่ เพียงแต่ก้าวไกลมาแรงแซงโค้ง ต้องจัดการก่อน ต่อไปคือ เพื่อไทย ถ้าไม่เชื่อจตุพร ก็ควรเชื่อ พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร อดีตเลขา สมช.และอดีตคนเพื่อไทยที่คลุกคลีอยู่กับข่าวกรองแห่งชาติ ก็มองไม่ต่างว่า เพื่อไทยพลิกขั้ว คือการยืมดาบฆ่าก้าวไกล แล้วดาบต่อไปก็คือเพื่อไทย การสูญเสียเพื่อไทยส่งผลต่อทั้งกระบวนการของฝ่ายประชาธิปไตยให้อ่อนแอลง

ก็พอดีเหลือบไปเห็นข่าว “เอลนีโญ” ทำให้ต้นลานที่อุทยานทับลานนับหมื่นต้นออกดอกสะพรั่งแทงช่อดูสวยงาม แต่ข้อเท็จจริงคือ มันกำลังส่งสัญญาณแห่งความตาย เมื่อไหร่ที่ชูช่อไสว มันจะตาย เข้ากับพรรคเพื่อไทยเลย

ในเมื่อเดินจนสุดทางแล้ว ตั้งรัฐบาลไม่ได้ก็ไม่ได้ เพื่อไทยไม่จำเป็นต้องเอา เศรษฐา ทวีสิน ไปบูชายัญอีกคน เลื่อนเสนอชื่อพฤหัสฯ 27 ก.ค.ออกไป ปล่อยเลย หากเผด็จการจะตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย ประเทศถูกแช่แข็งมา 9 ปีกว่า รออีก 10 เดือน รอได้ เชื่อเหอะ ที่ผ่านมาก็เหมือนข้าราชการประจำทำแทนอยู่แล้ว ประชาชนรู้เต็มอก ประเทศเดินหน้าไม่ได้เพราะใคร

ถ้านักธุรกิจจะโวยวายมากก็ควรกระทุ้งกลับ ให้ 3 สถาบันหลักของเค้า หันไปบีบ สว.ลากตั้งให้ลาออกให้หมดสิ ให้หัดเคารพเสียงประชาชน แทนที่จะเอาแต่ดูถูก 27 ล้านเสียงว่า โง่เง่า เลือกมาไม่ถูกใจเผด็จการลากตั้ง เท่านั้นเอง

————————-
ดาวประกายพรึก