พาเหรดหนังโรงในเดือนกรกฎาคมนี้ เรียกได้ว่ามีแต่หนังน่าสนใจทุกสัปดาห์ ล่าสุดก็มาถึงคิว “Oppenheimer” หรือ “ออพเพนไฮเมอร์” ฝีมือผู้กำกับชื่อดัง “คริสโตเฟอร์ โนแลน” หรือ “เสด็จพ่อโนแลนด์” ที่ฝากผลงานหนังแอ๊คชั่นระดับโลกไว้มากมาย เช่น Tenet (2020), Dunkirk (2017), Interstellar (2014) โดยก่อนหน้านี้มีข่าวทำนองว่า เขาใช้งบประมาณในการสร้างหนัง “Oppenheimer” ไปมากกว่า 180 ล้านเหรียญ เพราต้องการสร้างระเบิดจริง ๆ เนื่องจากไม่ชอบการใช้ CG เป็นทุนเดิม แต่ภายหลังสื่อบันเทิงของฮอลลีวูดก็ออกมาเฉลยว่า “…ไม่ได้มีการสร้างระเบิดปรมาณูของจริงแต่อย่างใด…” เป็นเทคนิคการถ่ายทำล้วน ๆ แต่ส่วนที่ว่าเขาใช้อะไรในการทำระเบิดหรือโชว์ความวินาศได้ขนาดไหนนั้น คงต้องไปติดตามกันในโรงภาพยนตร์เท่านั้นครับ

เรื่องย่อ สมัยสงคามโลกครั้งที่ 2 ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้รวมรวมนักวิทยาศาสตร์เพื่อร่วมกันทำโครงการ “แมนฮัตตันโปรเจค” ซึ่งเป็นการสร้างชุมชนในพื้นที่ “ลอส อลามอส” รัฐนิวเม็กซิโก เพื่อวิจัยพัฒนาระเบิดนิวเคลียร์ขึ้นโดยมี “เจ โรเบิร์ท ออพเพนไฮเมอร์” เป็นผู้นำโครงการดังกล่าว เดิมทีเขาเป็นเพียงอาจารย์ผู้คิดค้นกลไกลควอนตั้มและฟิซิกส์นิวเคลียร์ แต่เพราะเขาเห็นพ้องกับ “อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์” ว่ากลุ่มนักวิทยาศาสตร์ฝ่ายเยอรมันกำลังคิดค้นระเบิดนิวเคลียร์ เพื่อให้จอมเผด็จการอย่าง “อดอล์ฟฮิตเลอร์” นำไปใช้ นั่นแปลว่าหายนะของโลกกำลังจะเริ่มต้นขึ้น

“ออพเพนไฮเมอร์” จึงต้องพยายามหาทางสร้างระเบิดนิวเคลียร์ให้ได้ก่อน กระทั่งมีการทดลองระเบิดพลูโตเนียม “Gadgat” กลางทะเลทรายเป็นผลสำเร็จเป็นครั้งแรก หลังการทดลองเพียง 2 เดือน สหรัฐก็ทิ้งบอมใส่ญี่ปุ่น 2 ลูก ทำให้สงครามโลกครั้งที่ 2 ยุติลงทันทีหลังจากการทิ้งระเบิดผ่านไปเพียง 6 วันเท่านั้น

จุดแข็งของ Oppenheimer ถือเป็นงานหนังที่มีความคลาสสิคและสร้างดีเทลของหนังได้อย่างน่าสนใจโดยจัดวางบทให้ “กิลเลียน เมอร์ฟี” นักแสดงคู่บุญของ “โนแลน” มารับบทเป็น “เจ โรเบิร์ท ออพเพนไฮเมอร์” นักฟิสิกส์นิวเคลียร์ผู้เป็นบิดาแห่งระเบิดปรมาณู ด้วยบทบาทที่ดูเคร่งขรึมเงียบสงบ แต่กลับแฝงไปด้วยความทะเยอทะยาน อยากทดลองสิ่งที่คิดเอาไว้ว่าจะเป็นอย่างไร แลกกับการนำมันไปใช้เป็นอาวุธในการทำลายล้างชีวิตมนุษย์ด้วยกัน

“กิลเลียน เมอร์ฟี” จะต้องเชือดเฉือนบทบาทกับ “โรเบิร์ต ดาวนีย์ จูเนียร์” รับบท “ลูวิส สเตราส์” ประธานคณะกรรมการพลังงานปรมาณูของสหรัฐ, เอมิลี่ บลันต์” ในบท “คิตตี้” ภรรของของออเเพนไฮเมอร์, “ฟลอเรนซ์ พิวจ์” เป็น “จีน แม็ตล็อก” จิตแพทย์ที่ออพเพนไฮเมอร์แอบมีความสัมพันธ์ด้วย และที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ “แมต เดมอน” ในบท “เลสลี่ อาร์ โกรฟส์” นายทหารประจำเหล่าทหารช่างสหรัฐ ผู้รับผิดชอบโครงการฯ บทบาทการสนทนาจะแฝงไปด้วยการเมือง การปกครอง รวมไปถึงแง่มุมชีวิตครอบครัวของตัวเอก ก่อนการทดลงระเบิดจะเริ่มขึ้น

จุดอ่อน หนังไม่ได้มีจุดอ่อนอะไรเลย แต่อย่างที่เข้าใจกันมานานแล้วว่า หนังของ “คริสโตเฟอร์ โนแลน” จะมีอะไรที่แอบแฝงลึกซึ้งตีความได้มากมาย ดูรอบแรกอาจไม่เข้าใจหรืออินบางคนเบื่อไม่อยากดูต่อก็มี ดังนั้น ก่อนจะชมภาพยนตร์เรื่องนี้ ต้องทำความเข้าใจก่อนว่า หนังมีความเนื่อยสูงระดับ 9/10 คือ สูงจริง ๆ ทำให้ผู้ชมหลับได้สบาย ๆ หนังเต็มไปด้วยบทบาทพูดคุยเจรจา การสนทนากันไปมาทั้งเรื่อง ความสนุกจะเกิดขึ้นหากเปิดใจรับชม ส่วนเรื่องภาพระเบิดตูมตามสนั้นจอ เลียนแบบระเบิดนิวเคลียร์นั้น บอกตรงนี้ได้เลยว่า มันเป็นเพียงอาหารจานรองเท่านั้น…

4/5 สำหรับงานภาพและเสียงที่ทำออกมาได้ยิ่งใหญ่สมราคาค่าตั๋วแน่นอน ยิ่งถ้าหากรับชมผ่านโรง IMAX จ ะรู้สึกอินเพราะทุกอย่างทำมาเพื่อนโรง IMAX จริง ๆ ผู้ที่ชื่นชอบหนังแนวชีวประวัติ คงไม่พลาดแน่นอน

———————————————–

คอลัมน์ : ดูหนังกับหมี
โดย : แพนด้าอ้วน
ขอบคุณข้อมูล ภาพ จากเว็บไซต์ Youtube และ Universal Pictures