ช่วงเช้าของทุกวัน ที่บริเวณหน้าร้านข้าวเหนียวหมูทอด ไก่ทอด เชียงฮาย ริมถนนคชสาร เส้นทางไปสนามกีฬาศรีณรงค์ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.สุรินทร์ จะเต็มไปด้วยนักศึกษา ประชาชน คนทำงาน ที่เป็นลูกค้าที่มารอต่อคิวซื้อข้าวเหนียวหมูทอด ไก่ทอด ที่ร้านนี้เป็นจำนวนมาก ทางร้านจะเปิดขายตั้งแต่เวลา 06.00-12.00 น. บางคนมารอตั้งแต่ก่อนร้านเปิดเพื่อจะได้เป็นคิวแรกๆ นำไปเป็นเสบียงติดตัวก่อนไปเรียน ไปทำงาน
โดยจุดเด่นของร้านนี้คือความสะอาด อร่อย และราคาถูก ราคาข้าวเหนียวหมูทอดหรือไก่ทอดเป็นห่อ ๆ ถ้าหมู 1 อย่าง 20 บาท 2 อย่าง 25 บาท และ 3 อย่าง 30 บาท ส่วนหมูทอดและไก่ทอดจะอยู่ที่ขีดละ 30 บาทเท่านั้น จะมีให้เลือกทั้งหมด 6 เมนู หมูสามชั้นทอด, ไก่ทอด, กระดูกหมูทอด, หมูสามชั้นทอดกรอบ, เครื่องในไก่ทอด และหมูเค็มเส้น กับใบหน้าของสองสามีภรรยาเจ้าของร้านที่ยิ้มแย้มอัธยาศัยดี ทำเอาลูกค้าที่ได้มาลองซื้อลองชิม ติดใจกันจนเป็นลูกค้าประจำเลยทีเดียว
นายพฤกษ นาคแจ้ง หรือที่ลูกค้าเรียกกันว่า “ป๋าเปรม” เจ้าของร้าน อายุ 37 ปี เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ตนเคยเป็นอดีตเถ้าแก่เขียงหมูและทำแพกุ้งอยู่ที่ จ.นนทบุรี ส่วน น.ส.ทรรศนันท์ นาคแจ้ง หรือ เจ๊ตาล ภรรยา อายุ 36 ปี เป็นคน อ.จอมพระ จ.สุรินทร์ หลังเจอพิษเศรษฐกิจ ประกอบกับพลาดทำธุรกิจล้มเหลว และแม่ของภรรยาล้มป่วย จึงปรึกษากันก่อนจะตกลงใจย้ายมาอยู่ที่ จ.สุรินทร์ คิดจะปักหลักทำมาหากินที่นี่ และเพื่อภรรยาจะได้อยู่ดูแลแม่ด้วย
“ตอนนั้นสองคนผัวเมียมีเงินติดตัวกันมาเพียงแค่ 1,000 บาทเท่านั้น และคิดว่าจะหาทำเลขายข้าวเหนียวหมูทอดไก่ทอด จึงได้ตระเวนมาเจอร้านคอมพิวเตอร์แห่งหนึ่ง อยู่ริมถนนติดป้ายประกาศขาย จึงลองโทรศัพท์ติดต่อกับเจ้าของร้านขอเช่าพื้นที่ด้านหน้าในราคา 700 บาทต่อเดือน จากนั้นก็ขอยืมเงินทุนจากแม่ของตน 3,000 บาท มาทำทุนขายของ ขาย 2 วันแรกได้เงินร้อยกว่าบาท แต่ก็ไม้ท้อ สู้ขายไปเรื่อยๆ ได้ประมาณ 3 เดือน ลูกค้าติดอกติดใจบอกกันปากต่อปาก จนเดี๋ยวนี้ขายหมดเกลี้ยงทุกวัน”
ป๋าเปรม บอกอีกว่า ตนจะเป็นคนทอดหมูและไก่ ส่วนภรรยาจะเป็นคนขาย ต้องใช้หมูทอดและไก่ทอดรวมแล้วประมาณ 70 กิโลกรัม ข้าวเหนียว 1 กระสอบ หรือ 50 กิโลกรัม ต่อวัน อาศัยความที่เคยเป็นเถ้าแก่เขียงหมู มีประสบการณ์และความชำนาญในการหมักหมูและทอดหมูทอดไก่มานาน หมูและไก่ทอดออกมาสีสวยน่ากิน กรอบนอกนุ่มใน ลูกค้าชื่นชอบกันมาก
ด้านเจ๊ตาล บอกว่า สูตรเด็ดของข้าวเหนียวหมูทอดไก่ทอดร้านนี้ ซึ่งบอกกันปากต่อปาก เหตุที่ขายไม่แพงเพราะเห็นใจลูกค้า ลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นเด็กนักเรียน และคนทำงานทั่วๆ ไป ซึ่งราคานี้ทุกคนทุกระดับสามารถซื้อกินได้ แม้กำไรไม่มากแต่ก็พออยู่ได้ ตนกับสามีก็มีความสุขในการทำขาย เวลาตักของให้ลูกค้าบางคนถึงกับเอ่ยปากบอกแม่ค้าว่า “เยอะไปพี่”, “เอาข้าวออกหน่อย” เพราะห่อเดียวบางคนสามารถทานได้ถึง 2 มื้อ แถมรสชาติก็อร่อยอีกด้วย
คอลัมน์ : นิยายชีวิต โดย : อสงไขย
เรื่องและภาพโดย : วิจิตร ชุณหกิจขจร จ.สุรินทร์
[[คลิก]] อ่านเรื่องราว “นิยายชีวิต” ได้ที่นี่..