13 ก.ค. วันนี้แล้ว ที่ “รัฐสภา” จะโหวตเลือกนายกฯ คนที่ 30 ซึ่ง นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นแคนดิเดตหนึ่งเดียวของ 8 พรรค 312 เสียงขั้วประชาธิปไตย ขณะขั้วเผด็จการทหาร-อนุรักษนิยมเดิม นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ ยืนยันจะไม่เสนอชื่อ ลุงตู่ หรือ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาคแข่ง เพราะไม่มีแนวทางเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย และไม่มีข่าวขั้วนี้จะเสนอชื่อ นายอนุทิน ชาญวีรกูล หรือ “ลุงป้อม”เป็นคู่แข่งเช่นกัน

ยังเป็นการทำหน้าที่ประธานรัฐสภาของ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา สุภาพบุรุษประชาธิปไตยตัวจริงเสียงจริง เป็นครั้งแรกและครั้งสำคัญสุดครั้งหนึ่ง หลังการเลือกตั้งใหญ่ 14 พ.ค. 66 อีกด้วย

ก่อนถึงวันนี้ มีหลายฉากทัศน์ หลายความเห็น นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีต กกต.ฉายภาพ 3 ฉากทัศน์ 1.โหวตครั้งเดียวผ่านได้ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกฯ 2.โหวตครั้งที่ 2 เปลี่ยนตัวแคนดิเดตจากนายพิธาเป็นแคนดิเดตจากเพื่อไทย น.ส. แพทองธาร ชินวัตร หรือนายเศรษฐา ทวีสิน และ 3.โหวตครั้งที่ 3 มีการสลับขั้วรัฐบาลใหม่ เพื่อไทยสลัดทิ้งก้าวไกลให้เป็นฝ่ายค้าน แล้วไปร่วมจับขั้วกับซีกรัฐบาลเก่า (…ข้อเสนอ ส.ว. ล่าสุดของล่าสุด)

จะเป็นตามนี้ หรือมี “ฉากทัศน์” อื่น ๆ เช่น โหวตไปเรื่อย ๆ รอ ส.ว.หมดอายุไปเลย หรือพิธาจะถูกองค์กรอิสระฆ่าตัดตอนแทน ไม่มีใครคาดเดาได้ นายวันนอร์บอกวันโหวตนายกฯมี 3 วัน คือวันนี้ 13 ก.ค. กับ 19-20 ก.ค.อีก ถึงได้บอก โหวตวันนี้ สำคัญสุด ชี้ไปถึงอนาคต

ไม่ใช่แต่คนไทยที่ใจระทึก ทั่วโลกพลอยจับตาดูว่า ที่สุดการเมืองไทยจะไปทางไหน จะกลับสู่ประชาธิปไตยจำแลงอย่าง 1 ทศวรรษที่ผ่านมา หรือเดินหน้าสู่การเป็นเสรีประชาธิปไตยที่แท้จริงเสียที

64 เสียงในรัฐสภาที่ต้องมาเติม 312 เสียงให้ถึง 376 เสียง เกินครึ่งหนึ่ง 750 เสียง ตาม รธน.อัปยศสืบทอดอำนาจนั้น เมื่อ 8 พรรคร่วมปักหมุดหยุดที่ 312 เสียง เพราะเห็นว่าเป็นรัฐบาลที่มีเสถียรภาพมากพอแล้ว ที่เหลือประชาชนจึงเรียกร้องและคาดหวังไปที่ 250 ส.ว. ซึ่งอ้างเป็นตัวแทนประชาชน เป็นอิสระ ให้เคารพฉันทามติกว่า 26 ล้านเสียงด้วย

ขอช่วยทำคุณทดแทนแผ่นดินก่อนหมดวาระปีหน้าเป็นครั้งสุดท้าย

ซึ่งบอกตรง ๆ นี่คงเป็นการหวังสูงไปมาก และน่าจะผิดหวัง แม้มี ส.ว.หลายคนเปิดตัวแสดงความกล้าหาญพร้อมเคารพเสียงประชาชนแล้ว แต่ก็มีที่ประกาศถอนตัวเฉยเลย อ้างโน่นนี่ ทั้ง พิธา จะแก้ ม.112 ถือหุ้นไอทีวี แบ่งแยกดินแดน ให้สหรัฐตั้งฐานทัพ สารพัดข้ออ้างที่หาได้ สรุป ใครลากตั้งมา ก็มุ่งสนองคุณต่อคนกลุ่มนั้น ส.ว.ขาประจำ ถึงกล้าพร่ำแสดงออกทุกวัน โดยไม่แคร์คนทั้งโลก ?!?

ช่างเหมือนคานข้ามถนนถล่มทับคนตาย 2 ศพ บาดเจ็บอีกนับสิบที่ลาดกระบัง ไม่กี่วันก่อน รัฐธรรมนูญพิษ ก็สร้าง ส.ว.พิษ ที่พร้อมทำบ้านเมืองถล่มได้แบบโศกนาฏกรรมซ้ำซาก ฉันใดก็ฉันนั้น

หันมาที่การโหวตวันนี้ หากได้ “เสียงเงียบ” จาก ส.ว. 60-70 คนจริง ตามที่แกนนำก้าวไกล ชัยธวัช ตุลาธน หรือ ศิริกัญญา ตันสกุล บอก ก็ถือว่า ปาฏิหาริย์มีจริง และเพื่อจารึกประวัติศาสตร์ เสนอให้ประธานวันนอร์ และรองประธานทั้ง 2 ปดิพัทธ์ สันติภาดา, พิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน ร่วมโหวตเลือก “พิธา” โดยพร้อมเพรียง ให้เป็น สัญลักษณ์ ด้วย

เหมือนตอน “กฎหมายเลิกทาส” ที่ประธานาธิบดีสหรัฐผู้ยิ่งใหญ่ อับราฮัม ลินคอล์น เสนอไปที่ สภาเมื่อปี ค.ศ. 1861 ตอนนั้นเสียงปริ่มน้ำมาก ทีมงานลินคอล์นต้อง “มาร์ก” รายคน ทั้งเสนอ “แคร็อต” ทั้งล้วงจุดอ่อนมาต่อรอง ทุกกลยุทธ์ใช้หมด เพื่อเลิกทาสตามรัฐธรรมนูญให้ได้ ตอนลงคะแนนประธานสภา ขอลงด้วย ถูกฝ่ายที่ไม่ยอมเลิกทาสขวางทันที บอกเป็นประธานสภาต้องเป็นกลางสิ ประธานสภาสวนทันที…ไม่ ผมต้องลงคะแนนสิ เพราะนี่คือประวัติศาสตร์ ไม่ใช่เวลาปกติ

ฝ่ายประชาธิปไตยในสภาทุกเสียง จึงควรแสดงออกเพื่อเคารพต่อฉันทานุมัติของประชาชน…ในวันนี้.

————————-
ดาวประกายพรึก