สิ้นสุดการรอคอย สำหรับแฟนหนังแอ๊คชั่นที่ต้องรอชมหนัง Mission: Impossible – Dead Reckoning Part One หรือ มิชชั่น: อิมพอสซิเบิ้ล – ล่าพิกัดมรณะ ตอนที่หนึ่ง หลังจากก่อนหน้านี้ ติดปัญหาโควิด-19 ถูกต้นสังกัดประกาศเลื่อนฉายแล้วฉายอีก 3-4 รอบ กระทั่งกำหนดฉายแน่ชัดในประเทศไทย 11 ก.ค. 2566 ทั้งยังมีกระแสข่าวความดราม่า หลังรอบสื่อต่างประเทศ โดยเว็บไซต์มะเขือเน่า (https://www.rottentomatoes.com/) เผยผลวิจารณ์ของสำนักต่าง ๆ ว่าอวยคะแนนความน่าดูให้ถึง 98-99% เรียกว่าสูงสุดในแฟรนไชส์นี้แล้ว เอาเป็นว่าจะเจ๋ง จะแจ๋ม จริงหรือไม่ ลองไปพิสูจน์ด้วยสายตาตัวเองดีกว่าครับ

เรื่องย่อ Mission: Impossible – Dead Reckoning Part One “อีธาน ฮันท์” (รับบทโดย ทอม ครูซ) พร้อมทีมสายลับระดับหัวกะทิ ได้แก่ “เบนจี้ ดันน์” (รับบทโดย ไซมอน เพกก์), “ลูเธอร์ สติคเคลล์” (รับบทโดย วิงราเมส) และ “อิลซา เฟาสต์” (รับบทโดย รีเบ็คก้า เฟอร์กูสัน) กำลังเผชิญหน้ากับ ภารกิจที่อันตรายกว่าที่เคยผ่านมา เมื่ออาวุธชิ้นใหม่เป็น “เอไอ” หรือ “ปัญญาประดิษฐ์” กำลังกลายมาเป็นอันตรายกับมนุษยชาติ ซ้ำร้ายกว่านั้นเมื่อ สายลับคู่ปรับเก่าอย่าง “กาเบรียล” (รับบทโดย อีไซ โมราเลส) ออกติดตามหากุญแจ 2 ดอก เพราะคิดว่าจะสามารถควบคุมอาวุธชิ้นใหม่นี้ได้ ชะตากรรมของโลกกำลังแขวนอยู่บนเส้นด้าย พวกเขาจะหยุดยั้งหายนะครั้งนี้ได้หรือไม่ ติดตามกันได้ในโรงภาพยนตร์เท่านั้น

Mission: Impossible 7 Box Office Expectation (Worldwide): Tom Cruise's  Actioner Looking To Compensate The Damage Done By The Flash & Indiana Jones  5 With An Aim Of $250 Million Start!

จุดแข็ง คงไม่มีอะไรจะดีงามไปกว่า งานสร้างหนังแบบใช้ CG น้อย ๆ พร้อมกับงาน “สตั้นโชว์” โดย “ทอมครูซ” แสดงเองล้วน ๆ งานโปรดักชั่นทำออกมาแบบละเอียดสุด ๆ ยกกองถ่ายไปใช้สถานที่จริง ทั้งในฉากการไล่ล่าในทะเลทราย และ สนามบินนานาชาติ “กรุงอาบูดาบี-สหรัฐอาหรับเอมิเรสต์” หรือจะเป็นฉาก ซิ่งรถเผ่นหนีกระสุนใน “กรุงโรม-อิตาลี” และที่เรียกว่าเป็นฉากเสี่ยงตายที่สุดของเรื่องนี้ การซิ่งจยย.โดดลงหน้าผาจาก ณ หุบเขา “Helsetkopen” ประเทศ นอร์เวย์ ด้วยความสูง 4,000 ฟุต

จำได้ว่า Mission: Impossible ภาคแรก ฉายในปี 1996 มีกลุ่มนักวิจารณ์ออกมาโวยวายว่า “ทอมครูซ” ไม่เหมาะจะเล่นหนังสายลับ เพราะเขารูปร่างเล็กผอมเพรียว ปรามาสขนาดว่า “…สายลับแบบนี้…ใครจะไปดู…” อีกทั้ง หนัง Mission: Impossible 2 ก็ยังโดนสวดยับว่า เอาแต่โชว์ภาพเท่ ๆ ตัดต่อฉากบู๊ให้คนดูมองกันไม่ทัน กลายเป็นหนังแอ๊คชั่นเกรด B

Tom Cruise shows off death-defying 'Mission: Impossible 7' stunt

จากวันนั้น…ถึงวันนี้ 27 ปีผ่านไป “ทอมครูซ” ได้พัฒนาร่างกาย ฟิตซ้อม ฝึกซ้อม มากกว่านักแสดงอื่น ๆ หลายเท่าตัว เพื่อให้งานการแสดงเกิดภาพจำติดตา ซึ่งในภาค Mission: Impossible – Dead Reckoning Part One นั้น เขาต้องใช้เวลาฝึกซ้อมนานนับปี ตั้งแต่ ดิ่งพสุธามากกว่า 500 ครั้ง (จัดวางโครงสร้างร่างกายช่วงที่ลอยอยู่กลางอากาศ เพิ่มสกิลการใช้ร่มชูฃีพได้อย่างเชี่ยวชาญ)

ซ้อมขี่จยย.กระโดดลอยกลางอากาศกว่า 13,000 ครั้ง (จัดวางโครงสร้างร่างกาย ขณะขี่จยย. ให้ตรงกับจุดมาร์กของมุมกล้อง สอดคล้องไปกับทีมงานที่ต้องถ่ายภาพกลางอากาศ) และเมื่อถึงวันถ่ายทำจริง ( 6 ก.ย. 2020 ) ดาราหนุ่มตัดสินใจ ขี่จยย.ลงเหวลึกในสถานที่จริงถึง 6 รอบในวันเดียว เพื่อให้ทาง “คริสโตเฟอร์ แมคควอรี” และทีมงานพอใจกับภาพที่ได้มากที่สุด

นอกเหนือไปจากฉากอลังการ บวกกับความสุดจัด! ของ “ทอมครูซ” ที่โชว์สกิลตั้นชนิดลืมอายุตัวเอง Mission: Impossible – Dead Reckoning Part One ยังเป็นการประชันบทบาทของ ดาราสาวสวยถึง 4 คน อันได้แก่ “อิลซา เฟาสต์” (รับบทโดย รีเบ็คก้า เฟอร์กูสัน) สายลับสาว MI6 เพื่อนเก่าของ “อีธาน์” โดยเราจะเจอเธอตั้งแต่ ภาค Rouge Nation และ Fallout พอมาภาคนี้เธอกลับถูกไล่ล่าจากกลุ่มนักฆ่า เพราะค่าหัวสูงลิ่ว อีกทั้งยังเป็นคนครอบครองกุญแจดอกสำคัญของเรื่องนี้ด้วย

“เกรซ” (รับบทโดย เฮย์ลีย์ แอตเวลล์) สาวหัวขโมยและนักต้มตุ๋น (ตัวละครใหม่) เธอเข้ามารับงานค้นหากุญแจ ทั้งที่ตัวเองกำลังโดนหมายหัวจากตำรวจสากล ถ้าโดนจับก็ติดคุกยาว ๆ สำหรับบทของ “เกรซ” ดูเหมือนจะบู๊ไม่ต่างกับ “เพ็กกี้ คาร์เตอร์” ในหนัง “กัปตันอเมริกา” ที่ เฮย์ลีย์ เคยฝากผลงานเอาไว้ เพียงแต่จริตในการวางตัว การส่งสายตาแบบนางโจร มีลับลมคมในตลอดเวลา งานการแสดงของเธอ…จะทำให้ผู้ชมต้องอินอย่างสุด ๆ กันเลยทีเดียว

Mission: Impossible 7 Completes Post-Production Ahead of July Debut

“อลันนา มิตโซโพลิส” (รับบทโดย วาเนสซ่า เคอร์บี้) แม่หม้ายขาว นายทุนสาวผู้ต้องการกุญแจไปใช้ต่อรองทางการค้าและอำนาจทางการเมือง โดยบทของเธอในเรื่องนี้ จะไม่ค่อยโชว์แอ๊คชั่น เหมือนกับ “แฮตตี ชอว์” (น้องสาวสุดสวยของ “เด็คการ์ด ชอว์”) ที่เธอเคยโชว์ไว้ในหนัง เร็ว..แรงทะลุนรก ฮ็อบส์ & ชอว์ แต่จะเป็นงานแสดงบทบาท “นางนกต่อ” พร้อมกับสายตายั่วยวน รับประกันตกหนุ่ม ๆ ในโรงภาพยนตร์ได้ 99.99% บทของเธอเหมือนจะไม่ค่อยเด่นนัก แต่ความสวยนั้น…ออร่าเด่นเกินเบอร์นักแสดงสาวคนอื่น ๆ ไปเยอะเลยทีเดียวครับ…

วาเนสซ่า เคอร์บี้ กลับมารับบทแม่หม้ายขาวใน Mission: Impossible 7 และ 8 |  ฝนตกเป็นหนัง

สำหรับสาวคนสุดท้าย เรียกเสียงฮือฮาจากการพลิกบทบาทแบบสุดโต่ง จากสายฮา…เป็นสายโหด “ปอม เกลม็องตีเยฟ” เดิมทีเธอเคยรับบท สาวต่างดาวปากแจ๋ว “..แมนทีส..” ใน Guardians of the Galaxy Vol. 2-3 กลับมาคราวนี้ เธอจัดหนักกับบทบู๊ต่อสู้ระห่ำเดือด นักฆ่าสาว “แพรีส” หากถามว่าโหดขนาดไหน? ลองดูหนังตัวอย่างจะเห็นชัดเจนว่า เธอซิ่งรถชนแหลกจนพระเอกอย่าง “อีทาน” ยังต้องหืดจับ..

จุดอ่อน แม้พล็อตเรื่องจะแบ่งน้ำหนักบทตัวละครให้ดูมีความสำคัญแทบทุกตัวละคร แต่ก็แลกมากับเวลาในการเรียบเรียงเนื้อหาปูเรื่องกันยาว ๆ หนังใช้เวลานานกว่า 163 นาที กว่าจะจบ จังหวะนั่งยลตัวละครคุยกับไปมายาว ๆ ก่อนตัดเข้าฉากแอ๊คชั่น แล้วก็ตัดสลับไปเล่าเรื่องกันใหม่ (ไม่ได้แอ๊คชั่นจ๋าซะทีเดียว) เชื่อว่าต้องมีคนหลับคาเบาะแน่นอนครับ (ระดับคะแนนความเนือย 7/10 ) เตือนไว้ก่อนว่าต้องตั้งใจชมกันสักนิด มิเช่นนั้น คงได้ไปเฝ้าพระอินทร์กันตั้งแต่ 1 ชม.แรก

5/5 กะโหลก ถือเป็นภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ทุนสร้าง 290 ล้านเหรียญ มากที่สุดกว่าทุกเรื่องในแฟรนไชส์นี้ งานโปรดักส์ชั่นยิ่งใหญ่สมราคาคุย ฉากแอ๊คชั่นสตั้นสนุกตื่นเต้นปนฮา ส่วนฉากดราม่าแม้จะไม่ถึงขนาดน้ำตาไหล แต่ก็ทำให้อินได้พอสมควร หลายท่านที่ชม Mission: Impossible ภาคนี้จบแล้ว ก็คงอยากยลภาคต่อไปทันที (part 2 มีกำหนดเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ในวันที่ 27 มิถุนายน 2024 )

Mission Impossible 7: Dead Reckoning - Official Trailer #2 (2023) - YouTube

———————————————–

คอลัมน์ : ดูหนังกับหมี
โดย : แพนด้าอ้วน
ขอบคุณข้อมูล ภาพ จากเว็บไซต์ Youtube และ United International Pictures: UIP