เมสัน เมาท์ กลายเป็นนักเตะใหม่คนแรกที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไปร่วมทีมในช่วงซัมเมอร์นี้ หลังดาวเตะวัย 24 ปี โบกมือลาทีมในดวงใจตั้งแต่วัยเด็กอย่าง เชลซี ย้ายไปค้าแข้งกับ “ปิศาจแดง” ด้วยสัญญา 5 ปี และค่าตัว 55 ล้านปอนด์ พร้อมเงื่อนไขจ่ายเพิ่มอีก 5 ล้านปอนด์

เชื่อว่าคอบอลแดนผู้ดีน่าจะรู้จักมิดฟิลด์ตัวใหม่ของ แมนฯ ยูไนเต็ด รายนี้กันดี แต่อาจมีบางเรื่องของเจ้าตัวที่คุณยังไม่รู้ และต่อไปนี้คือ 8 เรื่องที่คุณอาจยังไม่รู้ของ เมสัน เมาท์…

1. เคยถูกเตือนว่าอย่าเลือก เชลซี

เมาท์ ลืมตาดูโลกเมื่อวันที่ 10 มกราคม 1999 ที่เมืองพอร์ทสมัธ เขาคลั่งไคล้ฟุตบอลมาตั้งแต่เพิ่งหัดเดิน และมุ่งมั่นที่จะเป็นนักฟุตบอลอาชีพตั้งแต่แรกเริ่ม ขณะที่ โทนี พ่อของเขา ก็เคยเป็นนักเตะของทีมระดับนอกลีก และเคยเป็นโค้ชของทีมท้องถิ่น แต่ไม่ประสบความสำเร็จ ความหวังจึงตกทอดมาสู่ผู้เป็นลูกชาย ทำให้ เมสัน ถูกส่งเข้าอคาเดมีของทีมท้องถิ่นที่ชื่อว่า บอร์ฮันท์ เอฟซี ตั้งแต่ 4 ขวบ

ด้วยฝีเท้าที่เก่งเกินเด็กรุ่นเดียวกัน ทำให้ เมสัน ได้เข้าอคาเดมีของ เชลซี ซึ่งเป็นทีมที่เขาเชียร์ตั้งแต่อายุ 6 ขวบ และเมื่ออายุได้ 15 ปี และต้องเลือกว่าจะเลือกอยู่กับทีมเยาวชนของ เชลซี ต่อไป หรือจะเลือกย้ายไปอยู่กับทีมเยาวชนของสโมสรอื่น ซึ่งมี พอร์ทสมัธ ที่ยื่นข้อเสนอมาให้

ครอบครัวของ เมาท์ ถึงกับเรียกประชุมเพื่อปรึกษากัน โดยมีความเห็นไปในทางเดียวกันว่าไม่อยากให้ เมสัน เลือก เชลซี เพราะตอนนั้น โรมัน อบราโมวิช เพิ่งเข้ามาซื้อกิจการไม่นาน และแสดงออกชัดเจนว่าเน้นซื้อสตาร์ดัง และหลังจาก จอห์น เทอร์รี แล้ว ตอนนั้นแทบไม่มีนักเตะเยาวชนคนไหนที่แทรกขึ้นมาอยู่ในทีมชุดใหญ่ของสโมสรได้เลย

แต่คำตอบของ เมสัน คือ “ผมนี่แหละ คนต่อไป”

2. แฟนเชลซี เชียร์พอร์ทสมัธ เกลียดเซาแธมป์ตัน

แม้ เมาท์ จะเป็นแฟนบอล เชลซี มาตั้งแต่ยังเด็ก แต่ด้วยความที่เกิดที่เมืองพอร์ทสมัธ เขาจึงเติบโตท่ามกลางครอบครัวที่เป็นแฟนบอลของ “เดอะ ปอมปีย์” กันทั้งบ้าน และเกมแรกในชีวิตของเขาก็คือการเข้าไปเชียร์พอร์ทสมัธ ที่สนามแฟรตตัน ปาร์ก ตอนอายุได้ 4-5 ขวย นั่นคือความทรงจำแรก ๆ เกี่ยวกับฟุตบอลที่เขาจำได้

และแน่นอนเมื่อที่บ้านเชียร์พอร์ทสมัธกันหมด ทีมที่เกลียดกันยกบ้านย่อมหนีไม่พ้น “นักบุญ” เซาแธมป์ตัน ที่เป็นคู่อริร่วมชายฝั่งทะเลใต้ และแน่นอนว่าถ้าถามว่ามีทีมไหนที่ เมาท์ เกลียดเข้าไส้ที่สุด คำตอบก็คือ เซาแธมป์ตัน นี่แหละ

3. เพื่อนซี้ ดีแคลน ไรซ์

เมสัน เมาท์ กับ ดีแคลน ไรซ์ ว่าที่นักเตะใหม่ของ อาร์เซนอล เป็นเพื่อนซี้กันมาร่วม 16-17 ปี ตั้งแต่ทั้งคู่อยู่ในอคาเดมีของ เชลซี โดยครั้งหนึ่ง ไรซ์ เคยให้สัมภาษณ์ว่าตอนเด็ก ๆ เขาชอบไปที่บ้านของ เมาท์ ที่พอร์ทสมัธอยู่บ่อย ๆ เพราะที่นั่นในสนามหญ้าหลังบ้านมีทั้งแทรมโพลีน มีทั้งเสาโกล์ให้เตะบอลเล่นกันได้ทั้งวัน แถมยังพากันขี่บีเอ็มเอ็กซ์ร่อนไปตามถนนอย่างสนุกสนาน และเมื่อ เมาท์ ไปที่บ้านของเขา ก็เป็นแบบเดียวกัน

และสิ่งหนึ่งที่ยืนยันความเป็นเพื่อนซี้ย่ำปึ้กของทั้งคู่ได้เป็นอย่างดี คือในช่วงที่โควิดระบาด ทั้งคู่ยังดอดไปเตะบอลเล่นด้วยกันในสวนสาธารณะ เล่นเอา เชลซี ควันออกหู เพราะตอนนั้นสโมสรสั่งทุกคนในทีมกักตัว หลังผลตรวจของ คัลลัม ฮัดสัน โอดอย เพิ่งขึ้น 2 ขีดมาหมาด ๆ ทำเอา เมาท์ ต้องโร่ออกมาขอโทษสโมสรและขอโทษสังคมเป็นการใหญ่

4. แลมพาร์ด vs เจอร์ราร์ด

ในฤดูกาล 2017-18 เมาท์ ถูก เชลซี ส่งไปหาประสบการณ์ด้วยการให้ วิเทสส์ ทีมในลีกดัตช์ยืมตัวไปใช้งาน ซึ่งเจ้าตัวระเบิดฟอร์มเทพ คว้าตำแหน่งนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของสโมสรและ ขณะที่สโมสรใหญ่ ๆ ก็เริ่มเหล่ แต่ตัวเลือกที่ชัดเจน ณ เวลานั้น มี ดาร์บี้ เคาน์ตี ที่มี แฟรงค์ แลมพาร์ด เป็นกุนซือ กับ กลาสโกว์ เรนเจอร์ส ที่มี สตีเวน เจอร์ราร์ด คุมทีมอยู่ ซึ่งถ้าเป็นนักเตะคนอื่น มันคงเป็นการตัดสินใจได้ยาก เพราะทั้ง “แลมพ์” และ “สตีวี จี” ต่างก็เป็นนักเตะระดับตำนานในยุคที่นักเตะวัยเดียวกับ เมาท์ ต้องเชิดชูเป็นฮีโร่

แต่ในเมื่อ เมาท์ เป็นแฟนบอลของ เชลซี ทั้งหัวใจ คำตอบจึงมีแต่อย่างเดียวเท่านั้น เขาย้ายไปเล่นให้กับ “แกะเขาเหล็ก” ของ แลมพาร์ด ผู้เป็นไอดอลของเขาในวัยเด็กด้วยสัญญายืมตัว ในฤดูกาลต่อมา

5. พ่อผู้เป็นทุกอย่าง

หากจะบอกว่าคนที่มีอิทธิพลที่สุดในชีวิตการเป็นนักฟุตบอลอาชีพของ เมสัน เมาท์ คือ โทนี ผู้เป็นพ่อ ก็คงจะไม่ผิดนัก โทนี ดูแลประคบประหงมลูกชายหัวแก้วหัวแหวนให้เดินตามเส้นทางสู่การเป็นนักฟุตบอลอาชีพมาตั้งแต่ตัวน้อย ๆ จนถึงปัจจุบันที่ เมาท์ กลายเป็นนักเตะระดับซูเปอร์สตาร์

ครั้งหนึ่ง ดาวเตะตัวใหม่ “ผีแดง” เคยให้สัมภาษณ์ว่า ทุกครั้งก่อนเปิดซีซั่น เขากับพ่อมักจะเดิมพันกันว่าซีวั่นนั้นเขาจะยิงได้ถึง 10 ประตูหรือไม่ ถือเป็นการตั้งเป้าหมายให้กับตัวเอง โดยมีพ่อเป็นคนคอยกระตุ้น และคอยตำหนิเวลาที่มีบางอย่างไม่ถูกต้อง

จนมาถึงจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญในชีวิตการค้าแข้งของลูกชาย โทนี ก็ยังมีส่วนสำคัญ เพราะมีช่วงหนึ่งที่ดูเหมือนดีลระหว่าง แมนฯ ยูไนเต็ด กับ เชลซี เรื่องการย้ายทีมของ เมสัน กำลังจะล่มแหล่มิล่มแแหล่ แต่ก็เป็น โทนี ที่ช่วงพูดคุยกับทั้ง ท็อดด์ โบห์ลี และ เบห์ดัด เอกห์บาลี 2 บิ๊กของ เชลซี และโน้มน้าวให้การเจรจาดำเนินต่อไป จนกระทั่งทั้ง 2 สโมสรบรรลุข้อตกลงกันได้สำเร็จ

6. ฟรีคิกลูกนั้นของ โรนัลโด

ในซีซั่น 2019-20 เมาท์ กดฟรีคิกตุงตาข่ายอย่างงดงามในเกมกับ วูล์ฟแฮมป์ตัน หลังเกมนั้น เชลซี โพสต์คลิปเจ้าตัวในวัยเด็ก ที่พยายามซ้อมเทคนิคการยิงฟรีคิกให้เหมือนกับหนึ่งในไอดอลของเขาที่เขาเพิ่งไปเห็นมากับตาตัวเอง

ด้วยความที่อีกหนึ่งห้องหัวใจเป็นแฟนบอล พอร์ทสมัธ ในเดือนมกราคม 2008 เมาท์ มีโอกาสได้ไปนั่งอยู่บนอัฒจันทร์ฝั่งทีมเยือนของสนามโอลด์ แทรฟฟอร์ด ในเกมลีกนัดที่ “เดอะ ปอมปีย์” บุกไปเยือน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และจุดนั้นก็เป็นจุดที่ทำให้เขาได้เห็นฟรีคิกที่สุดยอดลูกหนึ่งเท่าที่เจ้าตัวเคยเห็น ซึ่งออกมาจากปลายสตั๊ดของ คริสเตียโน โรนัลโด และหลังจากนั้น ดช.เมสัน เมาท์ ก็พร่ำฝึกเทคนิคการยิงแบบนั้น จนทำได้อย่างยอดเยี่ยม

7. ไอดอลลูกหนัง

แน่นอน แฟรงค์ แลมพาร์ด คือหนึ่งในไอดอลของ เมสัน เมาท์ เขายึด “แลมพ์ส” เป็นแบบอย่างทั้งในฐานะนักเตะเชลซี และในฐานะการเป็นมิดฟิลด์ โดยเฉพาะเรื่องของการเติบขึ้นไปยิงประตู

นอกจากนี้ ลูกา โมดริช ก็เป็นอีกหนึ่งมิดฟิลด์ที่ เมาท์ ยกย่อง หลังจากได้เห็นฝีเท้าด้วยตาตัวเองมาตั้งแต่กองกลางทีมชาติโครเอเชียยังค้าแข้งอยู่ในอังกฤษกับ ทอตแนม ฮอตสเปอร์ ก่อนจะย้ายไปประสบความสำเร็จมากมายกับ รีล มาดริด และทีมชาติ ขณะที่ อันเดรส อิเนียสตา อดีตดาวเตะบาร์เซโลนา ก็เป็นอีกหนึ่งไอดอลที่ เมาท์ มักจะดูคลิปการเล่นของเขาอยู่บ่อย ๆ โดยเฉพาะสไตล์การเล่นแบบติกิตากา ที่ในวันที่พีคสุดขีดนั้นใครก็เทียบได้ยาก

8. สูตรลับของ แลมพ์

ที่ผ่านมา กุนซือชั้นนำหลายคนมักจะมีขุนศึกคู่ใจ ที่เวลาย้ายไปคุมทีมไหนก็มักจะดึงนักเตะคนนั้นไปด้วยเสมอ อย่างในรายของ คาร์โล อันเชล็อตติ ที่เคยหอบหิ้ว ฮาเมส โรดริเกซ ติดตัวไปด้วยตลอดทั้งที่ รีล มาดริด (รอบแรก) บาเยิร์น มิวนิก หรือกระทั่งกับ เอฟเวอร์ตัน

กับ แฟรงค์ แลมพาร์ด ก็เช่นเดียวกัน เมสัน เมาท์ คือขุนศึกคู่ใจของเขา ตั้งแต่ครั้งยังคุม ดาร์บี้ เคาน์ตี และเมื่อได้โอกาสคุมเชลซี เขาก็ให้โอกาส เมาท์ แจ้งเกิดในทีมชุดใหญ่เต็มตัว

อย่างไรก็ตาม จากนี้ไป เมาท์ จำต้องผละจากอ้อมอกของ แลมพาร์ด แล้ว ขณะที่แฟนบอล “ปิศาจแดง” ก็ได้แต่หวังว่า เอริค เทน ฮาก จะดูและและดึงศักยภาพของ เมสัน เมาท์ ออกมาให้ได้ไม่แพ้ที่ “แลมพ์” เคยทำได้