นอกจากพรรคอันดับ 1 อย่าง “ก้าวไกล” จะไม่ได้เก้าอี้ประธานสภาผู้แทนราษฎรตามที่หมายปองแล้ว! แต่เก้าอี้รองประธานสภาคนที่ 1 ของพรรคก้าวไกล คือ หมออ๋อง-ปดิพัทธ์ สันติภาดา ส.ส.พิษณุโลก ยังต้องมีลุ้น มีเสียว! เนื่องจากพรรคการเมืองขั้วเดิม ส่งชื่อ นายวิทยา แก้วภราดัย ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติ ลงชิงชัยด้วย
แบบนี้ภาษาวัยรุ่นเขาเรียก “กวนโอ๊ย” พรรคก้าวไกลไปอย่างนั้นแหละ! เพราะตอนที่มีการเสนอชื่อ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา จากพรรคประชาชาติ เป็นประธานสภา กลับไม่มีใครเสนอชื่อลงแข่งขันด้วย เหมือนกับนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย ถูกเสนอชื่อเป็นประธานสภาคนที่ 2 ก็ไร้คนลงแข่งขัน!
ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น พลพรรคก้าวไกลไปคิดเอาเองก็แล้วกัน ว่านี่คือการส่ง “สัญญาณ” อะไรบางอย่างหรือเปล่า? ที่จะไม่เอาคนของพรรคเป็นประธานสภา ไม่ไว้วางใจ ส.ส.พรรคก้าวไกลเข้ามาทำหน้าที่เป็นประมุขเบอร์ 1 ของฝ่ายนิติบัญญัติ
หลังจากนี้ต้องจับตาดูการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีของสมาชิกรัฐสภา ทั้ง ส.ส.-ส.ว. รวมกัน 750 คน ในวันที่ 13 ก.ค. 66 บรรยากาศจะวุ่นวายเหมือนตลาดสดยามเช้าหรือไม่
นอกจากนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ จากพรรคก้าวไกล เผลอ ๆ อาจจะมีผู้เข้าแข่งขันอย่าง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ รวมทั้ง นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ โดยคนหลังนี้ไม่ต่างอะไรไปจาก “เงา” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นั่นเอง
เชื่อว่าถ้า พล.อ.ประวิตร หรือไม่ก็นายพีระพันธุ์คนใดคนหนึ่ง ลงชิงเก้าอี้นายกฯ กับนายพิธา ส.ว. ส่วนใหญ่คงจะเทคะแนนให้ พล.อ.ประวิตร หรือไม่ก็นายพีระพันธุ์
“พยัคฆ์น้อย” ฟังนักวิชาการหลายคนประเมินว่านายพิธาไม่น่าจะผ่านด่าน ส.ว. แต่มีนักวิชาการบางคนบอกว่ารอบนี้ (13 ก.ค.) อาจให้ผ่านไปก่อน เพราะถ้า ส.ว. ขวางตั้งแต่ด่านแรกจะดูน่าเกลียด เป็นการฝืนกระแสเสียงคนส่วนใหญ่ 14 ล้านเสียง ที่เลือกนายพิธาเข้ามา
โดยปล่อยให้นายพิธาเป็นนายกฯ แค่เพียงระยะเวลาสั้น ๆ แล้วจึงฟันด้วยข้อ “กฎหมาย” จะดูดีกว่า! ทั้งเรื่องส่วนตัวของนายพิธา และนโยบายการหาเสียงว่าจะทำโน่น ทำนี่ จนฝ่าย “อนุรักษนิยม” รับไม่ได้
อย่าว่าแต่ “อนุรักษนิยม” รับไม่ได้! ส่วน 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลต่อไปอาจจะอยู่กันอย่างกะโผลกกะเผลก ไม่เป็นเอกภาพ ไม่ว่าจะเรื่องมาตรา 112 การปฏิรูปกองทัพ การปรับลดงบประมาณบางหน่วยงาน
ไหนจะเรื่องสุราก้าวหน้า และการสมรสเท่าเทียมฯถามว่าพรรคประชาชาติของประธานสภาจะเอาด้วยกับพรรคก้าวไกลหรือไม่?
สรุปว่าจนถึงวันนี้นายพิธาอย่าประมาทขั้วการเมืองตรงข้ามจะไม่กล้าตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย เนื่องจาก “พยัคฆ์น้อย” มองดูรูปการณ์แล้ว เขายังไม่ไว้วางใจให้พรรคก้าวไกลคุมทั้ง 2 ขา คือหัวหน้าฝ่ายนิติบัญญัติ และหัวหน้าฝ่ายบริหาร (นายกฯ)
ย้ำว่าปัจจุบันเขาไม่ไว้วางใจพวกคุณ นี่จึงอาจยังไม่ถึงเวลาของ “พิธา” และพรรคก้าวไกล!!
——————–
พยัคฆ์น้อย