“คนบางคนหายไปจากชีวิต แต่ไม่เคยหายไปจากความทรงจำ…ถึงรักในอิสระเเค่ไหน สุดท้ายก็ต้องการใครสักคนที่อยู่ข้างๆเสมอ”

เรื่องนี้มันเริ่มจากตำรวจ ทล.1 กก.8 บก.ทล. ได้ติดตามจับกุม นายเติม นัว อายุ 32 ปี ชาวกัมพูชา ในข้อหา “เป็นบุคคลต่างด้าวทำงานนอกเหนือจากสิทธิที่ทำได้ตามกฎกระทรวงแรงงาน และใช้ยานยนต์บนทางหลวงหรือสะพานโดยเจตนาหลีกเลี่ยงค่าธรรมเนียม” ซึ่งคุมตัวได้ที่บริเวณด่านเก็บค่าผ่านทางพัทยา ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี

มันสืบเนื่องมาจากการที่ นายเติม นัว มีพฤติกรรมหลีกเลี่ยงการชำระค่าผ่านทางระบบ M-Flow รวมๆแล้วกว่า 266 เที่ยว ขอย้ำว่า 266 เที่ยว รวมค่าผ่านทางและค่าปรับเป็นเงิน 71,580 บาท กรมทางหลวงจึงแจ้งความเอาไว้จนมีการออกหมายจับ

ต่อมาเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้เบาะแสว่า นายเติม นัว กำลังขับรถผ่านมายังด่านเก็บเงินพัทยาอีก จึงนำกำลังสกัดจับกุมไว้ได้ ตัวของ นายเติม นัว ที่เป็นผู้กระทำผิดก็ถึงกับหน้าถอดสีเพราะไม่คิดว่าตัวเองจะถูกจับ และให้การรับสารภาพตามข้อกล่าวหาทุกอย่าง


ต้องเท้าความก่อนว่ามันมีข้อมูลจากเจ้าพนักงานทางหลวงและตำรวจทางหลวง กก.8 บก.ทล ซึ่งรับผิดชอบด่านเก็บเงินถนนกาญจนาภิเษก วงแหวนตะวันออก(ทล.พ.9) และทางหลวงพิเศษหมายเลข 7 พบว่ามีรถยนต์ที่ใช้ป้ายแดง ลักลอบขับเข้าใช้ช่องทางระบบ M Flow ที่เป็นระบบจัดเก็บค่าผ่านทางอัตโนมัติแบบไม่มีไม้กั้น (Free Flow) และมียอดค้างชำระค่าผ่านทางเป็นจำนวนมากหลายคัน

ปรากฎว่าในจำนวนนี้มีรถในข่ายเฝ้าจับตากว่า 20 ป้ายทะเบียน ที่ขับเข้าใช้ช่องทางระบบ M Flow มียอดค้างชำระค่าผ่านทาง 300-400 รายการขึ้นไป จากการสืบสวนพบว่ารถทะเบียนป้ายแดงของ นายเติม นัว มีการหลีกเลี่ยงการชำระค่าผ่านทางระบบ M-Flow กว่า 266 เที่ยว

รวมทั้งคนขับรถมีพฤติกรรมขับรถในเวลากลางคืนตามวงรอบกรอบเวลาที่แน่นอน จึงได้นำกำลังเฝ้าสังเกตการณ์ จนกระทั่งพบรถกระบะคันดังกล่าวขับมาจึงได้สกัดจับได้ขณะขับเข้ามาที่ด่านเก็บเงินพัทยา

ในส่วนของการดำเนินคดีนั้น แบ่งออกเป็นสองส่วน ในส่วนแรก ดำเนินคดี นายเติม นัว ในฐานะ ผู้ขับในความผิดฐานใช้ยานยนต์บนทางหลวงหรือสะพานโดยเจตนาหลีกเลี่ยงค่าธรรมเนียม และเป็นบุคคลต่างด้าวทำงานนอกเหนือจากสิทธิที่ทำได้ตามกฎกระทรวงแรงงาน


นอกจากนี้ในส่วนที่สองได้ทำการตรวจสอบชื่อผู้ครอบครองรถที่มีการจดทะเบียน ซึ่งเป็นนายจ้างของ นายเติม นัว จึงได้เรียกนายจ้างมาชำระผ่านทางพร้อมค่าปรับ เป็นเงิน 71,580 บาท

อยากฝากถึงผู้ขับรถที่ใช้บริการ M-Flow ต้องชำระค่าผ่านทางภายใน 7 วัน หากเกิน 7 วันจะต้องจ่ายค่าปรับ 10 เท่าของค่าผ่านทาง เพราะฉะนั้นควรชำระค่าผ่านทางในเวลาที่กำหนดเถอะ เพื่อหลีกเลี่ยงค่าปรับในส่วนที่อาจจะเกิดขึ้น

อีกทั้งผู้ที่ใช้รถป้ายแดงหรือป้ายแดงปลอมที่ลักลอบใช้ช่องทาง M Flow ก็ถือว่าเป็นความผิด อย่าไปคิดเองเออเองว่าตำรวจเขาไม่สนใจหรือไม่ตรวจเช็กกล้อง อย่าไปเสียน้อยเสียยาก เสียมากเสียง่าย ก็แหมอุตส่าห์มีตังค์ซื้อรถป้ายแดงมาขับ ซื้อน้ำมันมาเติม กะอีแค่ค่าผ่านทางทำไมไม่มีปัญญาจ่าย.

ข่าวสารตำรวจ

ตรวจเยี่ยม
พล.ต.ต.ธวัชชัย ถุงเป้า ผบก.ภ.จว.นครพนม มอบหมายให้ พ.ต.อ.พลาเดช เพ็ชรหว้าโง๊ะ รอง ผบก.ภ.จว.นครพนม พร้อมด้วยคณะกรรมการตรวจเยี่ยม ประเมินโครงการชุมชนยั่งยืน เพื่อแก้ไขปัญหายาเสพติดแบบครบวงจรตามยุทธศาสตร์ชาติ ประจำปี 2566 ออกตรวจประเมินโครงการชุมชนยั่งยืน สภ.หนองฮี โดยมี พ.ต.ท.ศรายุทธ ศรีมัญจาบุรี สวญ.สภ.หนองฮี และชุดปฏิบัติการ ภาคีเครือข่าย ให้การต้อนรับ ณ ศูนย์ปฏิบัติการชุมชนยั่งยืน บ้านโพนทันกลาง ม.9 ต.หนองฮี อ.ปลาปาก จ.นครพนม

ช่วยเหลือคนเดือดร้อน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าโลกออนไลน์ได้มีการเข้าไปแสดงความคิดเห็นชื่มชมเจ้าหน้าที่ตำรวจเมืองสุโขทัย ที่ช่วยเข็นรถปิกอัฟที่กำลังจะเลี้ยวเข้าไปยังปั๊ทน้ำมันแต่เกิดน้ำมันหมดก่อนทำให้จนท.ตำรวจจ้องลงไปช่วยกันเข็นเพื่อเข้าไปเติมน้ำมัน โดยเพจเฟสบุ๊คสถานีตำรวจภูธรเมืองสุโขทัย ได้มีการลงคลิปวีดีและภาพนิ่งที่จนท.ตำรวจสภ.เมืองสุโขทัย ช่วยชาวบ้านเข็นรถน้ำมันหมด ไว้จำนวน 2 คลิป โดยโพสว่าวันนี้ (3 กรกฎาคม 2566 )เวลาประมาณ 08.45 น. ด.ต.ประเสริฐ ศรีพัฒน์ ผบ.หมู่(จร.)สภ.เมืองสุโขทัย พร้อมด้วย ส.ต.ต.เอกมล อินนารี ผบ.หมู่(ป.)ช่วยงานจราจร สภ.เมืองสุโขทัย ออกตรวจพื้นที่รับผิดชอบ พบรถยนต์จอดเสียน้ำมันหมด อยู่ใกล้เคียงปั๊มน้ำมัน ปตท.คลองโพธิ์ ถ.จรดวิถีถ่อง ต.บ้านกล้วย อ.เมือง จ.สุโขทัย จึงเข้าให้การช่วยเหลือ ดันรถยนต์คันดังกล่าวเข้าเติมน้ำมันในสถานีจ่ายน้ำมันเรียบร้อย สามารถเดินทางต่อไปได้ #จราจรเมืองสุโขทัย ทำให้ผู้ที่เห็นคลิปวีดีต่างเข้าไปชื่มชมเป็นจำนวนมาก เช่น ตำรวจอำเภอเมืองสุโขทัยสุดยอดบริการประชาชนได้ดีเยี่ยม

ฝึกเข้มนายสิบตำรวจ
ที่หน้ากองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดระยอง อ.เมือง จ.ระยอง พ.ต.อ.อภิชนัน วัฒนวรางกูร ผกก.กลุ่มงสนสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดระยอง และพ.ต.ต.สุรเดช มณีพิทักษ์ หัวหน้าชุดหน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิด หรือ EOD และร.ต.อ.สุรเดช มณีพิทักษ์ รอง สว. นปพ.ภ.จว.ระยอง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจครูพี่เลี้ยง ได้เปิดรับน้องนายสิบตำรวจ รุ่นเขาน้อย 59 จำนวน 165 นาย โดยได้เรียกแถวฝึกปฏิบัติความพร้อม ความแข็งแรงของร่างกาย และความสมัครสมานสามัคคีกันก่อนส่งไปปฏิบัติหน้าที่ตามสถานีตำรวจในสังกัดตำรวจภูธรจังหวัดระยองทั้ง 16 สถานี ทั้งฝึกปฏิบัติความพร้อมแถวชิด แถวตอน วิดพื้น และวิ่งไปกราบไหว้สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองระยอง เช่น องค์พระบรมรูปในศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช วัดลุ่ม ศาลเจ้าพ่อหลักเมือง และองค์พระพุทธรูปพระพุทธอังคีรส สวนศรีเมือง เพื่อความเป็นสิริมงคล และเป็นการสร้างความแข็งแกร่งของร่างกายด้วย โดยมีพ่อแม่ และญาติพี่น้องมาให้กำลังใจกันจำนวนมาก ซึ่งระหว่างการฝึกท่ามกลางอากาศที่ร้อนระอุ จนทำให้นายสิบตำรวจหลายรายถึงกับเป็นลมล้มพับ เจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างพรกุศลระยอง ที่มาร่วมสนับสนุนการฝึก ต้องช่วยปฐมพยาบาลกันวุ่น.

มอบอุปกรณ์สยบคลั่ง
พ.ต.อ.ธราดล เหมพัฒน์ ผกก.สภ.ทับคล้อ จ.พิจิตร พร้อมด้วย พ.ต.ท.นิธิศ ก้องวีระกุล รองผกก.ป.สภ.ทับคล้อ พ.ต.ท.อิสระ น้อยพร สวป.สภ.ทับคล้อ และเจ้าหน้าที่สายตรวจสภ.ทับคล้อ ได้รับมอบการสนับสนุนอุปกรณ์ระงับเหตุบุคคลคุ้มคลั่ง (ไม้งับ) นวัตกรรมใหม่ที่ผลิตขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์ในการออกเหตุ และมีความมั่นคงปลอดภัยสูงสำหรับเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยมีนายเชษฐ์ชนัตถ์ วัฒนามานนท์ กก. ผจก.บริษัทพานาพลัส จำกัด (panaplus .co..ltd.) เป็นผู้ส่งมอบสนับสนุนอุปกรณ์ไม้งับ ระงับเหตุ และสาธิตการใช้งานอุปกรณ์.

แก้ไขยาเสพติด
พ.ต.อ.สมชาย ทิวงษา ผกก.สภ.บ้านบึง จ.ชลบุรี นายประพันธ์ ประทุมชมภู ปลัดอาวุโส อ.บ้านบึง พร้อมด้วย นายสนธยา ใจเย็น ผู้ใหญ่บ้าน ม. 4 ต.หนองชาก ผู้นำท้องถิ่น ผู้นำชุมชน และภาคีเครือข่ายคณะทำงานชุมชนยั่งยืน ให้การต้อนรับคณะกรรมการประเมินการตัดสิน “โครงการชุมชนยั่งยืน เพื่อแก้ไขปัญหายาเสพติดแบบครบวงจร ตามแผนยุทธศาสตร์ชาติ” ที่บ้านหนองเขิน ม.4 ต.หนองชาก ซึ่งเป็นหมู่บ้านเป้าหมายที่ สภ.บ้านบึง พิจารณาดำเนินการ โดยสถานีตำรวจภูธรทั่วจังหวัดชลบุรี ในพื้นที่รับผิดชอบดำเนินการเพื่อแก้ไขปัญหายาเสพติดตามกรอบที่กำหนดขึ้นพร้อมเพรียงกัน

อยู่ไหนก็พัฒนา
ที่ผ่านมา สภ.โนนสัง สภาพอาคารสถานที่รั้วรอบขอบชิดขาดการพัฒนามาหลาย 10 ปี แต่สำหรับ พ.ต.อ.กฤษณ์ มาสุข ผกก.สภ.โนนสัง ผู้กำกับหนุ่มไฟแรง หาได้หยุดยั้งกับการพัฒนา เมื่อมองเห็นอาคารไม่สง่างาม ห้องประชุมไม่ทันสมัย แม้กระทั่งรั้วรอบชิดไม่เป็นสัดส่วน และห้องทำงานของทุกแผนกบนสถานี ร่วมกันคิดร่วมกันออกแรงจิตอาสา และระดมทุนทอดผ้าป่าสามัคคีเพื่อพัฒนาโรงพัก ล่าสุด ภายหลังพักฟื้นกลับจากโรงพยาบาล สละทุนทรัพย์ส่วนตัวจัดซื้ออุปกรณ์เครื่องมือสื่อสารมอบให้เป็นสมบัติส่วนรวม อาทิ กล้องบันทึกภาพ VDO ประจำตัวเจ้าหน้าที่ตำรวจ(Body Camera) จำนวน 3 เครื่อง มอบเงินเป็นกองกลางใช้ในการปฏิบัติงาน ให้แก่เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.โนนสัง จิตมุ่งมั่นเพื่อองค์กรและขวัญกำลังใจผู้ใต้บังคับบัญชาอย่างนี้ คนเป็นนายใหญ่อย่าง พล.ต.ต.พงพิพัฒน์ ศิริพรวิวัฒน์ ผบก.ภ.จว.หนองบัวลำภู ก็สบายใจไปด้วย
สุภัชรกานต์ แก้วสิงห์ ขตว.หนองบัวลำภู

เกียรติบัตรยกย่อง
พ.ต.ท.พัฒนพงศ์ ศิริเจริญนำ สว.ส.ทท.2 กก.2 บก.ทท.1 ได้ส่งมอบเกียรติบัตรยกย่องสรรเสริญในการทำหน้าที่ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ ตามโครงการ “ทำดี มีรางวัล” ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติให้กับ ร.ต.ต.วิทยา ทองลพ รอง สว.(ป.) ส.ทท.2 กก.2 บก.ทท.1 ซึ่งเป็นผู้ปฏิบัติหน้าที่ดีเด่น ทำงานเชิงรุกเพื่อความสงบเพื่อความสงบสุขของประชาชน


******************************
คอลัมน์ : สน.รอตรวจ
โดย : บิ๊กสลีป