ที่ว่ากันว่า… คนจีนนิยมบริโภคเมนูขาไก่-ตีนไก่เป็นอันดับ 1 ของโลก ซึ่งข้อมูลเรื่องนี้ แม้แต่เว็บไซต์ China IRN ของจีนเอง ก็เคยเปิดเผยเอาไว้ว่า… ในแต่ละปีคนจีนบริโภคตีนไก่มากถึง 30,000 ล้านชิ้น และปัจจุบันในจีนเองก็ผลิตได้ไม่ทันความต้องการของคนในประเทศ ซึ่งไทยอาจใช้ “ช่องว่าง” นี้เพื่อ “ดึงเม็ดเงินเข้าไทย” ในเวลาที่ไทยต้องฟื้นฟูเศรษฐกิจเช่นนี้…

จะทำได้แค่ไหน? ต้องแข่งกับใครบ้าง?

เป็น “การบ้านของไทย” ที่ “ต้องเร่งทำ”

เพื่อ “ไม่ปล่อยให้โอกาสทองหลุดลอย”

ทั้งนี้ กรณี “ขาไก่-ตีนไก่” ที่กำลังเป็นที่สนอกสนใจของผู้ผลิตและภาคการส่งออกของไทยในเวลานี้นั้น กับชิ้นส่วนไก่ทั้ง 2 ส่วนนี้ ก็อาจจะมีคนไทยหลายคนเกิด “ปุจฉา” ถึง “ปัจจัย” ที่ทำให้ “ขาดตลาด” รวมถึงสงสัยว่า ทำไมคนจีนจึงนิยมเมนูขาไก่-ตีนไก่กันล้นหลาม?? จนถึงขั้นติดอันดับโลกประเทศที่มีการบริโภคสูงมากที่สุด ซึ่งเรื่องนี้ก็มี “วิสัชนา” และการวิเคราะห์จากแหล่งข่าวกูรูด้านอาหารชื่อดัง ที่เป็น คอลัมนิสต์อาหารประจำหน้าวาไรตี้ หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ ทุกฉบับวันเสาร์ นั่นคือ อาจารย์ไชยแสง กิระชัยวนิช ที่ได้มีการสะท้อนเกี่ยวกับเรื่องนี้กับ “ทีมสกู๊ปเดลินิวส์” ไว้น่าสนใจ…

อาจารย์ไชยแสง อธิบายถึง “ปัจจัยสำคัญ” ที่ทำให้ “ขาไก่-ตีนไก่ขาดตลาดจีน” ในช่วงนี้ แต่ก่อนจะถึงประเด็นนี้ก็ได้ระบุโยงกับประเทศไทยว่า… ไทยเราถือเป็นหนึ่งในฐานการผลิตและส่งออกผลิตภัณฑ์จากไก่รายใหญ่ของโลก โดยที่ผ่าน ๆ มาได้มีการส่งออกผลิตภัณฑ์จากไก่ไปขายทั่วโลก ในหลาย ๆ ทวีป ทั้งเอเชียและยุโรป เนื่องจากได้รับการยอมรับจากผู้บริโภคในเรื่องของคุณภาพและมาตรฐาน โดยนอกจากเนื้อไก่แล้ว “ขาไก่-ตีนไก่” ไทยก็ “ส่งออกไม่น้อย” เช่นกัน ในแต่ละปี…

แม้มีบางคนมองเป็น “เศษชิ้นส่วนไก่”

แต่ก็ “มีตลาดต้องการ-มีตลาดรองรับ”

ทางอาจารย์ไชยแสงกล่าวถึง “ทัศนคติเชิงลบ” ที่บางคนอาจจะมอง “ขาไก่-ตีนไก่” เป็นวัตถุดิบที่ไม่ค่อยมีราคาว่า… แม้วัตถุดิบดังกล่าวนี้จะได้มาจากชิ้นส่วนที่เหลือจากการชำแหละไก่ทั้งตัว และถือเป็น “สินค้าเกี่ยวกับไก่ที่มีราคาถูกที่สุด” แต่ชิ้นส่วนดังกล่าวนี้ปัจจุบันกลับมีแนวโน้มความต้องการเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ในทุก ๆ ปี จากผู้บริโภคทั่วโลก และกับเมืองไทยเองในขณะนี้ก็มีแนวโน้มบริโภคขาไก่และตีนไก่เพิ่มขึ้นทุกปี โดยเวลานี้ “จุดด้อย” ในเรื่องที่เป็นชิ้นส่วนที่ราคาถูก ก็ “กลายมาเป็นจุดเด่น” โดยเฉพาะในช่วงที่เศรษฐกิจ-เงินในกระเป๋าของผู้คนฝืดเคือง จึงส่งผลทำให้คนหันมาบริโภคชิ้นส่วนที่ถูกนี้มากขึ้น

อย่างไรก็ดี ทางผู้สันทัดกรณีด้านอาหารท่านเดิมระบุว่า… อีกหนึ่งปัจจัยที่ก็ถือว่าทำให้วัตถุดิบอย่างขาไก่และตีนไก่มีผู้บริโภคคนไทยหันมานิยมบริโภคกันเพิ่มมากขึ้นในปัจจุบันนี้ นั่นก็เป็นเพราะในเมืองไทยได้ “มีการคิดค้นดัดแปลงเมนู” ที่ทำจาก “ขาไก่-ตีนไก่” เพิ่มเติมมากขึ้น โดยชิ้นส่วนไก่ดังกล่าวนี้สามารถ “พลิกแพลงเป็นเมนูอาหารต่าง ๆ ได้อย่างหลากหลาย” ยกตัวอย่างเช่นเมนู… ขาไก่เสียบไม้ย่าง, ขาไก่ต้มพะโล้, ขาไก่ตุ๋น, ก๋วยเตี๋ยวขาไก่ หรือแม้แต่ ขาไก่ถอดเล็บ กระดูก จนเหลือแต่เนื้อ หนัง เอ็น หรือที่เรียกว่า “เล็บมือนาง” นั้น… ก็นิยมนำไปทำทั้งเมนูยำ-เมนูผัด…

จึงไม่แปลกที่ชิ้นส่วนที่ถูกที่สุดของไก่…

จะกลายมาเป็นเมนูยอดนิยมในปัจจุบัน

ทั้งนี้ สำหรับ “ตลาดบริโภคในจีน” ที่ขณะนี้ “ขาไก่-ตีนไก่กำลังขาดตลาด” เรื่องนี้ อาจารย์ไชยแสง วิเคราะห์ว่า… แม้จีนจะมีฟาร์มเลี้ยงไก่และโรงชำแหละทั่วประเทศ แต่จีนก็ต้องนำเข้าขาไก่-ตีนไก่จากประเทศอื่น ๆ ทุกปี เพราะกำลังการผลิตที่มีไม่เพียงพอต่อความต้องการ เพราะในจีน “มีเมนูอาหารมากมาย” กับ “มีผลิตภัณฑ์แปรรูปหลากหลาย” ที่ทำจาก “ขาไก่-ตีนไก่” นอกจากนี้ เมนูจากขาไก่-ตีนไก่ก็ยังเป็น “เมนูยอดฮิต” สำหรับ กลุ่มนักเดินทางชาวจีน ที่นิยมรับประทานระหว่างเดินทาง จึงทำให้ตามสถานีรถโดยสาร หรือแม้แต่ตามสถานีรถไฟความเร็วสูง ก็มักจะมีสินค้าเหล่านี้จำหน่าย…

อย่างไรก็ตาม ก็มี “สาเหตุที่มองข้ามไม่ได้” ที่อาจทำให้เกิด “ปัญหาขาไก่-ตีนไก่ขาดตลาด” โดย อาจารย์ไชยแสง กิระชัยวนิช ระบุกับ “ทีมสกู๊ปเดลินิวส์” ว่า… หลังจาก “อุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าบูม” ทำให้ จีนต้องการชิปคอมพิวเตอร์จำนวนมาก แต่เมื่อจีนมีปัญหากับสหรัฐอเมริกาและไต้หวัน ซึ่งถือเป็นผู้ผลิตชิปคอมพิวเตอร์รายใหญ่ของโลก ก็ทำให้มีการส่งออกชิปให้จีนน้อยลง ซึ่ง จีนมีการเปลี่ยนฟาร์มเลี้ยงไก่ให้เป็นโรงงานผลิตชิปคอมพิวเตอร์ ก็ส่งผลให้กำลังผลิตขาไก่-ตีนไก่ลดลง จนไม่พอกับความต้องการ …ซึ่งปัจจัยนี้ทางอาจารย์ไชยแสงได้ย้ำว่า…ก็อาจจะมีส่วนเช่นกัน…

กรณี “ขาไก่-ตีนไก่” เกิด “ขาดตลาดจีน”

จากเรื่อง “อาหาร” ก็ “ยึดโยงรถยนต์”

เกี่ยวโยง “ยึดโยงอุปกรณ์ไฮเทค”…และ “ยึดโยงศึกการเมืองโลก??”.