ย้อนไปตอนค้าแข้งกับ แอร์เบ ไลป์ซิก “นาบี เกอิตา” เป็นดาวเตะเนื้อหอมที่ได้รับความสนใจจากทั้งบาเยิร์น มิวนิค บาร์เซโลนา โดยเฉพาะฟอร์มการเล่นในบุนเดสลีกาฤดูกาล 2016-17 ที่เขายิง 8 ประตู 8 แอสซิสต์จากการลงเล่น 31 นัดในลีก

ช่วงซัมเมอร์ 2017 ลิเวอร์พูล โดนปฏิเสธข้อเสนอสองครั้ง ก่อนที่ ไมเคิล เอ็ดเวิร์ดส์ ผู้อำนวยการกีฬาในตอนนั้น เอาชนะคู่แข่งด้วยข้อตกลงที่เกอิตาจะไลป์ซิกต่อไปอีก 12 เดือน

ค่าตัวเป็นสถิติ 52.75 ล้านปอนด์ ซึ่งเป็นการจ่ายราคาพรีเมียมเกินกว่าค่าฉีกสัญญา 48 ล้านปอนด์ในสัญญาที่มีผลในปี 2018 แสดงให้เห็นว่า ลิเวอร์พูล อยากได้ เกอิตา มากถึงขนาดไหน

เจอร์เกน คลอปป์ บอกว่า เกอิตา คือมิดฟิลด์ที่สมบูรณ์แบบ ครบเครื่อง ยิ่งผ่านการรอคอยก็ยิ่งทำให้แฟนๆ ตื่นเต้น จนวันที่มาถึงเมลวู้ดในเดือนกรกฎาคม 2018 อดีตกัปตันสตีเวน เจอร์ราร์ด เป็นคนมอบเสื้อหมายเลข 8 หมายเลขที่ไม่มีใครได้สวมตั้งแต่เจอร์ราร์ดย้ายออกไปเมื่อสามปีก่อน

ผ่านไปห้าปี เกอิตา ในวัย 28 กำลังส่งต่อเสื้อให้คนอื่น ในฐานะการเซ็นสัญญาที่แพงที่สุดเป็นอันดับสี่ในประวัติศาสตร์ แต่เขากำลังย้ายออกจากทีมแบบไม่มีค่าตัว ไม่มีการพูดเรื่องสัญญาใหม่จริงจัง ต่างเห็นพ้องต้องกันว่าแยกทางกันแบบนี้น่าจะดีที่สุด

แล้วมันเกิดอะไรขึ้นกับเกอิตา?

ดิ แอธเลติก กล่าวว่าได้พูดคุยกับคนมากมายที่ลิเวอร์พูล แน่นอนว่าเปิดเผยชื่อไม่ได้ คำตอบข้อแรกเป็นอย่างที่ทุกคนรู้คือ อาการบาดเจ็บ ทุกคนในแอนฟิลด์เห็นใจที่เขาเจอปัญหาสภาพร่างกายเล่นงานซ้ำแล้วซ้ำเล่า

ในการประเดิมเกมแชมเปียนส์ลีกกับนาโปลี เดือนตุลาคม 2018 เกอิตา ถูกหามออกหลังปะทะกับโชเซ กาเญฆอนของนาโปลี จนต้องพักค้างคืนที่โรงพยาบาลในเนเปิลส์ ตอนแรกกลัวกันว่ากระดูกสันหลัง หลังแสกนหลายครั้ง เขาเดินทางกลับมาลิเวอร์พูล สามวันต่อมาเล่นกับแมนเชสเตอร์ซิตี

ปัญหาเจ็บบ่อยเป็นเรื่องประหลาดใจมาก เพราะตอนอยู่เยอรมนี เกอิตา ไม่ต่างอะไรกับนักเตะสุดอึด เขาลงเล่น 58 จาก 68 นัด และ 6 ใน 10 เกมที่พลาดนั้นเป็นเพราะโดนแบนด้วย หมายความว่าเขาแทบไม่เจ็บเลยด้วยซ้ำ แต่ชีวิตในถิ่นเมอร์ซีย์ไซด์ทำไมถึงได้เจ็บบ่อยนัก

ทีมงานอธิบายว่าอาจเป็นเรื่องของการปรับตัวให้เข้ากับความเข้มข้นมากขึ้นทั้งในการฝึกซ้อมและการแข่งขันของพรีเมียร์ลก ซึ่งเป็นสิ่งที่เกอิต้ายอมรับว่าตัวเองมีปัญหา

ผลงานในพรีเมียร์ลีกสีเขียวตัวจริง, สีเหลืองสำรอง, สีแดงไม่ได้ลง

ลิเวอร์พูล ทำทุกวิถีทาง ไม่ว่าโยคะ การเปลี่ยนอาหาร และปรับแผนการฝึก แต่มันไม่ได้เปลี่ยนแปลงนัก แต่ละครั้งเขาต้องพักนานกว่าที่คาดไว้ในตอนแรก มีความรู้สึกกันว่าอาการเจ็บไม่ได้แค่ทำร้ายร่างกาย แต่ยังทำลายความมั่นใจของเขาด้วย

ฤดูกาลที่แล้ว ดาวเตะทีมชาติกินีลงเล่นทุกรายการ 40 นัด ในปี 2018-19 33 นัด, ในปี 2019-20 27 นัด และ 16 นัดในปี 2020-21 แต่ฤดูกาลนี้เขาถูกจำกัดให้ลงเล่นเพียง 13 นัด (ตัวจริง 3 นัดในพรีเมียร์ลีก)

รวมแล้ว ลิเวอร์พูล ลงเล่น 277 นัดนับตั้งแต่เกอิตาเข้ามา และเขาลงเล่นเพียง 129 นัด (คิดเป็น 47 เปอร์เซ็นต์)

ภาษา ยังเป็นอุปสรรคอย่างหนึ่ง ช่วงต้นปี 2020 ระหว่างทานอาหารเช้ากับซาดิโอ มาเน มีสตาฟฟ์แจ้งว่า ตอนเช้าเขาต้องวิ่งเบาๆ (jog) รอบสนาม แต่หลังจากมาเนแหย่ เกอิตา ตอบกลับสตาฟฟ์ว่า “ใช่ ใช่ ผมชอบไข่” (อาจหมายถึง yolk ไข่แดง)

เพื่อนซี๊มาเน

หรือตอนที่ทีมแพทย์ต้องการผลแสกนที่เกอิตาไม่ได้แสกนเพราะความเข้าใจผิด และเจ้าหน้าที่คนหนึ่งกลับไปที่โรงพยาบาลเอกชนพร้อมกับเขา

ภาษาไม่แข็งแรงยังส่งผลต่อการทำความเข้าใจสิ่งที่คล็อปป์และเป๊ป ลินเดอร์สต้องการจากเขาในเชิงแท็คติก

การได้รับเลือกให้ลงเล่นเกมแรกของรอบรองชนะเลิศแชมเปี้ยนส์ลีกปี 2019 ที่ไปเยือนบาร์เซโลนาเป็นสัญญาณของความก้าวหน้า แต่เขาเดินกะโผลกกะเผลกด้วยอาการบาดเจ็บ

ฤดูกาลถัดมา เขาทำประตูในเกมชิงแชมป์สโมสรโลกรอบรองชนะเลิศ แต่อีกครั้งที่ความสุขของเขาก็อยู่ได้ไม่นานเพราะเจ็บขาหนีบหลังจากนั้นไม่นาน เขาออกสตาร์ทเพียงเก้านัดในฤดูกาลที่คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก

transfermarkt ระบุว่า เกอิตา มีประวัติการเจ็บทั้งหมด 22 ครั้ง ตั้งแต่กล้ามเนื้อท้อง กล้ามเนื้อต้นขา ปัญหาที่หลัง ขาหนีบ เข่า ข้อเท้า พักสั้นบ้างนานบ้าง ที่นานสุดคือ 90 วันในฤดูกาลนี้

เกอิตา อาจได้แชมป์มากมาย แต่เป็นความรู้สึกในหมู่แฟนลิเวอร์พูลที่รู้สึกเขาน่าจะไปได้ไกลกว่านี้ถ้าไม่เพราะเจอปัญหาอาการเจ็บที่มันมากเกินไป

เฮียเอง