8 พรรคฝ่ายประชาธิปไตยถือฤกษ์เซ็น “เอ็มโอยู” บันทึกความเข้าใจร่วมจัดตั้งรัฐบาลของประชาชน เมื่อ 22 พ.ค. 66 เวลา 16.30 น. ตรงกับวันเวลาที่ คสช. ที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นหัวหน้าคณะ ได้ปฏิวัติยึดอำนาจรัฐบาลพลเรือน จาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ไปจากมือ มันจึงมิใช่เหตุบังเอิญ แต่ต้องการให้ประชาชนได้ร่วมรำลึกเหตุการณ์ปล้นอำนาจด้วยปืนและรถถังไปด้วยกัน

ว่าที่นายกฯ คนที่ 30 นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล นำ 8 หัวหน้าพรรคการเมืองร่วมลงนาม “เอ็มโอยู” รวม 23 ข้อ กับอีก 5 ข้อย่อยดังที่เป็นข่าวไปแล้ว ได้สำเร็จ เพราะมีการแสวงหาจุดร่วมและสงวนจุดต่าง โดยเฉพาะประเด็นร้อน การแก้ไข ม.112 ที่พรรคก้าวไกลหาเสียงไว้ ก็ต้องยอมถอยกรูด ไม่ได้อยู่ในเอ็มโอยูแม้แต่น้อย แต่ให้เป็นเรื่องที่พรรคก้าวไกลจะเสนอในสภาเอง

ด้อมส้มจะผิดหวังก็เข้าใจได้ แต่ก็ต้องเข้าใจเช่นกันว่า พรรคก้าวไกลแม้ได้ 152 เสียง แต่ก็ไม่ได้ชนะเด็ดขาดพอที่จะจัดตั้งรัฐบาลพรรคเดียวได้ จึงต้องประนีประนอมในเรื่องที่ยังเห็นต่างกันมาก แม้ต่อให้ได้ “แลนด์สไลด์” ก็ใช่ว่าจะแก้ ม.112 ได้ตามใจนึก แค่การ “ดีเบต” ทุกเวทีสามารถหยิบยก ม.112 มาถกเป็นประเด็นสาธารณะได้ ก็ถือว่า เป็นการเปิดกว้างแล้ว

การที่พรรคก้าวไกลจะสามารถนำประเด็นนี้ไปพูดในสภา ด้วยวุฒิภาวะ ด้วยเหตุด้วยผล ตามที่ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แถลงไว้ได้มากน้อยแค่ไหน จึงเป็นเรื่องของสภาที่จะร่วมพิจารณาต่อไป ซึ่งคงต้องดูวันเวลาที่เหมาะสม ไม่ให้เกิดความแตกแยกหรือสร้างความเกลียดชังระหว่างกลุ่มที่เห็นต่าง จนกระทบต่อสถาบันหลักของชาติ ประเทศจึงจะสันติได้

กลับมาพูดเรื่อง การยึดอำนาจของ คสช. 22 พ.ค.2557 อย่างที่รู้ ถูกมองว่ามีการสมรู้ร่วมคิดกันระหว่าง ลุงกำนัน สุเทพ เทือกสุบรรณ ผู้นำเป่านกหวีด กับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.ขณะนั้นแน่นอน โดยหลักฐานก็จากที่นายสุเทพให้สัมภาษณ์ นสพ.บางกอกโพสต์ว่า พล.อ.ประยุทธ์ได้โทรฯ มาขอบคุณ กปปส.กับตนเอง และขอให้ปล่อยเป็นหน้าที่ของกองทัพที่จะรับไม้ต่อไป นั่นคือ เกิดการปฏิวัติโดย คสช. 22 พ.ค. 2557 ตามมา นั่นแหละ

คสช.ปัดประยุทธ์ซุ่มคุยลุงกำนัน ชี้อาจเป็นการเข้าใจคลาดเคลื่อน

9 ปีแห่งการแช่แข็งประเทศ ประชาชนรู้สึกอย่างไร ประชาชนบอกให้รู้ด้วยการเดินเข้าคูหา “แสดงประชามติ” ผ่านคูหาเลือกตั้ง ตั้งแต่ 14 ..แล้ว ฝ่ายเสรีประชาธิปไตย ชนะเด็ดขาดกว่า 26 ล้านเสียง ขณะฝ่ายอนุรักษนิยมเผด็จการ ได้เพียง 6 ล้านเสียง นี่คือ “ฉันทานุมัติ” จากคนไทยทั้งประเทศ

แต่ประชาธิปไตยที่ผิดเพี้ยน ลับ ลวงพราง ทำให้การเลือกนายกฯ และจัดตั้งรัฐบาลไม่ปกติไปด้วย เป็นเช่นไร พรรคประชาธิปัตย์รู้ดี เพราะเห็นพรรคประชาธิปัตย์พร่ำบอกต่อคนไทยทั้งชาติว่า ต้องการประชาธิปไตยสุจริต พรรคประชาธิปัตย์ก็ควรโหวตให้ นายพิธา ได้เป็นนายกฯ คนที่ 30 เพื่อรักษาอุดมคติอันดีงามนี้ไว้ แล้วพรรคประชาธิปัตย์จะกลับมาเป็นฝ่ายประชาธิปไตยอีกครั้ง

ขณะ 250 ..ลากตั้ง ส.ว.ที่ “เคารพเสียงประชาชน” ซึ่งทยอยประกาศจุดยืนออกมาเรื่อย ๆ เราขอขอบคุณ ส.ว.คนไหนที่ไม่แยแส สารพัดอ้าง ทั้งเรื่อง ม.112 แม้ไม่มีในเอ็มโอยู ก็จะเอาลายลักษณ์อักษรอีก อ้างรอฟังคดีหุ้นสื่อของนายพิธา อ้าง ส.ส.ต้องมาพูดอ้อน ส.ว.ดี ๆ ก่อน ไปสอดคล้องกับ พล.อ.ประยุทธ์ ที่ตัดพ้อ คนลืม 22 พ.ค. 57 กันหมดแล้ว เลยฉุนเฉียวกับคำถาม จะให้ ส.ว.โหวตอิสระหรือไม่ว่า “จำเอาไว้ ผมไม่มีคำตอบอะไรทั้งสิ้น”

น่าเสียดายที่ทั้ง ส.ว. และ “ลุง” ที่จนถึงวันนี้แล้วยังเป็นแบบนี้

ส่วน 3 องค์กรหลักเอกชน ที่ผู้นำทั้ง สภาหอการค้า สมาคมธนาคารไทย และสภาอุตสาหกรรม เคยเรียงหน้าออกทีวีกดดันบีบคั้นให้อดีตนายกฯ หญิงลาออก แถมรุมช่วยอธิบายเหตุผลที่ทหารต้องยึดอำนาจเป็นฉาก ๆ ผ่านมา 9 ปี ก็น่าจะช่วยออกทีวี กดดัน ส.ว.ลากตั้งที่ตั้งใจลุยไฟจ้องล้มรัฐบาลเลือกตั้ง กันบ้าง ถือเป็นการ “ไถ่บาป” จากอดีตที่เห็นกงจักรเป็นดอกบัว

เพราะเสียงกดดันต่อปรสิตประชาธิปไตย คงจะดังขึ้นเรื่อย ๆ นับจากนี้

————–
ดาวประกายพรึก