ผ่านพ้นมา 1 สัปดาห์ หลัง การเลือกตั้ง 14 .. 66ที่ได้สร้างปรากฏการณ์ประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับวงการการเมืองไทย หากย้อนกลับไปดูช่วงโค้งสุดท้ายก่อนการเลือกตั้ง กับภาพกระแสของ ด้อมส้ม กลุ่มเยาวชนอนาคตของชาติ นักเรียนนักศึกษา คนหนุ่มสาววัยทำงาน แห่แหนไปเกาะติดชมการปราศรัยของ แกนนำพรรคก้าวไกล เริ่มจากใจกลางกรุงเวทีเล็ก ๆ เรียบง่ายไม่ต้องอลังการใหญ่โต แต่ทรงพลังยิ่ง จนจุดประกายจาก สามย่านมิตรทาวน์แตก

ก่อน คลื่นพลังสีส้ม จะกระจายไปยังเวทีจังหวัดสำคัญ ๆ ในหลายพื้นที่ทั้งปริมณฑล เหนือ อีสาน ตะวันออก กลาง และใต้ หนุ่มสาวรวมถึงประชาชนทุกเพศวัย แต่ละพื้นที่ตามไปชมปราศรัยกันล้นหลามจนตีแตกเกือบทุกที่ แถมภาพปราศรัยและคลิปยังทะลุทะลวงว่อนโลกออนไลน์แทบจะทุกแพลตฟอร์ม

จากกระแสจุดติดมาแรงเกินจะต้าน จนกลายเป็น พลังเสียงฉันทามติประชาชน ฝ่าห่ากระสุนดินดำ ในวันเลือกตั้งมีผู้ออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งสูงเป็นประวัติศาสตร์ 75.22% (ใช้สิทธิ 39,293,867 คน จากผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 52,238,594 คน) กกต.รายงานผลไม่เป็นทางการ ก้าวไกล หักปากกาเซียนเข้าวินมาเป็น อันดับ 1 คว้า ส.ส.แบบแบ่งเขต 113 ที่นั่ง และ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ 39 ที่นั่ง (14,233,895 คะแนน) ขณะที่ เพื่อไทย เคยคาดหวังสูงจะแลนสไลด์ เข้าอันดับ 2 ได้ส.ส.แบ่งเขต 112 ที่นั่ง และ ส.ส.บัญชีรายชื่อ 29 ที่นั่ง (10,865,836 คะแนน) ส่วนซีกพรรคร่วมรัฐบาลเก่า ภูมิใจไทย อันดับ 3, พลังประชารัฐ อันดับ 4, รวมไทยสร้างชาติ อันดับ 5, ประชาธิปัตย์ อันดับ 6 และชาติไทยพัฒนา อันดับ 7

เกมกระดานการเมืองไทยกำลังนับถอยหลังเปลี่ยนมือ จากเสียงฉันทามติที่แห่แหนออกไปเทคะแนนให้ ก้าวไกล-เพื่อไทย ซึ่งเป็นซีกพรรคฝ่ายค้านเก่า ถ้านำคะแนนบัญชีรายชื่อ 2 พรรคมารวมกันได้ถึง 25,099,731 คะแนน มากกว่าซีกพรรคร่วมรัฐบาลเก่า 5 พรรคที่บริหารประเทศมากว่า 8 ปี แต่รวมกันยังได้ 7.4 ล้านคะแนน เรียกว่าถูกเทแบบยกกระดาน

พรรคฝ่ายค้านเก่า พลิกเกมชนะการเลือกตั้ง “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” หัวหน้าพรรคก้าวไกล แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี เริ่มนับหนึ่งจัดตั้งรัฐบาล รวม 8 พรรค 313 เสียง ก้าวไกล, เพื่อไทย, ประชาชาติ, ไทยสร้างไทย, เสรีรวมไทย, เพื่อไทรวมพลัง, เป็นธรรม และ พลังสังคมใหม่ ในช่วงระหว่างฝุ่นตลบ พิธา ยังนำว่าที่ ส.ส.ก้าวไกล เดินสายขอบคุณประชาชนในหลายจังหวัด พร้อมจัดประชุมผู้ที่ได้รับเลือกตั้งและไม่ได้รับเลือกตั้งใน จ.ชลบุรี กล่าวตอกย้ำเอาไว้น่าสนใจด้วยว่า

พรรคเราโตขึ้นเรื่อย ๆ แต่เราต้องทำตัวให้เล็กลงเรื่อย ๆ หลังจากนี้ให้ออกไปขอบคุณประชาชนและเริ่มทำงานได้เลยทันที ไม่ต้องรอ กกต.รับรองผล พี่น้องประชาชนได้แสดงเจตจำนงชัดเจนแล้ว ที่สำคัญที่สุดต้องห้ามทำตัวกร่าง ห้ามเจ้ายศเจ้าอย่าง และท่องจำประโยคเหล่านี้ไว้ให้ดี ๆ ใหญ่กว่าเราคือพรรค ใหญ่กว่าพรรคคือความคาดหวังประชาชน“

ก้าวไกลยังถือโอกาสนัด แกนนำ 8 พรรค ร่วมลงนามเอ็มโอยู 23 วาระ 5 แนวทางปฏิบัติร่วมกันเพื่อเดินหน้าจัดตั้งรัฐบาล 313 เสียง เลือกนัดแถลงเย็นวันที่ 22 พ.ค. 66 ตรงกับ ครบรอบ 9 ปี รัฐประหาร 22 .. 57 ที่มี พล..ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีต ผบ.ทบ. เป็นหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) นำกำลังทหารยึดอำนาจจาก รัฐบาล น..ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จากนั้นหัวหน้า คสช. ได้ขึ้นเป็น นายกรัฐมนตรี คนที่ 29 ได้บริหารประเทศมาถึงปัจจุบัน

สายลมแห่งการเปลี่ยนแปลง พัดพาให้ “เกมการเมืองไทย” เปลี่ยนขั้ว!! จากซีกพรรคฝ่ายค้านเก่าหรือฝ่ายเสรีนิยมที่ต่อต้านรัฐประหาร ได้คะแนนเสียงข้างมากจับมือกันตั้งรัฐบาลใหม่ ท่ามกลางความคาดหวังของประชาชนกว่า 25 ล้านเสียง ที่อยากเห็นอะไรใหม่ ๆ มากกว่า 9 ปีที่ผ่านมา แต่ก็ต้องห้ามลืมบทเรียนล้ำค่า จะเดินหมากอย่างไรต้องรอบคอบรัดกุมมากกว่าเก่า อย่าให้หมุนเข้าสู่กงล้อแบบเดิม ๆ จนอีกฝ่ายหยิบไปเป็นเงื่อนไข ลากรถถังออกมายึดอำนาจดังเช่นอดีต!!.

—————————–
เชิงผา