@@@@ ไทย – ออสเตรเลีย ส่งเสริมความร่วมมือด้านสินค้าเกษตรของทั้งสองประเทศ โดยที่ปรึกษาด้านการเกษตรสถานเอกอัครราชทูตออสเตรเลีย ประจำประเทศไทย เป็นผู้แทนกระทรวงเกษตร ประมง และป่าไม้ แห่งออสเตรเลีย ส่งมอบจดหมายใบรับรองสุขอนามัยสัตว์ (Health certificate) เพื่อนำเข้าเป็ดปรุงสุกจากไทยสู่ออสเตรเลีย และกรมวิชาการเกษตร ลงนามในประกาศกรมวิชาการเกษตร เรื่อง เงื่อนไขการนำเข้าผลอะโวคาโดสดจากเครือรัฐออสเตรเลีย ส่งผลให้ไทยจะสามารถส่งออกเป็ดปรุงสุกไปยังออสเตรเลียได้ภายในเดือนมิถุนายน 2566 ……………….. เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2566 นายสัตวแพทย์สมชวน รัตนมังคลานนท์ อธิบดีกรมปศุสัตว์ นายระพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร และนางสาวปรียานุช ทิพยะวัฒน์ รองเลขาธิการสำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ พร้อมด้วย นางสาวแอมเบอร์ พาร์ ที่ปรึกษาด้านการเกษตร สถานเอกอัครราชทูตเครือรัฐออสเตรเลียประจำประเทศไทย ซึ่งเป็นผู้แทนกระทรวงเกษตร ประมง และป่าไม้ แห่งออสเตรเลีย ได้เข้าร่วมพิธีส่งเสริมความร่วมมือด้านสินค้าเกษตรระหว่างไทยและออสเตรเลีย ชนิดสินค้าเป็ดปรุงสุกของไทยและอะโวคาโดของออสเตรเลีย ซึ่งจัดขึ้น ณ กรมปศุสัตว์ พญาไท กทม………………. อธิบดีกรมปศุสัตว์กล่าวว่า เป็นที่น่ายินดีอย่างยิ่งที่กระบวนการด้านเทคนิคเพื่อจัดทำเงื่อนไขการนำเข้าของทั้งสองสินค้าได้เสร็จสิ้นแล้ว เนื่องจาก กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ของไทย ได้เข้าร่วมการประชุมคณะทำงานร่วมด้านการเกษตรออสเตรเลีย – ไทย ครั้งที่ 22 เพื่อยกระดับความสัมพันธ์ไทย – ออสเตรเลีย ไปสู่การเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ ทั้งสองฝ่ายได้ตกลงและเน้นย้ำถึงการปฏิบัติตามข้อตกลงเขตการค้าเสรีไทย – ออสเตรเลีย (TAFTA) โดยไทยและออสเตรเลียจะเสริมสร้างความร่วมมือด้านการเกษตร รวมถึงด้านการค้า การแลกเปลี่ยนนโยบาย และกิจกรรมความร่วมมือทางวิชาการต่างๆ……………….. ในพิธีฯครั้งนี้ ที่ปรึกษาด้านการเกษตร สถานเอกอัครราชทูตออสเตรเลียประจำประเทศไทย ได้เป็นผู้แทนของกระทรวงเกษตร ประมง และป่าไม้แห่งเครือรัฐออสเตรเลีย ส่งมอบจดหมายทางการ จากกระทรวงเกษตร ประมง และป่าไม้ แห่งออสเตรเลียให้แก่อธิบดีกรมปศุสัตว์ของไทย โดยจดหมายนี้เป็นจดหมายที่สรุปข้อตกลงเกี่ยวกับใบรับรองสุขภาพสัตว์ เพื่อการนำเข้าผลิตภัณฑ์เป็ด ปรุงสุกจากประเทศไทยเข้าสู่เครือรัฐออสเตรเลีย ถือเป็นการยอมรับคุณภาพมาตรฐานการผลิตเป็ดปรุงสุกของไทย หลังจากนั้นทางออสเตรเลียจะนำข้อมูลเงื่อนไขการนำเข้าเป็ดปรุงสุกของไทยเข้าสู่ระบบข้อมูล (BICON) จะส่งผลให้เป็ดปรุงสุกไทยสามารถส่งออกได้ภายในเดือนมิถุนายน โดยคาดว่าสามารถส่งออกได้ปริมาณ1,200 ตัน/ปี มูลค่า 400 ล้านบาท ………………… พร้อมกันนี้ อธิบดีกรมวิชาการเกษตรได้ลงนามในประกาศกรมวิชาการเกษตร เรื่อง เงื่อนไขการนำเข้าผลอะโวคาโดสดจากเครือรัฐออสเตรเลีย พ.ศ. 2566 ซึ่งหลังจากที่ประกาศฉบับนี้ได้เผยแพร่ในราชกิจจานุเบกษาและกรมวิชาการเกษตรได้เดินทางไปตรวจสอบระบบการส่งออก อะโวคาโด พันธุ์แฮสจากรัฐเวสเทิร์น ออสเตรเลีย จะสามารถนำเข้าราชอาณาจักรไทยได้ พร้อมนี้ ทั้งสองประเทศจะได้ขยายความร่วมมือ ทั้งด้านวิชาการและการส่งออกสินค้าเกษตรระหว่างกันเพิ่มมากขึ้น ………………… ความสำเร็จของความร่วมมือกันของทั้งสองประเทศในครั้งนี้ แสดงให้เห็นถึงเจตนารมย์ที่จะทำงานร่วมกันเพื่ออำนวยความสะดวกด้านการค้าสินค้าเกษตร โดยประเทศไทยและประเทศออสเตรเลียมีความสัมพันธ์ด้านการเกษตรกันอย่างยาวนานและแน่นแฟ้น ซึ่งทั้งสองประเทศได้ยกระดับความสัมพันธ์สู่หุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์กันตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน พ.ศ.2563 เป็นการเปิดโอกาสที่ทั้งสองฝ่ายจะกระชับความสัมพันธ์ให้ใกล้ชิด รวมทั้งพัฒนาภาคการเกษตรและอาหารให้มั่งคั่งและยั่งยืนยิ่งขึ้นต่อไป
ไทย-ออสเตรเลีย ยกระดับความร่วมมือด้านการค้าสินค้าเกษตรของทั้งสองประเทศ มีข้อตกลงและลงนามในประกาศร่วมกัน พร้อมนี้ ทั้งสองประเทศจะได้ขยายความร่วมมือ ทั้งด้านวิชาการและการส่งออกสินค้าเกษตรระหว่างกันเพิ่มมากขึ้น
@@@ เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2566 สวัสดิภาพสมาคม (Thai Welfare Association) ได้จัดกิจกรรมให้ข้อมูลเกี่ยวกับการขอรับสวัสดิการดูแลผู้สูงอายุ และสิทธิในการขอรับเงินบำนาญ แก่ชาวไทยที่สนใจ โดยมีเจ้าหน้าที่จาก Services Australia และ Centrelink เป็นผู้บรรยาย ในโอกาสนี้ กงสุลใหญ่หัทยา คูสกุล ได้เข้าร่วมกิจกรรมด้วย ชาวไทยที่อาศัยในออสเตรเลีย มีสถานะเป็น PR หรือ citizen อายุเกินกว่า 65 ปีขึ้นไป และมี medicare มีสิทธิในการขอรับสวัสดิการดูแลผู้สูงอายุจากรัฐบาลออสเตรเลีย ซึ่งครอบคลุมทั้งการส่งผู้ช่วยไปดูแลการใช้ชีวิตประจำวัน จนถึงการให้การดูแลผู้สูงอายุที่เจ็บป่วยที่บ้าน โดยสามารถติดต่อ My Aged Care services ได้ที่หมายเลข 1800200422 หรือเว็บไซต์ myagedcare.gov.au เพื่อขอให้ส่งเจ้าหน้าที่มาประเมินว่าต้องการรับการช่วยเหลือ/ดูแลในระดับใด และโดยที่ปัจจุบันระบบบริการมีผู้ประสงค์ขอรับบริการจำนวนมาก จึงแนะนำให้ผู้สนใจติดต่อลงทะเบียนเพื่อขอรับข้อมูลหรือขอรับบริการกับเจ้าหน้าที่ไว้ล่วงหน้า สำหรับชาวไทยที่อาศัยในออสเตรเลีย มีสถานะเป็น PR หรือ citizen เกินกว่า 10 ปี และอายุเกินกว่า 66 ปีครึ่งขึ้นไป มีสิทธิยื่นขอรับเงินบำนาญ (pension) ได้ โดยทางการจะประเมินเงินที่ท่านพึงได้รับจากทรัพย์สินและรายได้ที่มีอยู่ สามารถติอต่อ Financial Information Service ได้ที่หมายเลข 132 300 หรือเว็บไซต์ serviceaustralia.gov.au/agepension เพื่อประโยชน์ในการวางแผนชีวิตหลังเกษียณ ทั้งนี้ หากท่านประสบปัญหาในการสื่อสารภาษาอังกฤษ สามารถขอล่ามเพื่อช่วยสื่อสารกับเจ้าหน้าที่ได้ที่หมายเลข 131 202
สวัสดิภาพสมาคม (Thai Welfare Association) ได้จัดกิจกรรมให้ข้อมูลเกี่ยวกับการขอรับสวัสดิการดูแลผู้สูงอายุและสิทธิในการขอรับเงินบำนาญ แก่ชาวไทยที่สนใจ โดยมีเจ้าหน้าที่จาก Services Australia และ Centrelink เป็นผู้บรรยาย เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2566
@@@@ เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2566 ผู้บริหารและคณะกรรมการของสมาคมคนไทยในรัฐนอร์ทเทิร์นเทอริทอรี่ NT Thai Association NTTA ได้ถวายอาหาร ของหวาน เครื่องดื่ม และเงินบริจาคเพื่อแสดงความขอบคุณแก่วัดไทยทั้งสองแห่งในนครดาร์วิน คือ วัดป่าดาร์วินเมตตาราม และวัดหลวงตามหาบัวญาณสัมปัญโณ เนื่องจากวัดทั้งสองแห่งได้ให้การสนับสนุนงาน Thailand Grand Festival 2023 โดยจัดหาอุปกรณ์เพื่อร่วมในงานมาเป็นเวลายาวนาน วันนี้มาทำความรู้จักกับวัดป่าดาร์วินเมตตารามกัน วัดป่าดาร์วินเมตตาราม จดทะเบียนก่อตั้งอย่างเป็นทางการเมื่อเดือน เมษายน ปี 2556 ซึ่งเป็นวัดอยู่ภายใต้การปกครองของคณะสงฆ์ไทยในออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ นับเป็นวัดไทยแห่งที่สองของนครดาร์วิน เริ่มแรกคุณสาร นิภาพร Howskins มีจิตศรัทธาและเคารพนับถือพระอาจารย์บุญเลิศ ได้นิมนต์ท่านมาประจำที่โรงรถในสมัยนั้นและก็ได้มีญาติโยมช่วยกันปัดกวาดซ่อมแซมโรงรถให้เป็นสถานที่ปฎิบัติกิจวัตรทางพระพุทธศาสนา หรือเป็นโบสถ์สำหรับพุทธศาสนิกชนประกอบพิธีทางศาสนาต่างๆ หลังจากนั้นทางวัดก็ได้ซื้อที่และบ้านจากคุณนิภาพรเพราะคุณนิภาพรและครอบครัวอยากจะย้ายไปอยู่ที่ไทย มีความประสงค์จะให้เป็นของวัดไทยโดยให้ทางวัดผ่อนเรื่อยๆโดยไม่มีกำหนด หากผู้อ่านต้องการไปทำบุญ วัดป่าดาร์วินเมตตาราม ตั้งอยู่ที่ 15 Moreton Place, Karama ส่วนวัดเดิม วัดหลวงตามหาบัวญาณสัมปัญโณ นั้น จะมาเล่าให้ฟังในฉบับต่อไป
ผู้บริหารและคณะกรรมการของสมาคมคนไทยในรัฐนอร์ทเทิร์นเทอริทอรี่ NT Thai Association NTTA ได้ถวายอาหาร ของหวาน เครื่องดื่ม และเงินบริจาคเพื่อแสดงความขอบคุณแก่วัดไทยทั้งสองแห่งในนครดาร์วิน เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2566
@@@@ เมื่อเดือนที่ผ่านมาได้มีโอกาสเข้ากราบนมัสการพระครูบุญเลิศ วิมโล หรือพระอาจารย์บุญเลิศ ที่ลูกศิษย์คนไทยในดาร์วินเรียกนามท่าน พระอาจารย์บุญเลิศ ท่านเป็นพระนักปฎิบัติและนักพัฒนา มีเรื่องเกี่ยวกับท่านที่น่าสนใจอยากมาเล่าให้ฟัง พระครูบุญเลิศ วิมโล เป็นเจ้าอาวาสและประธานสมาคมวัดป่าดาร์วินเมตตาราม นครดาร์วิน มาตั้งแต่ปี 2556 ซึ่งก่อนที่ท่านจะย้ายมาอยู่ดาร์วิน ท่านเป็นพระป่าธุดงค์สายธรรมยุต จากจังหวัดยโสธร เป็นลูกศิษย์ของหลวงปู่หล้า เขมปัตโต วัดภูจ้อก้อ จังหวัดมุกดาหาร จากนั้นท่านก็มาสอบเป็นพระธรรมทูตและในปี 2551ได้เดินทางมาอยู่วัดธัมมธโร แคนเบอร์รา ตั้งแต่ปี 2005 ถึงปี 2010 เป็นระยะประมาณ 5 ปี ช่วงระหว่างนั้นท่านเจ้าคุณราชสีลาภรณ์ (ท่านเจ้าคุณศุภชัย) ส่งตัวพระอาจารย์บุญเลิศมาช่วยศึกษาดูงานกับพระครูสมศักด์ ปัณฑิโต ที่วัดป่าดาร์วิน ได้ 1 เดือน จากนั้นก็ไปช่วยงานที่วัดเมืองแคนส์ ประมาณ 1 เดือน ก็กลับมาที่วัดป่าดาร์วินอีกครั้ง ในปลายปี 2552 พระอาจารย์บุญเลิศได้จำพรรษาอยู่ที่วัดป่าดาร์วิน จนถึงปลายปี 2555 ท่านก็ย้ายออกมาจากวัดป่าดาร์วิน (เดิม) และมาตั้งสมาคมวัดป่าดาร์วินเมตตารามแห่งใหม่ตั้งแต่เดือนเมษายน ปี 2556 จนถึงปัจจุบัน พระอาจารย์บุญเลิศได้จำพรรษาและเป็นเจ้าอาวาสตั้งแต่นั้นมา เป็นระยะเวลากว่า 10 ปี พระอาจารย์ได้ใช้เวลาว่างจากกิจของสงฆ์ มาประดิษฐ์เครื่องมือ เครื่องใช้ในวัด และซ่อมแซมบำรุงวัด ไม่ว่าจะต่อเติมศาลา ที่นั่งอาสนะพระสงฆ์ ตู้เก็บของ ที่เก็บรองเท้าจากไม้ ทำน้ำตกจำลองแบบต่างๆ ท่านเป็นพระที่ขยัน ชอบศึกษาเอง ดูแบบดูตัวอย่างและวิธีทำใน YouTube ทำสิ่งของที่เป็นประโยชน์ บ่อยครั้งที่แจกจ่ายให้กับลูกศิษย์ลูกหา เช่น ทำเก้าอี้นั่ง และรองเท้าจากยางรถยนต์เก่า แกะสลักรูปด้วยดินน้ำมัน กระถางต้นไม้แบบต่างๆ และอื่นๆ อีกมากมาย พระอาจารย์บุญเลิศได้สนับสนุนงานเทศกาลของสมาคมไทยมาโดยตลอด โดยเฉพาะ เครื่องไม้เครื่องมือที่ต้องใช้ในงานต่างๆเพื่อไม่ให้ทางสมาคมฯต้องสั่งของมาจากเมืองไทย ทำป้ายแกะสลักลายไทยต่างๆในงานของสมาคมฯ การสานตะกร้าด้วยไม้ไผ่ การทำเคียวเกี่ยวข้าวด้วยกระดาษเหมือนของจริง เป็นผลงานฝีมือของพระอาจารย์บุญเลิศทั้งสิ้น ท่านทำปุ๋ยหมัก ตัดต่อกิ่งดอกไม้ต้นไม้แจกจ่ายให้คนไปวัดเยอะมากๆ ปั้นกระถางต้นไม้ ลูกศิษย์นำเอาไปเปิดร้าน Lawn sale ขายหาเงินเข้าวัด ได้คุยกับพระอาจารย์แล้วบอกอยากสอนให้พ่อบ้านแม่บ้านสานตะกร้าเอาไว้ใช้เองและนำไปจำหน่ายเพื่อเป็นรายได้เสริมพิเศษให้ครอบครัวอีกทางหนึ่งเพราะมีคนต้องการมาก พระนักพัฒนาจริงๆ
พระครูบุญเลิศ วิมโล พระนักปฎิบัติและนักพัฒนา เจ้าอาวาสวัดป่าดาร์วินเมตตาราม นครดาร์วิน พระที่ไม่เคยอยู่ว่าง นอกจากปฏิบัติภารกิจสงฆ์ สอนปฏิบัติธรรมแล้วยังใช้เวลาว่างซ่อมแชมต่อเติมวัด และทำงานฝีมือหลายประเภท
ผู้บริหารและคณะกรรมการของสมาคมคนไทยในรัฐนอร์ทเทิร์นเทอริทอรี่ NT Thai Association NTTA ได้ร่วมกันจัดพิธีทำบุญตักบาตร ถวายภัตตาหารเพลแด่พระสงฆ์ แสดงความขอบคุณแก่วัดป่าดาร์วินเมตตาที่ให้การสนับสนุนตลอดมา
@@@@ เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2566 นางสาวอาจารี ศรีรัตนบัลล์ เอกอัครราชทูต ณ กรุงแคนเบอร์รา พร้อมด้วยนางหัทยา คูสกุล กงสุลใหญ่ ณ นครซิดนีย์ นางสาววรรณศรี โชติกะพุกกณะ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครซิดนีย์ และนางสาวศิถี ตันบุนเต็ก ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการลงทุน ณ นครซิดนีย์ ได้พบหารือกับผู้บริหารบริษัทในเครือ บมจ. บ้านปูประจำออสเตรเลีย ที่สำนักงานของบริษัทในนครซิดนีย์ ในโอกาสดังกล่าว ผู้บริหารบริษัทในเครือ บมจ. บ้านปูประจำออสเตรเลีย ซึ่งประกอบด้วย Mr. Stijn Koppers CEO บริษัท Banpu Energy Australia, Mr. Craig Gillard CEO บริษัท Centennial Coal นายจุมพล ธีรวิเศษกุล Chief Operating Officer บริษัท Centennial Coal และนายธนรัฐ ชัยสิริ Executive Director ได้บรรยายสรุปเกี่ยวกับกิจการของบริษัท รวมทั้งพูดคุยแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นเกี่ยวกับนโยบายการเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานทดแทนของออสเตรเลีย ตลอดจนโอกาส สิ่งท้าทายและแนวทางการสนับสนุนการลงทุนของไทยในออสเตรเลีย บมจ. บ้านปูได้เริ่มลงทุนในออสเตรเลียเมื่อปี 2553 โดยเข้าซื้อกิจการถ่านหินของบริษัท Centennial Coal และได้ขยายการลงทุนในสาขาธุรกิจพลังงานทดแทน โดยการจัดตั้งบริษัท Banpu Energy Australia เมื่อปี 2563 เพื่อตอบสนองต่อสภาวการณ์ด้านพลังงานในปัจจุบันที่เน้นการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนมากขึ้น
เอกอัครราชทูต ณ กรุงแคนเบอร์รา พร้อมด้วยคณะได้พบหารือ รวมทั้งพูดคุยแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นเกี่ยวกับนโยบายการเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานทดแทนของออสเตรเลีย กับผู้บริหารบริษัทในเครือ บมจ. บ้านปูประจำออสเตรเลีย ที่สำนักงานของบริษัทในนครซิดนีย์
@@@ เมื่อค่ำวันพฤหัสบดีที่ 18 พฤษภาคม 2566 นางสาวอาจารี ศรีรัตนบัลล์ เอกอัครราชทูต ณ กรุงแคนเบอร์รา ร่วมชมการแสดงการเต้นร่วมสมัย ภายใต้ชื่อ “Communicate” และร่วมแสดงความยินดีกับครูผู้สอนและเยาวชนนักเต้นของไทยจาก Bangkok Dance Academy (BDA) ณ The Playhouse, Canberra Theatre Centre การแสดงดังกล่าวจัดโดย QL2 Dance ซึ่งเป็นสถาบันการสอนและพัฒนาการเต้นร่วมสมัยให้แก่เยาวชนนักเต้นออสเตรเลีย โดยในปีนี้เป็นปีครบรอบ 20 ปี ของความร่วมมือโครงการพัฒนาและสร้างสรรค์การเต้นร่วมสมัยที่สถาบัน QL2 Dance ทำร่วมกับ BDA ซึ่งนางสาวนวินดา วรรธนะโกวินท์ ปัจฉิมสวัสดิ์ ครูผู้สอนและนักออกแบบท่าเต้น และเยาวชนนักเต้นของไทย 8 คน ได้ร่วมสร้างสรรค์และนำเสนอผลงานการแสดงบนเวที รวมทั้งร่วมแสดงกับเยาวชนนักเต้นออสเตรเลียระหว่งวันที่ 18-20 พฤษภาคม 2566 ด้วย ในโอกาสดังกล่าว นาย Richard Refshauge ประธานคณะกรรมการบริหาร และผู้บริหารของ QL2 Dance พร้อมผู้สนใจเข้าร่วมชมการแสดงเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ ผู้จัดยังได้รับเกียรติจาก Ms. Tara Cheyne รัฐมนตรีด้าน Arts และ Multicultural Affairs ของ Australian Capital Territory (ACT) เข้าร่วมชมการแสดงและกล่าวแสดงความยินดีกับนักแสดงของทั้งสองสถาบันด้วย การเต้นร่วมสมัยได้รับความสนใจจากเยาวชนเพิ่มมากขึ้น เนื่องการเป็นการแสดงที่อาศัยการคิดร่วมกันของนักแสดงเพื่อสร้างสรรค์ผลงาน โดยมุ่งสื่อสารแนวคิดผ่านการแสดงในรูปแบบใหม่ที่ไม่ยึดติดกับรูปแบบการแสดงดั้งเดิม ซึ่งช่วยส่งเสริมการพัฒนาแนวคิดในการสร้างสรรค์ผลงานของเยาวชนและโอกาสในการแสดงออก ถือเป็นการพัฒนาศักยภาพของเยาวชนในหลายด้าน
เอกอัครราชทูต ณ กรุงแคนเบอร์รา ร่วมชมการแสดงการเต้นร่วมสมัย ภายใต้ชื่อ “Communicate” และร่วมแสดงความยินดีกับครูผู้สอนและเยาวชนนักเต้นของไทยจาก Bangkok Dance Academy (BDA) ณ The Playhouse, Canberra Theatre Centre
@@@@ เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2566 นางสาวนวินดา วรรธนะโกวินท์ ปัจฉิมสวัสดิ์ ครูผู้สอนและนักออกแบบท่าเต้น Creative Movement และ Contemporary Dance จาก Bangkok Dance Academy (BDA) นำคณะเยาวชนนักเต้น 8 คน พร้อมผู้จัดการและทีมงานสถาบันการเต้น QL2 กรุงแคนเบอร์รา 3 คน เข้าเยี่ยมคารวะนางสาวอาจารี ศรีรัตนบัลล์ เอกอัครราชทูต ณ กรุงแคนเบอร์รา ณ สถานเอกอัครราชทูต ในโอกาสที่คณะ BDA เดินทางมาเข้าร่วมกิจกรรมภายใต้โครงการความร่วมมือเพื่อการเรียนรู้และเสริมสร้างประสบการณ์การเต้นร่วมสมัยระหว่างเยาวชนนักเต้นของทั้งสองสถาบัน โดยเฉพาะในปีนี้ซึ่งเป็นปีครบรอบ 20 ปีของความร่วมมือ ……………….. เอกอัครราชทูตฯ ได้รับทราบความเป็นมาของโครงการความร่วมมือระหว่างสถาบันการเต้นทั้งสองแห่ง โดยเฉพาะ BDA ซึ่งได้ส่งเยาวชนนักเต้น 2-4 คนมาเข้าร่วมกิจกรรมและแลกเปลี่ยนประสบการณ์ด้านการเต้นกับ QL2 ที่กรุงแคนเบอร์ราเป็นประจำทุกปีตลอดระยะเวลา 20 ปีที่ผ่านมา ยกเว้นช่วงที่เกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 กิจกรรมดังกล่าวมุ่งเน้นการพัฒนาความสามารถด้านการเต้นของเยาวชนไทย การพัฒนาแนวคิดสร้างสรรค์ที่ถ่ายทอดผ่านการเต้น ภายใต้กิจกรรมดังกล่าว นักเต้นของทั้งสองสถาบันได้มีโอกาสทำงานร่วมกัน รวมทั้งแลกเปลี่ยนประสบการณ์และเรียนรู้วัฒนธรรมซึ่งกันและกัน ผ่านการฝึกซ้อมและเตรียมการแสดง โดยมีนักออกแบบท่าเต้นของทั้งสองสถาบันทำงานร่วมกันเพื่อสร้างสรรค์ผลงาน ทั้งนี้ QL2 มีกำหนดจะจัดการแสดงของเยาวชนนักเต้น ระหว่างวันที่ 18-20 พฤษภาคม 2566 ณ กรุงแคนเบอร์รา และมีแผนจะดำเนินกิจกรรมดังกล่าวต่อไปในอนาคตเพื่อเสริมสร้างทักษะด้านการเต้นและความริเริ่มสร้างสรรรค์ด้านการเต้นให้กับเยาวชนนักเต้นของทั้งสองประเทศต่อไป
นางสาวนวินดา วรรธนะโกวินท์ ปัจฉิมสวัสดิ์ ครูผู้สอนและนักออกแบบท่าเต้นจาก Bangkok Dance Academy (BDA) นำคณะเยาวชนนักเต้น พร้อมผู้จัดการและทีมงานสถาบันการเต้น QL2 กรุงแคนเบอร์รา เข้าเยี่ยมคารวะ เอกอัครราชทูต ณ กรุงแคนเบอร์รา
@@@@ เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2566 นางสาวอาจารี ศรีรัตนบัลล์ เอกอัครราชทูต ณ กรุงแคนเบอร์รา พบหารือกับนาย Brendan Smyth Commissioner for International Engagement, Australian Capital Territory โดยมี Ms. Emma Gowling ผู้อำนวยการฝ่าย Engagement Programs, Office of International Engagement เข้าร่วมด้วย ทั้งสองฝ่ายได้หารือเกี่ยวกับการแสวงหาโอกาสและแนวทางการเสริมสร้างความสัมพันธ์และความร่วมมือระหว่างไทยกับ Australian Capital Territory ในฐานะเขตเมืองหลวงของออสเตรเลียให้แน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้นทั้งในระดับเมืองและระดับประชาชน โดยเฉพาะการเสริมสร้างความเข้มแข็งของชุมชนไทยในกรุงแคนเบอร์รา ตลอดจนการส่งเสริมความร่วมมือในการจัดกิจกรรมเชิงวัฒนธรรมและโอกาสในการแลกเปลี่ยน เรียนรู้และถ่ายทอดองค์ความรู้และแนวปฏิบัติที่ดีเลิศเพื่อนำไปประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อไป โดยฝ่าย ACT ยินดีและพร้อมให้ความร่วมมือเพื่อการดำเนินการให้เกิดผลเป็นรูปธรรม
เอกอัครราชทูต ณ กรุงแคนเบอร์รา พบหารือกับนาย Brendan Smyth Commissioner for International Engagement, Australian Capital Territory โดยมี Ms. Emma Gowling ผู้อำนวยการฝ่าย Engagement Programs, Office of International Engagement เข้าร่วม
ไตรภพ ซิดนีย์
