“ประชาธิปไตยยืนหนึ่ง” เชื่อว่านับแต่พรรคการเมืองประกาศลงสนามแข่งขันก็ชูนโยบายขับเคี่ยวกันเต็มที่ จวบจน “โค้งสุดท้าย” ยังคงมีหลายเวทีเปิดพื้นที่นำเสนอนโยบายด้านต่าง ๆ อาจไม่ใช่นโยบายหลักหาเสียง แต่เป็นนโยบายจำเป็นสำหรับภาคประชาสังคม เช่น “เวทีวิสัยทัศน์พรรคการเมือง เพื่อนโยบายความปลอดภัยทางถนน”
ทั้ง 8 พรรคการเมืองที่เข้าร่วมแลกเปลี่ยน สะท้อนจุดยืนพรรคตัวเองไว้อย่างไรบ้างหากได้เป็นรัฐบาล “ประชาธิปไตยยืนหนึ่ง” ขอถ่ายทอดต่อให้ติดตามกัน
ดร.สุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ จากพรรคก้าวไกล เสนอให้ความสำคัญเรื่องอุบัติเหตุ ด้วยการยกระดับให้ถนนปลอดภัย ติดตั้งระบบเบรก Anti-Lock Brake System (ABS) และระบบขนส่งสาธารณะเพื่อทุกคน ผลักดันระบบขนส่งสาธารณะให้ดีขึ้น เพราะจะช่วยลดปัญหาหลายอย่าง ทั้งฝุ่น PM 2.5 อุบัติเหตุบนถนน และรถติด
นายธงชาติ รัตนชาติ จากพรรคประชาชาติ เสนอว่าต้องลงทุนด้านการขนส่งสาธารณะให้มากขึ้น และต้องปรับปรุงถนนต่างๆ คนใช้รถใช้ถนนต้องระมัดระวัง สิ่งที่ต้องทำเร่งด่วน และต้องกำหนดเป็นนโยบายให้ได้คือ ภายใน 4 ปีที่เป็นรัฐบาล ต้องลดอุบัติเหตุทางถนนลงให้ได้อย่างน้อยปีละ 10%
นายนิกร จำนง จากพรรคชาติไทยพัฒนา เสนอผลการดำเนินงานที่ทำต่อเนื่องมานาน การผลักดัน “ศาลจราจร” สนับสนุนให้มีงบประมาณดำเนินการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง และมีการตั้งคณะกรรมการระดับรัฐสภา ติดตามการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง
นายณัฐวัฒน์ พอใช้ได้ จากพรรคไทยสร้างไทย ระบุมีหลายประเด็นที่อยากนำเสนอ หนึ่งในนั้นคือพื้นผิวถนนที่ยังเป็นหลุม เป็นบ่อ จำนวนมากที่เกิดอุบัติเหตุคือ รถจักรยานยนต์ (รถ จยย.) ดังนั้น จะทำให้ถนนทุกเส้นมีความปลอดภัย และทนทานตามงบประมาณที่ได้รับ อีกเรื่องคือกฎหมาย มองว่าบ้านเราไม่รุนแรง ทำให้ยังมีประชาชนฝ่าฝืนอยู่เป็นประจำ ควรเพิ่มค่าปรับให้มากขึ้น และบังคับใช้ให้เคร่งครัด รวมถึงการนำเทคโนโลยีมาช่วยงานจราจร เช่น กล้องวงจรปิด
พ.ต.อ.ทศพล โชติคุตร์ จากพรรคชาติพัฒนากล้า ระบุสถิติยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุมากที่สุดคือ รถ จยย. จึงจะเน้นเพิ่มการประสานงานกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติใกล้ชิด เพื่อให้การบังคับใช้กฎหมายจริงจัง ต่อเนื่อง และได้รับบทลงโทษสูงสุด
น.ส.นภาพร เพ็ชรจินดา จากพรรคเสรีรวมไทย เสนอทำ Big Data ฐานข้อมูลเพื่อใช้วิเคราะห์ ควบคุม แก้ไขปัญหาอุบัติเหตุทางถนนอย่างเป็นระบบ คุมเข้มการตรวจสภาพรถ และการนำรถที่หมดสภาพออกจากระบบ เพื่อให้ข้อมูลที่มีประโยชน์กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ส่วนหน้าที่รัฐบาลต้องสร้างการตระหนักรู้ ไม่ปล่อยปละละเลยผู้มีภาวะเสี่ยงจะทำให้เกิดอุบัติเหตุ พร้อมจัดสรรงบประมาณแก้ไขถนนทันทีหากได้เป็นรัฐบาล
น.ส.ศณิศา จิรเสวีนุประพันธ์ จากพรรคเพื่อชาติ เสนอนโยบายส่งเสริมระบบขนส่งสาธารณะโดยการเชื่อมโยงการขนส่งสาธารณะให้ทุกคนเข้าถึงได้ง่าย และลดค่าใช้จ่ายในการเดินทาง สนับสนุนเทคโนโลยีให้เกิดการบังคับใช้กฎหมายได้จริง เพิ่ม soft skill และการให้ความรู้แก่เยาวชนและประชาชน ที่สำคัญคือจะบังคับใช้กฎหมายจริงจัง
นายแทนคุณ จิตต์อิสระ จากพรรคประชาธิปัตย์ เสนอนโยบายการออกแบบผังเมืองที่สอดคล้องกับการเดินทางของประชาชน และสร้างสิ่งจูงใจให้ระบบขนส่งสาธารณะ มุ่งเน้นการใช้ระบบตัดคะแนน และมีการกำกับติดตาม การเพิ่มงบประมาณ การออกมาตรการเข้มบังคับ กับผู้ดื่มแล้วขับ นอกจากนี้ ยังมีเรื่องของไรเดอร์ส่งอาหารต่างๆ ที่มีการใช้ฟุตปาธในการขับขี่ ส่วนนี้ก็ต้องมีมาตรการลงโทษเช่นกัน.