การเลือกตั้งปีนี้ กกต.ได้กำหนดเขตเลือกตั้งใหม่หลังจำนวนประชากรผู้มีสิทธิเลือกตั้งของ จ.ขอนแก่น มีมากกว่า 1.4 ล้านคน มีการแบ่งเขตเลือกตั้งใหม่เพิ่มเป็น 11 เขต จึงมี ส.ส. ได้ 11 คน เจาะสนามเลือกตั้งเริ่มที่เขตเลือกตั้งที่ 1 ครั้งนี้ ประกอบด้วย เขตเทศบาลนครขอนแก่น, ต.พระลับ และ ต.เมืองเก่า อ.เมืองขอนแก่น เดิมเก้าอี้ ส.ส.แห่งนี้เป็นของพรรคอนาคตใหม่ ก่อนที่ตัว ส.ส.จะย้ายพรรคไปซบพรรคภูมิใจไทย เมื่อวัดขุมกำลังแล้วเขต 1 ขอนแก่น เดิมเป็นเก้าอี้ของพรรคเพื่อไทยมาตลอด แต่การเลือกตั้งที่ผ่านมากระแสพรรคอนาคตใหม่มาแรง จึงทำให้ครั้งนี้เป็นการบ้านหนักของ “พรรคเพื่อไทย” นายชัชวาล พรอมรธรรม อดีตรองนายกเทศมนตรีนครขอนแก่น เป็นผู้สมัครพรรคเพื่อไทย ที่ลงเลือกตั้ง ส.ส.เป็นครั้งแรกในชีวิต โดยมีคู่ต่อกรคือ นายฐิตินันท์ แสงนาค (แนนนี่) (อนาคตใหม่) ที่ย้ายเข้า “พรรคภูมิใจไทย” ซึ่งพื้นที่นี้ เดิมเป็นของอดีต ส.ส.เพื่อไทย (เสี่ยเต๋า) จักรรินทร์ พัฒนดำรงกิจ ที่แพ้ไปคราวที่แล้ว ขณะที่ นายบุญฤทธิ์ พาณิชย์รุ่งเรือง อดีตรองนายกเทศมนตรีนครขอนแก่น ลงพรรครวมไทยสร้างชาติ และมีตัว
สอดแทรกคือ นายวีรนันท์ ฮวดศรี พรรคก้าวไกล ซึ่งหากวิเคราะห์การเลือกตั้งในเขตนี้เชื่อว่า “เพื่อไทย” จะกลับมายึดเก้าอี้ได้อีกครั้ง
เขตเลือกตั้งที่ 2 เป็นสนาม “ช้างชนช้าง” เจ้าของพื้นที่เดิม คือ “เสี่ยต้อม” นายวัฒนา ช่างเหลา อดีต ส.ส.พรรคภูมิใจไทย ที่ย้ายมาจาก “พลังประชารัฐ” ลูกชายของ นายเอกราช ช่างเหลา ลงสมัครโดยมีคู่ต่อกรที่สำคัญคือ น.ส.รัมภามาศ ทีฆธนานนท์ พรรคเพื่อไทย (ย้ายมาจากพรรคไทยสร้างไทย) คนนี้ลูก เสี่ยอุ้ย นายเมศ ทีฆธนานนท์ นายกเทศมนตรีตำบลเมืองเก่า เจ้าของตลาดสีเมืองทอง เป็นการลงสนามการเมืองครั้งแรกในชีวิต ขณะที่ตัวสอดแทรกที่จะตัดคะแนนได้มากคือ นายอิทธิพล ชลธราศิริ จากพรรคก้าวไกล และ นายพัฒนา นุศรีอัน จากพรรคพลังประชารัฐ เมื่อประเมินพื้นที่ เขตนี้พรรคภูมิใจไทยเป็นต่อ เพราะต้องยอมรับว่าการวางฐานการเมืองของ “ตระกูลช่างเหลา” ยังคงเป็นต่อผู้สมัครจากค่ายต่าง ๆ อยู่พอสมควร
เขตเลือกตั้งที่ 3 ครั้งนี้มีผู้สมัครทั้งหมด 15 คน ถึงจะหืดขึ้นคอแต่คงเป็นเก้าอี้ของเจ้าของพื้นที่เดิมคือ นายจตุพร เจริญเชื้อ ผู้สมัครจากพรรคเพื่อไทย เป็นเต็ง 1 ที่จะชนะเลือกตั้งครั้งนี้อีกสมัยด้วยกระแสแลนด์สไลด์ ตรวจสอบคู่ต่อกร ที่พอสูสีรอบนี้ยกให้ นายชัชวาล โนนใหม่ อดีตนายกเทศมนตรีเมืองกระนวน ที่ลาออกมาเพื่อลงเลือกตั้งครั้งนี้ ในนามพรรคภูมิใจไทย ที่เพียบพร้อมด้วยกระแสและปัจจัยต่าง ๆ ที่ได้รับพลังจากฐานมวลชน อ.ส.ม. ขณะที่อีกคนคือ นายชัชวาล อภิรักษ์มั่นคง จากพรรคก้าวไกล มือขวาสายตรงจากหัวหน้าพรรคก้าวไกล ส่งลงสนามที่บ้านเกิด ส่วนตัวสอดแทรกสำคัญคือ นายพงศกรณ์ เสาทน จากพรรคชาติไทยพัฒนา เรียกได้ว่าการเลือกตั้งครั้งนี้เขตนี้หืดขึ้นคอเลยทีเดียว
เขตเลือกตั้งที่ 4 รอบนี้มีผู้สมัครมากที่สุดคือจำนวน 20 คน เป็นสนามเลือกตั้งเมืองหมอแคน ที่เซียนการเมืองยกให้เป็น “สนามช้างชนช้าง” ของจริง เนื่องจาก นายเอกราช ช่างเหลา แกนนำคนสำคัญพรรคภูมิใจไทยภาคอีสานตอนบน และพื้นที่จังหวัดขอนแก่น หรือ “พ่อมดการเมือง” ตัดสินใจลงสมัคร ส.ส.เขตด้วยตนเอง เขตนี้จึงเป็นการชิงดำกับ “แม่มุกดา” นางมุกดา พงษ์สมบัติ จากพรรคเพื่อไทย อดีต ส.ส.เจ้าของพื้นที่หลายสมัย มือเก๋าคนหนึ่งที่มาพร้อมกระแสแลนด์สไลด์ ส่วนตัวสอดแทรกจะเป็น นายวุฒิรักษ์ แพงดาแก้ว พรรคก้าวไกล, นายธนากร สงวนความดี พรรคไทยสร้างไทย และ นายณรงค์เลิศ สุรพล จากพรรคพลังประชารัฐ
เขตเลือกตั้งที่ 5 มีผู้สมัครทั้งสิ้น 16 คน เขตนี้คงต้องยกให้ “เสี่ยซัน” นายภาควัต ศรีสุรพล อดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย เจ้าของพื้นที่ยังคงครองใจมวลชน ที่จะกลับมารักษาเก้าอี้ตัวนี้ได้อีกอย่างแน่นอน แต่ก็มีคู่ชิงจากพรรครวมไทยสร้างชาติยกให้ “ดร.เปี๊ยก” นายวุฒิพงศ์ ศุภรมย์ และ นายศักดิ์เกษม ศรีพลเรือน พรรคภูมิใจไทย กับ นายวิรัตน์ ปัดโต พรรคประชาธิปัตย์ และแม้จะเป็นเขตเลือกตั้งติดกับจังหวัดข้างเคียงแต่การทำงานอย่างหนัก “เสี่ยซัน” ยังครองใจคนภูเวียง, เวียงเก่า เพราะตระกูลศรีสุรพล ส.ส.สุชาย ศรีสุรพล พ่อของ “เสี่ยซัน” ส่งต่อมาถึงรุ่นลูก
เขตเลือกตั้งที่ 6 มีผู้สมัครจำนวน 15 คน เจ้าของพื้นที่เดิมคือ นายสิงหภณ ดีนาง อดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย อาชีพทนายความ เป็นอดีตเลขานุการ ส.ส.สมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานรัฐสภา การสมัครรับการเลือกตั้งครั้งนี้ยังคงลงสมัครเพื่อขอรักษาเก้าอี้ไว้ เมื่อดูคู่ต่อสู้แล้ว เขตนี้ “เพื่อไทย” ต้องทำการบ้านอย่างหนัก เพราะ “พรรคภูมิใจไทย” ส่ง นายวิศรุต ปู่เพ็ง อดีต ส.อบจ. พื้นที่มีฐานการเมืองท้องถิ่น ขณะที่ พรรครวมไทยสร้างชาติ สายตรง “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ส่ง น.ส.เพชรมณีย์ สันติเมทนีดล ลงสนาม ขณะที่ นายสานิตย์ พระโบราญ จากพรรคก้าวไกล และ นายสำราญ ศรีภา พรรคพลังประชารัฐ จะเป็นตัวสอดแทรก หรือ
ตัดคะแนนก็ได้
เขตเลือกตั้งที่ 7 มีผู้สมัคร 15 คน เจ้าของพื้นที่เดิมคือ “พรรคเพื่อไทย” แต่ก็มีการเลือกตั้งซ่อมเพราะ อดีต ส.ส.นวัธ เตาะเจริญสุข (เพื่อไทย) ถูกศาลสั่งจำคุก และเมื่อเลือกตั้งซ่อมพรรคพลังประชารัฐ ส่ง นายสมศักดิ์ คุณเงิน ลงสนาม ผลปรากฏว่าได้รับชัยชนะ แต่การเลือกตั้งครั้งนี้ พรรคเพื่อไทยส่งน้องชายของนายนวัธ คือ นายสุรพจน์ เตาะเจริญสุข อดีต ส.อบจ.เขต อ.หนองเรือ ลงแทน แน่นอนว่าต้องชิงกับนักการเมืองรุ่นใหญ่มือเก๋า “สมศักดิ์ คุณเงิน” พรรคพลังประชารัฐ ที่อาจจะต้องสู้ถึงฎีกา เนื่องจากมีเสื้อแดงกลับใจ คือ นายนาวิน คำเวียง ลงสมัครพรรคภูมิใจไทย ทำให้เขตนี้สู้กันสนุกแน่นอน
เขตเลือกตั้งที่ 8 มีผู้สมัคร 13 คน เป็นเขตเลือกตั้งใหม่เขตนี้พรรครวมไทยสร้างชาติของ “ลุงตู่” มีลุ้นเพราะได้ นายธนิก มาสีพิทักษ์ เป็นนักธุรกิจหนุ่มอดีตแกนนำ นปช.ภาคอีสาน ลงสมัครในเขตนี้ เพราะมีฐานคะแนนในเขต อ.มัญจาคีรี และ อ.พระยืน แต่อย่ามองข้ามคู่ต่อสู้ที่สำคัญ นายเจริญ แซ่เต็ง อดีตนักการเมืองท้องถิ่นชื่อดังลงสมัคร อดีตนายกเทศมนตรีตำบลบ้านโต้น มือขวา เอกราช ช่างเหลา “พรรคภูมิใจไทย” และ น.ส.วิภาณี ภูคำวงศ์ เป็นลูกสาวรองนายก อบจ.ขอนแก่น นายอิทธิกุล ภูคำวงศ์ เป็นผู้สมัครหน้าใหม่ พรรคเพื่อไทย
เขตเลือกตั้งที่ 9 เป็นเขตเลือกตั้ง ของ “ตระกูลอรรณนพพร” พรรคเพื่อไทย ครอบครองเก้าอี้มายาวนาน และการเลือกตั้งครั้งนี้ ตระกูลอรรณนพพร ส่ง “ข้าวฟ่าง” น.ส.สรัสนันท์ อรรณนพพร อดีต ส.ส. ปี 62 ลงสมัครพรรคเพื่อไทยอีกครั้ง เป็นการรักษาเก้าอี้ ส.ส.เขตนี้อย่างต่อเนื่องต่อไป ขณะที่คู่ต่อสู้คงต้องทำการบ้านอย่างหนัก เพื่อแย่งคะแนนจากเพื่อไทย เช่น นายพิพัฒน์พงศ์ พรหมนอก พรรคพลังประชารัฐ, นายสุรศักดิ์ ไทรน้อย พรรคภูมิใจไทย หรือแม้กระทั่ง น.ส.นัฎศนันท์ ธีรวรรณ พรรคก้าวไกล
เขตเลือกตั้งที่ 10 มีผู้สมัคร 14 คน พื้นที่เดิมเป็นเก้าอี้ของพรรคเพื่อไทย ที่ยังส่ง นายวันนิวัฒน์ สมบูรณ์ ลงสนามอีกครั้ง ซึ่งคู่แข่งหลักคือ นายบัลลังก์ อรรณนพพร (เดิมเป็น ส.ส.เขต 10 เพื่อไทย เป็นเครือญาติของตระกูลอรรณนพพร) ครั้งนี้ลงพรรคพลังประชารัฐ เพราะอกหักจากพรรคเพื่อไทย กับ นายนิวัตร สระพรม พรรคก้าวไกล และ นายจักรินทร์ ญาณสิทธิเวทย์ พรรคร่วมแผ่นดิน คงจะทำให้คู่แข่งยากที่จะตามทัน
สุดท้ายคือเขตเลือกตั้งที่ 11 มีผู้สมัคร 10 คน แต่เป็นสนามเลือกตั้งที่ทุกพรรคการเมืองประกาศคว้าเก้าอี้ให้ได้ โดยเฉพาะพรรคภูมิใจไทย ส่งศิษย์ก้นกุฏิ “เสี่ยแม็ค” นายองอาจ ฉัตรชัยพลรัตน์ ลงสนามเลือกตั้งอีกสมัย เพื่อล้างตากับ “เพื่อไทย” รอบนี้ชนกับ นายพชรกร อรรณนพพร (หลานนายพงศกร อรรณนพพร) พรรคเพื่อไทย ผู้สมัครหน้าใหม่ ที่มีฐานคะแนนคนเสื้อแดงแน่นเต็มพื้นที่ กับอีกคนสำคัญ คือ นายสมรักษ์ คำสิงห์ พรรคพลังประชารัฐ ที่อาจจะเป็นตัวสอดแทรกในโค้งสุดท้าย ที่กำลังให้น้ำหนักไปที่การจัดตั้งเป็นตัวชี้ขาด ระหว่างฐานเพื่อไทยคือการจั้ดตั้งมวลชนกับภูมิใจไทยคือการจัดตั้งฐานคะแนนที่หาก “เสี่ยแม็ค” ชนะก็คงต้องผ่านแบบหามลงเวที แต่หาก “เพื่อไทย” ชนะก็จะชนะแบบขาดลอยไร้ข้อสงสัย.
ศูนย์ข่าวภาคอีสานตอนบน