เลือกตั้ง 66 นี้ มีผู้สมัคร ส.ส.แบบเขตเลือกตั้งจำนวน 15 คนจาก 15 พรรคการเมือง ประกอบด้วย พรรคก้าวไกล สมเกียรติ มีธรรม, พรรคภูมิใจไทย ศรีนวล บุญลือ, เพื่อไทย สุรพล เกียรติไชยากร, พรรคไทยสร้างไทย ณัชชา โปธายี่, พรรครวมไทยสร้างชาติ นวพรนุพงศ์, พรรคพลังประชารัฐ นเรศ ธำรงค์ทิพยคณุ, พรรคประชาธิปัตย์ คูณธนา เบี้ยวบรรจง, พรรคเสรีรวมไทย พัณณาศีส น้อยนางจม, พรรคพลัง วันชัย เศรษฐีเหอ, พรรครวมแผ่นดิน ภูวสิษฐ์ แก้วมา, พรรคแนวทางใหม่ สุรจิต พรรณเชษฐ์, พรรคไทยภักดี กร กาญจน์กนกพร, พรรคเพื่อชาติไทย ธนพัฒน์ ปฏิกา, พรรคประชากรไทย วิรินท์ลดา พุทธขันธ์ และ พรรคไทยศรีวิไลย์ ส่ง นพดล คำปัน ลงสนามเขตนี้หลังได้เบอร์หมายเลขจาก กกต.แล้ว ทุกคนรีบลงสนามหาเสียงกับชาวบ้านเพื่อนำเสนอนโยบายขอคะแนนจากชาวบ้านทันที ทำให้บรรยากาศในการหาเสียงในพื้นที่ช่วงนี้คึกคักขึ้นมาทันที
เขตนี้ แต่เดิมพื้นที่ส่วนใหญ่อยู่ในเขตเลือกตั้งที่ 8 ในการเลือกตั้ง ส.ส.แบบแบ่งเขตเมื่อเลือกตั้งปี 2562 ที่ผ่านมา ครั้งนั้นเชียงใหม่ มีเขตเลือกตั้งทั้งหมด 9 เขต แต่การเลือกตั้ง 2566 นี้ เชียงใหม่ มี ส.ส.เพิ่มได้อีก 1 คน จาก มี ส.ส.ได้ 9 คน เพิ่มเป็น 10 คน จึงมีการแบ่งเขตเลือกตั้งใหม่ แต่พื้นที่ส่วนใหญ่จากเขต 8 เดิม ถูกขยับขึ้นมาเป็นเขตเลือกตั้งที่ 9 แทนนั่นเอง ย้อนดูสถิติการเลือกตั้งเมื่อปี 62 กันหน่อย ครั้งนั้น สุรพล เกียรติไชยากร จากพรรคเพื่อไทย ได้คะแนน 52,165 คะแนน นเรศ ธำรงค์ทิพยคุณ จากพรรคพลังประชารัฐ มาเป็นที่สองได้ 39,221 คะแนน ศรีนวล บุญลือ จากพรรคอนาคตใหม่ หรือก้าวไกลในปัจจุบัน ได้ 29,556 คะแนน มาเป็นที่สาม ต่อมามีการร้องเรียน กกต.มีมติให้ใบส้ม แก่ สุรพล เกียรติไชยากร ผู้สมัครจากพรรคเพื่อไทยที่ชนะการเลือกตั้งมีการต่อสู้กันในชั้นศาล ต่อมาภายหลังจากศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้งพิพากษายกคำร้องในคดีดังกล่าว สุรพล ได้ยื่นฟ้องต่อศาลจังหวัดฮอด ในคดีแพ่งหมายเลขดำที่ พ.164/2562 จนศาลจังหวัดฮอด ได้มีคำพิพากษาให้สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง จำเลยที่ 1 ชำระเงินจำนวน 64,144,683.77 บาท พร้อมดอกเบี้ย และเมื่อ กกต.อุทธรณ์คดี ศาลอุทธรณ์จึงมีคำพิพากษา เมื่อวันที่ 20 ธ.ค. 2565 แก้เป็นว่าให้จำเลยที่ 1 ชำระเงิน 56,792,568 บาท พร้อมดอกเบี้ยตามระยะเวลาและจำนวนที่ศาลชั้นต้นกำหนด เท่ากับว่า สุรพลชนะคดีที่ถูกกล่าวหา ศาลท่านคืนความบริสุทธิ์ยุติธรรมให้จึงลงสมัคร ส.ส.แบบแบ่งเขตครั้งนี้ เพื่อขอพิสูจน์ศรัทธาชาวบ้านอีกครั้ง
ฉะนั้นการเลือกตั้ง 2566 ที่จะเกิดขึ้นนี้ เขตเลือกตั้งที่ 9 จ.เชียงใหม่ จึงเป็นเขตที่น่าสนใจ และมีการแข่งขันสูง เพราะเมื่อพลิกดูผลการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.เขตนี้หลังจาก กกต.ให้ใบส้ม กับสุรพล แล้วมีการจัดการเลือกตั้งใหม่ โดยตัดสิทธิผู้สมัครจากพรรคเพื่อไทยคือ “เฮียเส่ง” สุรพล ออกไปให้ผู้สมัครที่เหลือในเขตนี้ให้ชาวบ้านได้เลือก ส.ส.อีกครั้ง ในครั้งนั้นกระแส เทพ-มาร หรือพรรคการเมืองฝ่ายเผด็จการ และฝ่ายประชาธิปไตย กำลังแรง เมื่อผู้สมัครจากพรรคเพื่อไทยคือ “เฮียเส่ง” ถูกตัดสิทธิ จึงมีการเทคะแนนนิยมของผู้สมัครไปให้พรรคอนาคตใหม่ และ ผู้สมัครพรรคอนาคตใหม่สมัยนั้นก็คือ ศรีนวล บุญลือ จนผลการเลือกตั้งออกมา ศรีนวล ชนะเลือกตั้งในเขตนี้แบบถล่มทลาย 75,891 คะแนน ทิ้งห่างผู้สมัครจากพรรคพลังประชารัฐ ที่ได้เพียง 27,861 คะแนนเท่านั้น ทั้งที่การเลือกตั้งก่อนหน้านี้ผู้สมัครจากพรรคพลังประชารัฐ คะแนนมาเป็นที่สอง ส่วน ศรีนวล ได้ที่สาม ผลการเลือกตั้งซ่อมออกมาฝ่ายที่เรียกตัวเองว่าฝ่ายประชาธิปไตยพากันดีอกดีใจยกใหญ่ว่าสามารถสยบฝ่ายเผด็จการได้สำเร็จ ด้วยการส่ง ศรีนวล จากพรรคอนาคตใหม่ เข้าสู่สภาได้สำเร็จ แต่!!…ต่อมา ศรีนวล ได้ย้ายไปซบตัก “เสี่ยหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล พรรคภูมิใจไทย พรรคร่วมรัฐบาลของลุงตู่ จนกลายเป็นตำนานงูเห่าอันโด่งดัง สร้างความผิดหวังให้กับพรรคฝ่ายที่เรียกตัวเองว่าฝ่ายประชาธิปไตยเป็นอย่างมาก นอกจากนั้นกระแสดังกล่าวยังส่งผลถึงกลุ่มกองเชียร์และฐานเสียงในพื้นที่ของพรรคเพื่อไทย และอนาคตใหม่ จนกลายเป็นกระแสดราม่าไปเลยทีเดียว
สนามนี้จึงเป็นที่จับตาของหลายฝ่าย รวมทั้งบรรดากองเชียร์และกองแช่งทั้งหลายว่า ผลการเลือกตั้งครั้งที่จะมีขึ้นนี้ ผลจะออกมาอย่างไร??…ผู้สมัครพรรคเพื่อไทย “เฮียเส่ง” สุรพล เกียรติไชยากร อดีต ส.ส.ตลอดกาลของเขตนี้ จะกลับมาทวงบัลลังก์แชมป์คืนได้หรือเปล่าผู้สมัครของพรรคก้าวไกล และพลังประชารัฐ รวมทั้งพรรคการเมืองอื่น ๆ จะได้คะแนนเท่าไร มากพอถึงกับชนะเลือกตั้งเขตนี้หรือไม่ ส่วนคุณพี่ศรีนวล ซึ่งก็มั่นใจในผลงานในฐานะ ส.ส.ที่ทำงานเพื่อชาวบ้านสมัยที่แล้ว ก็มั่นใจในผลงานว่าจะได้กลับมานั่งเก้าอี้ ส.ส.เขตนี้อีกครั้ง หลังหย่อนบัตรวันที่ 14 พ.ค.นี้ รู้ผลว่าชาวบ้านเขตนี้เลือกใครเป็นผู้แทนของพวกเขา.
สนั่น เข็มราช