โดยเฉพาะในเขตเลือกตั้งที่ 1 ที่ครอบคลุมพื้นที่ อ.เมือง เกือบทั้งหมด ยกเว้น ต.วัดประดู่ และ ต.ขุนทะเล เขต 1 ถือว่าเป็นไข่แดงของ จ.สุราษฎร์ธานี เพราะทั้งพื้นที่เป็นชุมชนเมือง แหล่งเศรษฐกิจและการค้า
ในการเลือกตั้งครั้งนี้ มีผู้สมัครจำนวน 13 คน ประกอบด้วย เบอร์ 1 นายวราวุธ วุฒิ พรรคก้าวไกล เบอร์ 2 น.ส.ลีลาวัลย์ นุ้ยบุตร พรรคเพื่อไทย เบอร์ 3 นายสุรสิทธิ์ ปล่องบรรจง พรรคไทยภักดี เบอร์ 4 นายอนุวัตร์ รจิตานนท์ พรรคชาติพัฒนากล้า เบอร์ 5 นายพิสัณฑ์ ทองโมถ่าย พรรคเสรีรวมไทย เบอร์ 6 นายวิเชียร จันทร์บัว พรรคไทยสร้างไทย เบอร์ 7 นายศักดา สมบูรณ์ลักขณา พรรคภูมิใจไทย เบอร์ 8 น.ส.กานสินี โอภาสรังสรรค์ พรรครวมไทยสร้างชาติ เบอร์ 9 นายณัฐวรันธร ทองคำ พรรคพลังประชารัฐ เบอร์ 10 นายภานุ ศรีบุศยกาญจน์ พรรคประชาธิปัตย์ เบอร์ 11 น.ส.หทัยทิพย์ รังสิประภัศร พรรคเพื่อชาติ เบอร์ 12 นายขจรภพ วุฒิจันทร์ พรรคคลองไทย และ เบอร์ 13 นายพงษ์ศักดิ์ กุลเมือง พรรคความหวังใหม่
นายภานุ ศรีบุศยกาญจน์ หรือ ส.ส.แอ้ม คือ เจ้าของพื้นที่เดิมจากการได้รับเลือกตั้งเป็นครั้งแรกเมื่อปี 2562 ปัจจุบันอายุ 58 ปี เริ่มทำงานการเมืองท้องถิ่นตั้งแต่อายุ 25 ปี ในตำแหน่งสมาชิกสภาจังหวัดสุราษฎร์ธานี ตามบิดา คือ นายเกียรติ ศรีบุศยกาญจน์ นักธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในอำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี พื้นเพเดิมเป็นคน ต.ตลาด ส.ส.แอ้ม เป็น ส.จ.ถึง 3 สมัย เคยดำรงตำแหน่งรองนายก อบจ. 2 สมัย เคยลงสมัครรับเลือกตั้งนายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองสุราษฎร์ธานี แต่ไม่ได้รับเลือก ก่อนหันไปเล่นการเมืองสนามใหญ่ ลงสมัคร ส.ส.ครั้งแรกในนามพรรคไทยรักไทย เมื่อปี 2549 ซึ่งได้รับเลือกตั้งเป็นตัวแทนเขต 1 แต่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้การเลือกตั้งครั้งนั้นเป็นโมฆะ ทำให้ภานุอดเป็น ส.ส.สมัยแรก และกลับมาลงสมัครเลือกตั้งนายกเทศมนตรี เทศบาลนครสุราษฎร์ธานีอีกครั้ง แต่ก็ยังไม่ได้รับเลือก จึงหันมาทำการเมืองในตำแหน่งรองนายกเทศมนตรี ในคณะของ นายธีรกิจ หวังฅมุฑิตากุล ก่อนลงสมัครและได้รับเลือกตั้ง ส.ส.เขต 1 พรรคประชาธิปัตย์ ในปี 2562 ด้วยคะแนน 32,092 คะแนน คิดเป็นสัดส่วนถึงร้อยละ 34 ของผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้ง แต่คะแนนเสียงส่วนใหญ่ในการเลือกตั้งปี 62 ภานุ มีคะแนนนำลิ่วในเขตเลือกตั้ง ต.วัดประดู่ ในเขตนี้ จึงถือว่าเป็นฐานคะแนนสำคัญของ ส.ส.แอ้ม
ขณะที่คู่แข่งขันคนสำคัญ คือ นายศักดา สมบูรณ์ลักขณา อดีต รองนายกเทศมนตรีเทศบาลนครสุราษฎร์ธานี ในชุดของ นายประเสริฐ บุญประสพ ที่เพิ่งได้รับการเลือกตั้งเข้ามาเพียงปีเศษ ๆ ศักดา หรือ รองแก๊ป ถือเป็นผู้มีบทบาททางการเมืองท้องถิ่น เพราะตระกูล สมบูรณ์ลักขณา โดยเฉพาะบิดา คือ นายอภิชาติ หรือที่ชาวบ้านเรียกกันติดปากว่า โกเอี่ยม คือ 1 ในกลุ่มพ่อค้าชาวไทยเชื้อสายจีน ที่เป็นที่รักเคารพของกลุ่มคนดั้งเดิมในตลาดบ้านดอน เนื่องจากเป็นคนที่ชอบช่วยเหลืองานการกุศล จึงไม่แปลกใจที่บรรดาลูกหลานของโกเอี่ยม จะทำงานการเมืองเกือบทุกคน คือ ศักดา-สุดารัตน์-ประมุทและ สมบัติ โดย ศักดา บุตรชายคนโต อดีตเคยเป็นสมาชิกสภาเทศบาล เมื่อปี 42 และเป็นรองนายกเทศบาลนครสุราษฎร์ธานี 2 สมัย น้องสาวคนรอง สุดารัตน์ เป็นอดีต ส.ท. เทศบาลเมืองสุราษฎร์ธานี 2 สมัย ปัจจุบันเป็น ส.อบจ.เขต 3 อ.เมือง สมัยที่ 2 และยังเคยทำหน้าที่เป็นเลขานุการ นายธานี เทือกสุบรรณ สมัยครั้งดำรงตำแหน่งนายก อบจ.สุราษฎร์ธานี รวมถึงเป็นผู้เชี่ยวชาญประจำตัว ส.ส.ของ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ขณะเป็น ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ ประมุท เป็น ส.อบจ.เขต 1 อ.เมือง ถึง 5 สมัยติดต่อกัน และปัจจุบันยังดำรงตำแหน่งรองประธานสภา อบจ.สุราษฎร์ธานี ส่วนน้องชายคนสุดท้อง สมบัติ ก็เป็นสมาชิกสภาเทศบาลนครสุราษฎร์ธานี 3 สมัย เสมือนจะเปรียบได้ว่า “โกเอี่ยม” กับ “ตระกูล สมบูรณ์ลักขณา” คือบ้านใหญ่การเมืองท้องถิ่น ของเมืองสุราษฎร์ธานี เพราะที่ผ่านมาการเลือกตั้งในทุกระดับ ถนนทุกสายของนักการเมืองจะต้องมุ่งหน้าไปบ้านโกเอี่ยมเพื่อขอคะแนน
เมื่อหันมาดูจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้งจากเดิมที่ในการเลือกตั้งปี 62 เขต 1 จะครอบคลุมพื้นที่ อ.เมืองทั้งหมด เป็นเขตเทศบาล 3 แห่ง คือ เทศบาลนครสุราษฎร์ธานี เทศบาลตำบลขุนทะเล และเทศบาลตำบลวัดประดู่ และนอกเขตเทศบาลอีก 5 ตำบล คือ ต.บางชนะ, คลองน้อย, บางไทร, บางโพธิ์ และคลองฉนาก มีผู้มีสิทธิเลือกตั้งประมาณ 134,000 คนเศษ มากที่สุดในเขตเทศบาลนครสุราษฎร์ธานี 96,930 คน รองลงมาคือ เขตเทศบาลตำบลวัดประดู่ 13,270 คน และเทศบาลตำบลขุนทะเล 10,341 คนตามลำดับ ส่วนนอกเขตเทศบาลรวมกันทั้งสิ้น 14,241 คน แต่ในการเลือกตั้งครั้งนี้ของปี 66 ต.วัดประดู่ และ ต.ขุนทะเล ถูกตัดออกไปให้อยู่ในเขต 7 และพื้นที่ที่เหลือเป็นขุมคะแนนคือ เขตเทศบาลนครสุราษฎร์ธานี ที่มีเพิ่มขึ้นรวมแล้วกว่า 100,000 คะแนน
คอการเมืองเชื่อว่า เมื่อตำบลวัดประดู่ถูกตัดออกไปจากเขต 1 ความได้เปรียบเกิดขึ้นกับรองแก๊ปทันที เพราะฐานะคะแนนเสียงส่วนใหญ่ในเขตเทศบาลนครสุราษฎร์ธานี หรือตลาดบ้านดอน อยู่ในมือของกลุ่มพ่อค้าชาวไทยเชื้อสายจีนที่มักจะเป็นผู้กำหนดตัวแทนของพวกเขาด้วยพลังของความสามัคคี
การแข่งขันกันในเขต 1 ดุเดือดยิ่งขึ้นเมื่อ ชุมพล กาญจนะ กุนซือคนสำคัญของพรรครวมไทยสร้างชาติ ตัดสินใจส่ง กานสินี โอภาสรังสรรค์ สะใภ้ใหญ่ของบ้านกาญจนะ ลงแข่งขันด้วย นั้นหมายถึงคะแนนในเขตนี้จะถูกแบ่งออกเป็น 3 ฝ่ายอย่างเห็นได้ชัด เพราะปัจจุบัน ประเสริฐ บุญประสพ น้องชายของนางโสภา ภรรยาของนายชุมพล คือ นายกเทศมนตรีนครสุราษฎร์ธานี ที่มี ศักดา สมบูรณ์ลักขณา เป็นรองนายกเทศมนตรีแล้วลาออกมาลงชิงศึกเลือกตั้งครั้งนี้ ในค่ายภูมิใจไทย นาทีนี้การเลือกตั้งในเขต 1 จ.สุราษฎร์ธานี จึงเป็นที่น่าจับตามองเป็นอย่างยิ่งว่า ภานุ ศรีบุศยกาญจน์ เจ้าของแชมป์เดิม จะยังคงรักษาตำแหน่งไว้ได้ หรือต้องเพลี่ยงพล้ำเสียเก้าอี้ให้ระหว่าง รวมไทยสร้างชาติ ลูกสะใภ้ นายชุมพล หรือ ค่ายภูมิใจไทย ของเสี่ยหนู ที่มั่นใจเปิดปราศรัยเป็นเวทีแรกหลังได้รับหมายเลขพรรค งานนี้ต้องรอดูกันว่า เสี่ยหนูจะควงรองแก๊ป ปักธงในเขตนี้ได้หรือไม่ 14 พ.ค.นี้ คงรู้กัน!!!!.
อรุณี วิทิพย์รอด