ผ่านพ้นมหกรรมสาดน้ำ มหาสงกรานต์ 2566 เทศกาลขึ้นปีใหม่ไทย ปีนี้ถือว่าบรรยากาศคึกคัก ก่อนหน้าเจอ เจ้าโควิด-19 เล่นงานจนไม่มีใครออกไปไหน รอบนี้ช่วยสร้างความชุ่มฉ่ำใจทั่วประเทศ และช่วยผ่อนคลายดับร้อนได้บ้าง

ที่สร้างความฮือฮา ทั้งภาพข่าวของ บิ๊กตู่-พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ใส่เสื้อลายดอก ถือปืนฉีดน้ำ ลงพื้นที่ถนนข้าวสาร แบบไม่มีหมายแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ร่วมเล่นสาดน้ำกับวัยรุ่นหนุ่มสาวนักท่องเที่ยวด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส จนเปียกปอนไปทั้งตัว ถึงขั้นมีเจ้าหน้าที่บางคนยังสงสัย แอบกระซิบถามสื่อใช่ตัวจริงรึเปล่า?

เรียกว่าสีสันการเมือง มีอะไรให้เห็นหลากหลายรูปแบบหรืออย่าง นายเศรษฐา ทวีสิน ที่ถูกเสนอชื่อเป็น 1 ใน 3 แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย ก็ไปโผล่ชายหาดหัวหิน เสื้อยืด กางเกงขาสั้น เล่นบอลชายหาดกับนักท่องเที่ยวแบบเนียน ๆ แถมโชว์ลีลาเลี้ยงลากกระชากเลื้อย แล้วซัลโวประตู ด้วยท่วงท่าทะมัดทะแมงไม่แพ้นักบอล

ทุกพรรคการเมืองต่างลุยออกหาเสียงกันอย่างเข้มข้นขึ้นเรื่อย ๆ มีทั้งไปขึ้นเวทีแสดงวิสัยทัศน์นโยบายของพรรคหรือขึ้นดีเบตตามคำรับเชิญของผู้จัด นอกจากนี้ก่อนจะถึง วันเลือกตั้ง 14 พ.ค. 66 เริ่มมีสำรวจข้อมูลความคิดเห็นประชาชน หรือโพลหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นของ ซูเปอร์โพล, นิด้าโพล และ ดุสิตโพล ฯลฯ

ขณะที่ทาง เดลินิวส์ ก็ร่วมกับ เครือมติชน จัดทำ โพลเลือกตั้ง 66 “เดลินิวส์ X มติชน” ขึ้นมาด้วยเช่นกัน โพลรอบที่ 1 (8-14 เม.ย.) โหวตผ่านทางออนไลน์ทุกแพลตฟอร์มของสื่อเดลินิวส์และเครือมติชน มี 2 คำถามให้ตอบ “ท่านจะเลือกใครเป็นนายกรัฐมนตรี” และ “ท่านจะสนับสนุนพรรคการเมืองใด” ระบบการโหวตออนไลน์ กระจายไปทั่วทุกภูมิภาค ระดับอาชีพ การศึกษา และรายได้ทั่วประเทศ แบบไม่ซ้ำไอพีแอดเดรส (IP Address)

ผลโพล “เดลินิวส์ X มติชน” ในรอบแรกนั้น รวมกลุ่มตัวอย่าง 84,076 ราย พบว่า เสียงโหวตอยากให้เป็นนายกฯ มาเป็นอันดับ 1 คือ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ จากพรรคก้าวไกล (ร้อยละ 29.42), อันดับ 2 น.ส.แพทองธาร ชินวัตร เพื่อไทย (ร้อยละ 23.23), อันดับ 3 นายเศรษฐา ทวีสิน เพื่อไทย (ร้อยละ 16.69), อันดับ 4 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา รวมไทยสร้างชาติ (ร้อยละ 13.72) และ อันดับ 5 ยังไม่ตัดสินใจ (ว่าจะเลือกใคร) ขณะที่เสียงโหวตสนับสนุนพรรคใด อันดับ 1 คือ พรรคเพื่อไทย (ร้อยละ 38.89), อันดับ 2 ก้าวไกล (ร้อยละ 32.37), อันดับ 3 รวมไทยสร้างชาติ (ร้อยละ 12.84), อันดับ 4 ภูมิใจไทย (ร้อยละ 3.30) และ อันดับ 5 ยังไม่ตัดสินใจเลือกพรรคใด

หากไล่เรียงดูผลโพลจาก คำถามที่ 1 จะเห็นว่า อันดับ 2 และ 3 คือ อุ๊งอิ๊ง-แพทองธาร ตามด้วย นายเศรษฐา ซึ่งทั้ง 2 คน ถูกเสนอชื่อให้เป็นแคนดิเดตนายกฯ ของ พรรคเพื่อไทย เมื่อนำผลมารวมกันจะ ได้ถึงร้อยละ 39.92 สูงกว่านายพิธา (ร้อยละ 29.42) ซึ่งผลจะไปใกล้เคียงกับทั้งของซูเปอร์โพล, นิด้าโพล ที่โหวตให้ อุ๊งอิ๊ง และ พรรคเพื่อไทย มาเป็นอันดับ 1

ถือว่าโพลสำรวจความคิดเห็นประชาชนที่ออกมาในช่วงแรก ๆ ของหลากหลายสำนัก นอกจากจะช่วยเป็นเสียงสะท้อนให้บรรดาพรรคการเมืองและผู้สมัครรับเลือกตั้ง ได้รับรู้ว่าเสียงของพรรคตัวเองเป็นเช่นไรบ้างแล้ว ยังกระตุ้นให้ประชาชนตื่นตัว เริ่มอยากออกมาเลือกพรรคการเมืองที่ตัวเองเชียร์อยากให้มาบริหารประเทศชาติ ยิ่งหากผลโพลออกมาไม่ค่อยตรงใจเท่าไร ก็คงอยากจะรีบออกไปเลือกตั้งช่วยพรรคที่ชื่นชอบ เพื่อจะได้นายกฯ ในดวงใจของตัวเอง

ยังเหลือเวลาหาเสียงกันอีกพอสมควร อย่าเพิ่งไปดีใจหรือท้อใจกับผลโพลที่ออกมา แต่ละพรรคการเมืองมีเวลาปรับกลยุทธ์กันได้อีก สำหรับแนวหาเสียงแบบสาดโคลนใส่กันน่าจะเลิกได้แล้ว ยุคนี้ต้องงัด “นโยบายที่ทำได้จริง” และ “จุดยืนของพรรค” ออกมาเรียกความเชื่อมั่น แล้วให้เสียงฉันทามติของประชาชนตัดสินใจชี้ขาด เข้าไปกากบาทในคูหาเลือกตั้ง!!

————————-
เชิงผา