เดิมมี 5 เขตเลือกตั้ง โดยเจ้าของตำแหน่งเดิมเป็น ส.ส.พรรคเพื่อไทยทั้ง 5 เขต  ในส่วนของการเลือกตั้ง ส.ส.ที่จะมีขึ้นในวันที่ 14 พ.ค. 66 กกต.ได้แบ่งเขตเลือกตั้งออกเป็น 6 เขตเลือกตั้ง 

ทั้งนี้ เพื่อเตรียมความพร้อมในการเลือกตั้ง ที่ผ่านมา กกต.กาฬสินธุ์ ร่วมกับหลายภาคส่วน จัดโครงการส่งเสริมและพัฒนาประชาธิปไตยตำบล (ศส.ปชต.) ครอบคลุมทั้ง 18 อำเภอ ขณะที่ในส่วนของการรับสมัคร ส.ส.ระบบแบ่งเขต ระหว่างวันที่ 3-7 เม.ย. 66 เบื้องต้นมีผู้สมัครทั้งหมด 68 คน จาก 15 พรรคการเมือง เช่น พรรคเพื่อไทย พรรคพลังประชารัฐ พรรคภูมิใจไทย พรรคไทยสร้างไทย พรรครวมไทยสร้างชาติ พรรคก้าวไกล ฯลฯ ซึ่งบรรยากาศการหาเสียง เริ่มเป็นไปด้วยความคึกคัก 

ไปดูกันที่เขต 1 อ.เมืองกาฬสินธุ์ “หมู” วิรัช พิมพะนิตย์ จากพรรคเพื่อไทย เคยเป็นทั้งสมาชิกสภา อบจ.กาฬสินธุ์ และอดีต ส.ว.กาฬสินธุ์ พื้นฐานเป็นคนที่มีฐานะคนหนึ่งใน จ.กาฬสินธุ์ ล้มลุกคลุกคลานบนถนนการเมืองมากว่า 20 ปี ลงพื้นที่สม่ำเสมอ ไม่เคยห่างพี่น้องประชาชน มีเครือข่ายเหนียวแน่นทั้งสาย ส.อบจ., อปท.,อสม. และ “ชมรมคนรักหมู” จึงจะเป็นพลังบวกที่จะทำให้เกิดปรากฏการณ์แลนด์สไลด์ และได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งครั้งนี้แบบแบเบอร์ ขณะที่ผู้สมัครจากพรรคอื่นๆ ที่พอจะคุ้นหน้าคุ้นตาบ้าง มีเพียง ชัย คูสกุลรัตน์ จากพรรคภูมิใจไทย คงจะเป็นได้แค่คู่ประกบ ส่วนผู้สมัครจากพรรคพลังประชารัฐ พรรคก้าวไกล และอื่นๆ ที่เป็นผู้สมัครหน้าใหม่ ก็คงจะเป็นได้แค่คู่เทียม

ส่วนเขต 2 อ.ยางตลาด และ อ.ฆ้องชัย ยังให้ราคา “เจ๊นาง” วันเพ็ญ เศรษฐรักษา จากไทยสร้างไทย ชนกับ “ส.จ.บอล” พลากร พิมพะนิตย์ จากเพื่อไทย ที่จับพลัดจับผลูจากอดีต ส.จ.เขต อ.เมืองกาฬสินธุ์ ข้ามห้วยมาสมัคร ส.ส.เขตนี้ชนิดหักปากกาเซียน โดยพรรคเพื่อไทยคัดตัวมาเพื่อปะทะกับเจ๊นาง ที่คร่ำหวอดอยู่ในแวดวงการเมืองตลอดเวลา 10 กว่าปี ถึงแม้เจ๊นางจะเคยผิดหวัง แต่ก็ยังทุ่มเทแรงกายแรงใจไม่เคยย่อท้อ ซึ่งในการเลือกตั้งคราวนี้ ในส่วนเจ๊นางคงจะไม่ใช่หาเสียงเท่านั้น ยังจะเป็นการหาคะแนนให้กับตัวเองและพรรคสังกัดใหม่ด้วย เพื่อวัดศรัทธากับ ส.จ.บอล ที่เป็นคนรุ่นใหม่ ที่จะประมาทไม่ได้เลย เพราะ ส.จ.บอล นั้นใจถึงไม่ต่างกับเจ๊นางเอง ซึ่ง ส.จ.บอล จะต้องอาศัยความสดเข้าบดเจ๊นางให้อยู่หมัด เขตนี้คงจะเป็นศึกช้างชนช้าง อย่างที่ผู้ชมไม่กะพริบตา ส่วนผู้สมัครจากพรรคอื่นๆ คงจะเป็นแค่คู่ประกบในการหั่นคะแนนจากชาวบ้านเท่านั้น

เขต 3 อ.ห้วยเม็ก อ.หนองกุงศรี และ อ.ท่าคันโท เที่ยวนี้ จำลอง ภูนวนทา จากพลังประชารัฐ ยังคงมาแรง สตาร์ตออกตัวน่ากลัว เพราะได้กำลังหลัก และฐานเสียงหลักในพื้นที่ อ.หนองกุงศรี มีบรรดาพ่อยก แม่ยก ให้การสนับสนุนอย่างอุ่นหนาฝาคั่ง ที่สำคัญแว่วว่า “ลุงป้อม” พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ ดันเต็มที่ เพราะโอกาสครั้งนี้ แม้จะไม่เจอคู่ปรับเก่าเต็มตัว คือ คมเดช ไชยศิวามงคล อดีต ส.ส.เพื่อไทย เจ้าของพื้นที่ เพราะเปิดทางให้ “คุณนายแหม่ม” ยรรยงรัตน์ ไชยศิวามงคล คนใกล้ตัวลงสมัครแทน โดยมีฐานเสียงในกลุ่มกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ที่สำคัญการทำคะแนนของคุณนายแหม่ม คมเดชเป็นคนเดินแต้มทั้งหมด เท่ากับจำลองแข่งกับตัวจริง ส่วนผลคะแนนจะยังไง ขึ้นอยู่กับศรัทธา กำลังกระสุนและคะแนนนิยม ปะทะกับกระแสแลนด์สไลด์

สำหรับเขต 4 อ.สมเด็จ อ.สหัสขันธ์ อ.คำม่วง อ.สามชัย พรรคเพื่อไทยส่ง “ครูต๋อย” พีระเพชร ศิริกุล ส.ส.หลายสมัยลงรักษาเก้าอี้ มาครั้งนี้คงต้องเจองานหิน เพราะผู้ท้าชิงเป็นสาวกล้า รุ่นใหม่ “มนุษย์คอนเนกชั่นชั้นเซียน” ของพรรคภูมิใจไทย ที่ส่ง “เม” ประภา เฮงไพบูลย์ คนบ้านใหญ่ ฐานแน่นปึ๊กดึงผู้นำชุมชน มวลชนรุ่นเก่ารุ่นใหม่มาเป็นแฟนคลับ “คนรักเม” ร่วม 1 ปี จนเกิดความหวั่นไหว ด้านกระแสเปลี่ยนตัวผู้แทน ทำให้ “ครูต๋อย” ต้องกลับมารีเซตระบบ เช็กฐานกำลังพล ก็ยังคงให้แฟนพันธุ์แท้คนเสื้อแดง ที่พร้อมจะยืนเคียงข้างดังเดิมหรือไม่ แน่นอนว่าสนามนี้ จะเป็นจุดวัดความศรัทธาในตัวบุคคล ว่าชาวบ้านจะเลือก “เม ภูมิใจไทย” หรือ “ครูต๋อย เพื่อไทย”

เขต 5 อ.กมลาไสย อ.ร่องคำ อ.ห้วยผึ้ง อ.ดอนจาน อ.นามน ขึ้นป้ายติดชาร์ต 3 พรรคใหญ่ ยืน 1 ฐานเสียงแข็ง ยกให้ “เสี่ยโด่ง” ชานุวัฒน์ วรามิตร จากพลังประชารัฐ แห่ง อ.กมลาไสย ค่ายโรงสีใหญ่ ที่ ลุงป้อม พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ หมายมั่นที่จะคว้าอีก 1 เก้าอี้ในพื้นที่กาฬสินธุ์ จึงทำให้สายตระกูลวรามิตร เดินหน้าทำการบ้านอย่างหนัก เนื่องจากได้แรงบวก ซึ่งคนพื้นที่เห็นใจในบารมีเก่าของแม่ชะม้อย วรามิตร (อดีตนายก อบจ.กาฬสินธุ์) มารดา ที่เคยช่วยเหลือประชาชนจนส่วนที่กำลังไล่บี้และขับเคี่ยวมาแบบขอมดำดินงูดินกินลึก จุดประกายออร่า “แอสป้า” ประภาส ยงคะวิสัย แห่งชาติไทยพัฒนา นักปราศรัยมือไอปาร์ค เบียดมาติดๆ และคู่คี่กับ “ตั้ม” ทินพล ศรีธเรศ จากเพื่อไทย 

แต่ที่จะประมาทไม่ได้โดยประการทั้งปวงคือ “แอสป้า ชาติไทยพัฒนา” บุรุษหนุ่มนักไฮปาร์ค ฝีปากดี ที่คนในแวดวงรู้ว่าเป็นนักปลุกระดม ซึ่งหัวหน้าพรรคอย่าง “ท็อป” วราวุธ ศิลปอาชา หวัง 1 เก้าอี้ ถึงขนาดลงทุนเปิดตัวจัดเวทีปราศรัยอย่างยิ่งใหญ่ ให้สะเทือนเลือนลั่นใน อ.กมลาไสย เขตนี้จึงเป็นพื้นที่ที่คาดว่าจะมีการแข่งขันกันสูง และจับตาดูว่าใครจะเป็นคู่ชิงดำในโค้งสุดท้าย 

ในส่วนเขต 6 อ.กุฉินารายณ์ อ.เขาวง และ อ.นาคู เหมือนจะปิดประตูคู่ต่อสู้ตั้งแต่ระฆังยกที่ 1 ยังไม่ดังขึ้น เพราะ “กำนันหิต” ประเสริฐ บุญเรือง ส.ส.เพื่อไทยหลายสมัย ยังแข็งแรง ครบเครื่อง เป็นผู้นำทางจิตวิญญาณของคนผู้ไทยทุกเครือข่าย รอบนี้ถึงแม้จะมีผู้สมัครจากพรรคอื่นๆ ประกบ ก็คงจะปลุกกระแสไม่ขึ้น เซียนการเมืองฟังธง ส.ส.เขตนี้ ก็คงจะเป็นประเสริฐ บุญเรือง ที่หากกวาดคะแนนได้สูง ก็คงจะมีข่าวดีรับบำเหน็จรางวัลขั้นรัฐมนตรี

โอกาสที่พื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ จะเกิดปรากฏการณ์เพื่อไทยแลนด์สไลด์หรือไม่ หรือ ส.ส.แต่ละเขตจะยังคงเป็น “เพื่อไทย” หรือถูกดับฝันด้วยผู้สมัครจากพรรคอื่น ส่วนหนึ่งคงขึ้นอยู่กับกลยุทธ์การหาเสียง การโน้มน้าวในด้วยนโยบาย การสร้างกระแสของแต่ละพรรค และของผู้สมัครแต่ละคน ซึ่งเชื่อว่าศึกเลือกตั้งครั้งนี้ คงจะมีการงัดวิชามาร มีการปลุกของไสยศาสตร์ เวทมนตร์มาสู้กันอย่างเข้มข้น ส่วนมนตราของใครจะเข้มขลังเหนือกว่า ไม่ถูกบรรดาทหารที่ออกรบหักหลัง หรือขุนพลจะคุมเกมด้วยลูกเล่นเล่ห์เหลี่ยมแพรวพราวแค่ไหน อย่างไรก็ตาม คงขึ้นอยู่กับประชาชนผู้ถืออำนาจอธิปไตยจะเป็นผู้ตัดสิน วันที่ 14 พ.ค. 66 รู้ผลกัน

ยุทธนา เกียรติดำเนินงาม