หากพูดถึงบอยแบนด์ญี่ปุ่นที่ความโดดเด่นในปีนี้ หนึ่งในนั้นต้องมีชื่อของ “BALLISTIK BOYZ from EXILE TRIBE (บาลิสติกบอยซ์ ฟรอม เอ็กไซล์ ไทรบ์)” ที่ประกอบไปด้วย 7 หนุ่มสมาชิกมากความสามารถ อย่าง ริวตะ ฮิดากะ , คะโน โยชิยูกิ , ริวเซ ไคนุมะ , ริกิ มัตสึอิ , มิคุ ฟุคุาโฮริ , ริกิยะ โอคุดะ หรือ “ริคกี้” และ มาซาฮิโระ สุนาดะ หรือ “มาสะ” โดยเมื่อช่วงที่ผ่านมาหนุ่ม ๆ ได้เดินทางมาทำกิจกรรมมากมายในเมืองไทย พร้อมกอบโกยหัวใจแฟนคลับกันไปเต็ม ๆ

โดยเฉพาะผลงาน “Drop Dead” เพลงแนวดนตรี Trap/EDM ที่ผสมผสานกับการร้องแบบ Pop และ Rap เข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว โดยความพิเศษคือการได้ 3 หนุ่ม ปอร์เช่-ศิวกร อดุลสุทธิกุล, แจ๊คกี้-จักริน กังวานเกียรติชัย และ เติร์ด-ลภัส งามเชวง แห่งวง “TRINITY” ศิลปินตัวตึง T-POP จากค่าย 4NOLOGUE มาร่วมงาน พร้อมดึงโปรดิวเซอร์มือทองสาย EDM เอ้-สัณหภาส บุนนาค หรือ เอ้ BOTCASH มารับหน้าที่ดูแลเนื้อร้องและทำนอง จนครองใจแฟน ๆ ล่าสุด “ฮาอึน” ได้มีโอกาสพูดคุยกับ “BALLISTIK BOYZ” แบบสุดเอ็กซ์คลูซีฟ ทั้งประสบการณ์ที่ได้มาทำงานในเมืองไทย มุมมองต่อดนตรีบนเวทีโลก ส่งต่อพลังใจไปถึงทุกคนที่กำลังไล่ตามความฝัน นอกจากนี้ยังไม่พลาดเปิดเรื่องมุมมองความรักและความประทับใจที่มีต่อแฟนคลับชาวไทยแบบจัดเต็ม!

Q : ชื่อวง “BALLISTIK BOYZ” มีที่มาและความหมายว่าอะไร?

มาสะ : สำหรับชื่อ ‘BALLISTIK BOYZ’ หมายถึงการไล่ตามความฝัน โดยพุ่งไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วครับ

Q : อัพเดทผลงานเพลง “Drop Dead” ช่วยแนะเพลงนี้หน่อยว่าเป็นแนวไหน และพูดถึงอะไร?

ริวตะ : จริง ๆ เพลง ‘Drop Dead’ เป็นผลงานที่ถ่ายทอดถึงการไล่ตามความฝัน เพราะฉะนั้นเพลงนี้ก็เหมือนการที่พวกเราไล่ตามความฝัน มุ่งไปในระดับเอเชียและระดับโลกด้วย ซึ่งทั้งท่าเต้นและเนื้อเพลงต่าง ๆ ก็จะแสดงให้เห็นถึงการไล่ตามความฝันกันครับ

Q : แรงบันดาลใจเพลงนี้ มาจากอะไร?

ริกิ : มันเหมือนการที่พวกเราได้วาดภาพในเรื่องการไปให้ถึงความฝันนี้ให้ได้เอาไว้ครับ เลยกลายมาเป็นแรงบันดาลใจของเพลงนี้

Q : เห็นได้ร่วมงานกับศิลปินฝั่งไทย อย่าง วง “ทรินิตี้ (TRINITY)” และโปรดิวเซอร์ดัง “เอ้ บอทแคช (BOTCASH)” เล่าถึงที่มาของการร่วมงานกันครั้งนี้ให้ฟังหน่อย?

ริคกี้ : จริง ๆ พวกเรารู้จักกับคุณเอ้ บอทแคช และทรินิตี้มาตั้งแต่ก่อนที่จะได้ร่วมงานกันแล้วครับ เราดูผลงานกันมาก่อน พอได้มาทำงานร่วมกันกับทั้ง 2 ศิลปิน ก็รู้สึกว่าทุกคนเป็นคนที่มีความสามารถมาก ๆ และการที่ได้ร่วมงานกัน ก็คือว่าเป็นเรื่องที่ดีมาก ๆ ครับ

Q : ด้วยความที่ต่างวัฒนธรรม ต่างภาษา พอได้มาร่วมกันแล้ว ต้องปรับตัวกันเยอะมั้ย?

โยชิยูกิ : ใน BALLISTIK BOYZ มีสมาชิก 3 คน คือคุณมาสะ คุณริกกี้ และคุณมิคุ ที่พูดภษาอังกฤษได้ พอดีกับทางคุณเอ้ บอทแคชและทรินิตี้ก็พูดภาษาอังกฤษได้เหมือนกัน เพราะฉะนั้นเลยไม่มีปัญหาในสื่อสารเท่าไหร่

Q :TRINITY” และ โปรดิวเซอร์ดัง “เอ้ BOTCASH” ได้สอนภาษาไทย อะไรบ้างมั้ย?

ทุกคนบอกว่ามี แต่เป็นคำที่พูดไม่ได้ ริวเซย์ บอกอีกว่า “ให้ไปจินตนาการเอาเองครับ (ยิ้ม)”

Q : แล้วเรื่องวัฒนธรรมล่ะ เช่น การไหว้ หรืออาหารไทย “TRINITY ” และ โปรดิวเซอร์ดัง “เอ้ BOTCASH” ได้แนะนำอะไรรึเปล่า?

โยชิยูกิ : วันก่อนที่ได้ไปเดินสายโปรโมตด้วยกัน คุณเติร์ด (ลภัส งามเชวง) และคุณแจ็กกี้ (ศิวกร อดุลสุทธิกุล) ก็ได้แนะนำขนมไทย แต่ว่ามันมีชื่อว่าโตเกียว ก็แปลกแต่ว่าก็อร่อยครับ (ยิ้ม)”

Q : ความยากและท้าทายในการทำงานครั้งนี้ คืออะไร?

มิคุ : เรื่องนึงเลยก็คือเรื่องสภาพแวดล้อม กับการทำเพลงที่แตกต่างจากปกติ เพราะว่ามาอยู่ต่างประเทศกัน อีกเรื่องคือตัวเพลงที่ใช้ภาษาอังกฤษค่อนข้างเยอะ มันเลยทำให้สมาชิกต้องมาช่วยแก้กันเองด้วย และรับคำแนะนำจากคนที่เชี่ยวชาญด้วยครับ

Q : คิดว่าความเหมือนและต่างของทำงานเพลงไทยและญี่ปุ่น คืออะไร?

มิคุ : มีความแตกต่างกันนะครับ อย่างตอนอยู่ที่ญี่ปุ่น ก็จะมีนักเขียนเพลงหลาย ๆ คนที่คอยเข้ามาให้นำแนะนำไปด้วยและทำไปด้วย แต่ว่าครั้งนี้ก็มีแค่พวกเรากับคุณเอ้ บอทแคชเลย เป็นการทำกับโปรดิวเซอร์โดยตรง ก็ค่อนข้างต่างกันครับ”

Q : แปลว่าการทำงานครั้งนี้ พวกคุณมีส่วนร่วมกับอัลบั้มเยอะมาก ๆ เลย?

ทุกคนตอบพร้อมกันเป็นภาษาไทยว่า “ใช่ครับ”

Q : มีอะไรประทับใจหรือได้เรียนรู้อะไร จากการมาทำงานกับ “TRINITY” และ “เอ้ BOTCASH” รวมถึงทีมงานไทยครั้งนี้บ้าง?

ริวเซย์ : ผมรู้สึกว่าด้วยความที่พวกเรากับทรินิตี้อายุใกล้ ๆ กันด้วย เวลาว่างจากการทำงานเราก็จะมาคุยกัน และก็รู้สึกว่าพวกเราทั้งหมดมีความฝันที่เหมือนกัน ซึ่งตรงนี้คุณเอ้ บอทแคช ก็มาทำให้ความฝันของเราเป็นรูปร่างขึ้นมา ในการทำงานด้วยกันนั้น พวกเราไม่รู้สึกว่าเป็นการมาทำงานกันเลย แต่รู้สึกว่าเป็นเหมือนเพื่อนที่มาทำงานด้วยกันมากกว่าครับ

Q : อย่างที่บอกว่าในเพลงนี้ พูดถึงก้าวข้ามทุกอุปสรรคเพื่อเติบโตไปอีกขั้น อยากรู้ว่าในชีวิตพวกคุณ มีการเติบโตอะไรที่รู้สึกว่าได้ผ่านอุปสรรคมามากมาย จนทำได้สำเร็จบ้างมั้ย?

มาสะ : จริง ๆ สมาชิกแต่ละคนก็ได้ข้ามกำแพง และอุปสรรคต่าง ๆ มา จึงมาอยู่ ณ ตรงนี้ได้ แต่หากเป็นเรื่องส่วนตัวของผมเองนั้น ผมคิดว่าแค่การที่ผมเต้นได้อย่างเดียว มันก็อาจข้ามกำแพงตรงนั้นไปไม่ได้ ตัวผมเองเลยได้มีโอกาสไปที่นิวยอร์คและเริ่มร้องเพลง เพิ่มทักษะขึ้นจากตรงนั้นด้วย ไม่ใช่แค่การเต้นเพียงอย่างเดียวเพราะคิดว่าตรงนั้นอาจไม่เพียงพอ ก็คิดว่าสิ่งนี้น่าจะเป็นอีกกำแพงที่ผมพุ่งเข้าชนครับ

Q : การไปทำงานที่นิวยอร์ค ได้นำประสบการณ์อะไรจากตรงนั้นมาใช้ในการทำงานเพลงกับวง “BALLISTIK BOYZ” บ้าง?

มาสะ : ผมนำเรื่องของภาษาที่ได้เรียนรู้จากที่นิวยอร์คมาใช้ในการทำเป็นเอ็มวี รวมทั้งการพูดที่เมืองไทยด้วย จริง ๆ พวกเราไปกัน 3 คนนะครับ คือมีผม มิคุ และก็ริคกี้ครับ ซึ่งเราก็ได้ไปลองทำสตรีทไลฟ์ที่นิวยอร์คด้วย เหมือนเป็นการไปหาประสบการณ์กัน และเราก็ได้ประสบการณ์จากตรงนั้นมา

Q : อยากให้คนที่เข้ามาฟังผลงานครั้งนี้ ได้รับ Message อะไร กลับออกไปมากที่สุด?

ริวตะ : สำหรับเนื้อหาของเพลงมันพูดถึงการพุ่งชนความฝัน ดังนั้นผมคิดว่าทุกคนทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตามที่มีความฝันของตัวเอง ผมคิดว่าเนื้อเพลงรวมไปถึงเอ็มวีเพลงนี้ก็น่าจะสะท้อนจิตใจ และปลุกใจให้ทุกคนทำตามความฝันได้ครับ

Q : สำหรับเด็ก ๆ ทั้งในไทยและทั่วโลกที่มีความฝัน มีคำแนะนำอะไรในการไล่ตามความฝันกับเด็ก ๆ บ้างมั้ย?

ริวเซย์ : ส่วนตัวผมมองว่าการที่ได้มาทำกิจกรรมเมืองไทยครั้งนี้ ก็เป็นการวิ่งตามฝันอย่างนึงนะ ไม่ว่าจะมีเรื่องที่สำเร็จบ้าง หรือไม่สำเร็จบ้างก็ตาม แต่พวกเราก็มองว่ามันมีความฝันที่รออยู่ข้างหน้าอยู่แล้ว ดังนั้นเราต้องพุ่งชนมันอย่างเดียวครับ สุดท้ายแล้วหากความฝันของเราสำเร็จเป็นจริงขึ้นมา ก็จะมาเห็นว่ามีคนรอบ ๆ ที่คอยสนับสนุนพวกเราอยู่ตรงนั้นครับ

Q : ในฐานะศิลปินยุคใหม่ คิดว่าดนตรีสามารถทะลายกำแพงด้านภาษา และขับเคลื่อนโลกใบนี้ไปได้ยังไง?

ริกิ : เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ได้คุยกับสมาชิกอยู่บ่อย ๆ เหมือนกันครับ คือพวกเราไม่อยากเป็นวงที่ร้องเพลงเพียงแค่แนวเดียว อยากร้องเพลงได้หลาย ๆ แนว และเมื่อนำเพลงหลาย ๆ มารวมกัน วันนึงมันอาจเป็นดนตรีแนวใหม่ขึ้นมาก็ได้ครับ

Q : เห็นพวกคุณได้รับรางวัล RISING STAR AWARD จาก 2019 “MTV VIDEO MUSIC AWARDS JAPAN” รางวัลนี้มีความหมายกับพวกคุณยังไง?

ริคกี้ : ส่วนตัวก็รู้สึกดีใจมาก ๆ ตอนที่ผมได้ไปรับรางวัลนั้นด้วยตัวเอง ก็รู้สึกว่าการที่พวกเราได้มาที่นี่ก็เหมือนเป็นอีกผลนึงของความสำเร็จแล้ว ที่ได้มาและทำงานที่นี่ ซึ่งผมรู้สึกว่ามันช่วงเวลาที่ดีครับ”

Q : คิดว่ารางวัลจากเวทีนี้ เป็นอีกหนึ่งกำแพงที่พวกคุณได้พุ่งชนมั้ย?

ริคกี้ : ผมก็คิดว่าใช่นะครับ จริง ๆ ผมเองก็มองเป้าหมายเอาไว้ค่อนข้างสูงเลย ครั้งนี้ก็เป็นส่วนหนึ่งที่พวกเราสามารถผ่านไปได้ และต่อจากนี้ก็อยากทำให้ได้มากยิ่งขึ้นอีก ได้รับรางวัลอื่น ๆ เพิ่มขึ้นอีกครับ

Q : คิดว่าความสำเร็จของการเป็นศิลปิน คืออะไร

ริวตะ : ในเรื่องของความสำเร็จ ตอนนี้พวกเราอาจอยู่ในช่วงตรงกลางของการไล่ตามความฝันตามที่พูดอยู่ แต่ว่าการได้มีคอนเสิร์ตของตัวเอง ก็เป็นความสำเร็จ แต่ว่ามันอาจไม่ใช่แค่ในญี่ปุ่น อาจเป็นในเอเชีย แล้วก็ไปในทั่วโลก นี่เป็นสิ่งที่ผมอยากทำให้ได้ครับ

Q : เวลาที่พวกคุณมีปัญหา ไม่เข้าใจกัน หาทางออกยังไง?

มิคุ : พวกเราอยู่ด้วยกันค่อนข้างเยอะมาก ๆ ครับ ไม่ว่าจะเป็นเวลาส่วนตัวพวกเราก็อยู่ด้วยกัน ซึ่งทุกคนก็มีความรับผิดชอบในหน้าที่ของตัวเองอยู่แล้วด้วย ส่วนเวลาที่มันมีอะไรที่ไม่โอเค พวกเราก็เลือกที่จะพูดคุยกันครับ

Q : เห็นทำกิจกรรมด้วยกันทั้งผลงานเพลงและวาไรตี้มาแล้ว หากมีโอกาสได้ทำโปรเจ็คต์อะไรก็ได้ร่วมกัน โดยแสดงเอง โปรดิวเซอร์เอง ที่เมืองไทย อยากทำอะไรกัน?

ริกิ : อยากทำรายการท่องเที่ยวครับ

Q : แล้วคอนเสิร์ตใหญ่ที่เมืองไทยล่ะ อยากทำกันมั้ย?

ริกิ พูดไทยว่า “ใช่!” ด้าน ริวเซย์ บอกว่า “แน่นอนครับ”

Q : หากเลือกข้อดีหรือความสามารถพิเศษของเพื่อนในวงมาเป็นของตัวเอง อยากได้ความสามารถอะไร ของใคร

มิคุ : ผมเลือกคุณมาสะครับ คือส่วนตัวผมเข้ากับคนยากนิดนึง แต่คุณมาสะเป็นคนที่เฟรนด์ลี่มาก ๆ เข้ากับคนได้ง่าย ผมเลยชอบตรงนี้ของมาสะครับ

ริวตะ : ผมเลือกความสามารถในการเต้นของคุณริกิครับ เพราะเขาเต้นเก่งมาก ๆ เต้นฟรีสไตล์ได้ ถ้าผมสามารถเต้นฟรีสไตล์ได้มากเท่ากับคุณริกิ ก็น่าจะเป็นอะไรที่สนุกครับ

มาสะ : ผมเลือกคุณริวตะครับ เพราะชอบความแมนของเขา” ริกิ เสริมว่า “ยิ้มก็น่ารัก” ก่อนที่ มิคุ มาสะ ริคกี้ และ โยชิยูกิ จะพูดไทยว่า “มีเสน่ห์”

ริกิ : ผมเลือกคุณริวเซย์และคุณมาสะครับ ก่อนพูดเป็นภาษาไทยว่า “หล่อมาก” และบอกต่อว่า “ผมอยากได้ใบหน้าหล่อ ๆ แบบนี้ครับ” ด้าน ริวเซย์ และ มาสะ ได้บอกขอบคุณมาก ๆ ครับ ริกิ บอกต่อว่า “ส่วนคุณมิคุเป็นคนฉลาด ก็เป็นข้อดีที่ผมอยากได้ครับ” ริวตะ พูดไทยว่า “อัจฉริยะ” และ มาสะ บอกต่อว่า “ทำได้ทุกอย่างครับ (ยิ้ม) ส่วนริคกี้ มีคาแรกเตอร์มีเข้าหาคนง่ายครับ”

Q : ไอดอลในดวงใจหรือศิลปิน คนดัง นักแสดง ที่พวกคุณอยากร่วมงานด้วย คือใคร?

ริคกี้ : ผมอยากร่วมงานกับคุณ ‘ยังโอม’ ครับ คือส่วนตัวผมได้รู้จักคุณยังโอมตั้งแต่ก่อนมาเมืองไทยแล้วครับ ซึ่งเขาก็ไปคอลแลบกับศิลปินญี่ปุ่นค่อนข้างเยอะด้วย คุณยังโอมเป็นคนที่เก่ง ถ้ามีโอกาสก็อยากทำงานร่วมกับคุณยังโอมครับ ซึ่งผมก็ได้ฟังเพลงใหม่ของคุณยังโอมแล้ว ชอบมากกกกกก ๆ ครับ (ยิ้ม)

Q : คนที่จะเอาชนะใจ พวกคุณได้ ต้องเป็นแบบไหน?

มาสะ : ผมชอบผู้หญิงเท่ครับ

ริกิ : ผมชอบคนที่ยิ้มน่ารักครับ ด้าน ริวตะ จึง สะกิดแล้วชี้ไปที่ตัวเอง ริกิ จึงรีบบอกเป็นภาษาไทยว่า “ไม่ได้” ริวตะ จึงพูดภาษาไทยว่า “อิหยังวะ” เรียกเสียงหัวเราะจากทุกคน ด้าน ริกิ จึงชี้ไป ริวตะ แล้วพูดไทยว่า “น่ารัก ๆ”

ริวเซย์ : ผมชอบผู้หญิงผมยาวครับ มองด้านหลังแล้วดูดี สวย

ริคกี้ : ผมชอบคนใจดีครับ

โยชิยูกิ พูดเป็นภาษาไทยว่า “น่ารักเกินปุยมุ้ย”

ริวตะ : ผมชอบคนที่มีความพยายามครับ คนที่ตั้งใจทำสิ่งต่าง ๆ ครับ

มิคุ : ผมชอบคนที่มีมุกตลกครับ คือดูลุคภายนอกอาจเป็นคนเฉย ๆ แต่จริง ๆ แล้วมีจุดที่เกินคาด ต่างจากลุคภายนอก เช่น ดูนิ่งแต่จริง ๆ ขี้อ้อน อะไรแบบนี้ครับ

Q : นิยาม “ความรัก” ของวง “BALLISTIK BOYZ” คืออะไร??

ริคกี้ : พวกเรามีอยู่อย่างเดียวครับ

โยชิยูกิ บอกต่อว่า “ความรักของพวกเราคือการที่แฟน ๆ ติดตามพวกเรา แม้ว่าจะมีระยะห่าง แต่ว่าหัวใจของเราก็ไม่ได้ห่างไกลกันเลยนะครับ ระยะทางที่ห่างกันก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะความรักที่แฟน ๆ ติดตามพวกเราครับ”

Q : อัพเดทเรื่องเบา ๆ บ้างได้มาทำกิจกรรมในเมืองไทยสักแล้ว รู้สึกประทับใจอะไรมากที่สุด?

ริคกี้ : การได้ร่วมแสดงบนเวทีบิ๊กเมาน์เท่นครับ

ริวตะ : ผมเรารู้สึกตื่นเต้นมาก ๆ เลยครับ

Q : มีชอบโชว์ของศิลปินคนไหน บนเวทีบิ๊กเมาเท่นเป็นพิเศษมั้ย?

มาสะ : ผมชอบนนท์ ธนนท์ครับ

ริกิ : ยัวร์บอยทีเจครับ

Q : มีอาหารไทยจานโปรดบ้างมั้ย?

โยชิยูกิ พูดไทยว่า “ต้มยำกุ้ง” และ “ส้มโอ”

ริคกี้ พูดไทยว่า “ปูผัดผงกระหรี่”

ริวเซย์ พูดไทยว่า “ต้มข่าไก่”

ริกิ พูดไทยว่า “กระเพราหมุไข่ดาว”

มาสะ พูดไทยว่า “กระเพรา”

ริวตะ พูดไทยว่า “ข้าวมันไก่”

มิคุ บอกว่า “แกงเขียงหวานครับ”

Q : พูดถึงแฟนคลับชาวไทยหน่อย มีอะไรประทับใจเล่าให้ฟังบ้าง?

มาสะ : แฟน ๆ ชาวไทยมีเอ็นเนอร์จี้เยอะมากครับ พอเห็นแล้วก็รู้สึกอยากให้แฟน ๆ ชาวญี่ปุ่นคึกคักแบบนี้บ้างครับ

Q : ฝากผลงานหน่อย?

โยชิยูกิ : ก่อนอื่นเลยขอฝากเพลง ‘Drop Dead’ ที่สามารถดูเอ็มวีได้แล้วทางยูทูบ ไฮคลาวด์ เอ็นเตอร์เทนเมนต์นะครับ ซึ่งการมาไทยครั้งนี้ก็อยู่มาระยะเวลานึงแล้ว ได้ไปในหลาย ๆ ที่ รู้สึกขอบคุณมาก ๆ เลยนะครับที่แฟน ๆ ชาวไทยติดตามและคอยให้กำลังใจ อยากลับมาที่ประเทศไทยอีกหลังจากนี้ พวกเราก็ขอฝากตัว และอยากให้ติดตามกันด้วยนะครับ

บอกเลยว่าทั้ง 7 หนุ่มนั้นมีเสน่ห์แบบล้นเหลือ ไม่มีใครยอมใคร ที่สำคัญตลอดการพูดคุยแม้ว่าพวกเขาจะดูขี้เล่น แต่ก็เต็มไปด้วยความมุ่งมั่นทางดนตรี และเชื่อว่าบทสัมภาษณ์นี้จะทำแฟน ๆ ชาวไทยได้รู้จักและหลงรัก “BALLISTIK BOYZ” มากขึ้นแน่นอน

ฮาอึน