ถึง 400 เขตเลือกตั้งของ กกต. จะเป็นดั่งตัวอะไรก็ตาม แต่การเลือกตั้งก็ต้องเดินหน้าต่อ วันเลือกตั้งออกมาแล้วคือ 14 พ.ค. 2566 เลือกตั้งล่วงหน้า 7 พ.ค. สมัคร ส.ส.แบบแบ่งเขต 3-7 เม.ย. ส.ส.บัญชีรายชื่อและพรรคการเมืองแจ้งรายชื่อบุคคลที่แต่งตั้งเป็นนายกฯ 4-7 เม.ย. วันสุดท้ายเพิ่มชื่อ ถอนชื่อ ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 3 พ.ค. และวันแจ้งเหตุที่ไม่ไปใช้สิทธิ 7-13 พ.ค. และ 15-21 พ.ค. 66

อยากได้ กัญชาเสรี ต่อ ก็เลือก ภูมิใจไทย อยากได้ สุราก้าวหน้า ไม่เกณฑ์ทหาร ปฏิรูปกองทัพ แก้ไข ม.112 ก็ต้อง ก้าวไกล อยากได้ บัตรคนจน 700 บาท ก็ พปชร. ถ้า 1,000 บาท ก็ต้องพรรค พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา บำนาญชราภาพ 3,000 บาท ก็ไทยสร้างไทยของ คุณหญิงสุดารัตน์ หาเสียงแล้ว ทำจริงมั้ย หรือแอบไป “ลบข้อความในแอป” ทิ้ง เพราะ 5 บวก 4 ปี ถูกจับโป๊ะ เนื่องจากหาเงินไม่เป็น เอาแต่ กู้ กู้ และกู้ จนต้องแก้กฎหมายขยายเพดานหนี้สาธารณะ แต่ถ้าเป็นงบฯ ซื้ออาวุธ รถถัง, จนถึง เอฟ 35, เรือดำน้ำ ซื้อไม่อั้น ลูกหลานต้องมานั่งชดใช้หนี้ ก็ช่างมัน

หรือใครยังอยากได้ผู้นำเจ้าอารมณ์ ไร้วุฒิภาวะ ไร้วิสัยทัศน์ ก็ตามใจชอบ

ไม่ต้องอวยไส้แตก แต่พรรคที่ผลิตนโยบายต้นแบบ “ประชาธิปไตยกินได้” ก็คือ พรรคเพื่อไทย ซึ่งสืบต่อ DNA มาจาก ไทยรักไทย และ พลังประชาชน ยกตัวอย่างเช่น นโยบาย 30 บาทรักษาทุกโรค ที่ลบทุกคำปรามาส กลายเป็นต้นแบบหลัก “สุขภาพถ้วนหน้าของ UN” แม้ผู้นำบางคนพยายามจะล้มให้ได้ แต่กลับหน้าบานขึ้นเวที UN รับคำยกย่อง ก็มีด้วย

วันประกาศความพร้อมผู้สมัคร 400 เขต พรรคเพื่อไทย เร็ว ๆ นี้ นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกฯ ของพรรคนี้ มี “สปีช” ที่ดีสุดและจับใจสุด ตั้งแต่ปรากฏชื่อเป็น 1 ใน “แคนดิเดต” ก็ว่าได้ มันสะท้อนทัศนคติส่วนลึกและแนวคิดต่อบ้านเมือง เห็นได้ว่า ทำไมนักธุรกิจหมื่นล้านคนนี้ ถึงมาเล่นการเมือง แทนที่จะสร้างบ้านหรู ๆ ขายต่อไป นั่งเสวยสุขบนกองเงินกองทองดีกว่ากันเยอะ ไม่ต้องเอาอนาคตมาเสี่ยงบนเส้นทางการเมืองที่ทำลายล้างสูง เช่นที่ ทักษิณ ชินวัตร หรือ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ โดนสาหัสมาแล้ว?!?

แทบทุกโพลออกมาว่า เพื่อไทย จะได้ “แลนด์สไลด์” เกิน 250 ซึ่งแปลว่า โอกาส “แคนดิเดต” พรรคเพื่อไทย ย่อมสูงกว่าพรรคอื่น ๆ แม้ เสี่ยหนู-ลุงป้อม จะชิงจับมือตั้งรัฐบาลแต่ไก่โห่ หวังตัดหน้าก็ตาม เศรษฐา จึงน่าสนใจ ส่วนตัวเราคิดว่า เหมาะกับสถานการณ์มากกว่า อุ๊งอิ๊ง น.ส.แพทองธาร และคิดว่านี่คือตัวจริง เนื่องจาก พ่อ ทักษิณ น่าจะอยากเซฟลูกสาวคนโปรดไว้ก่อน อายุ “อิ๊งค์” ยังน้อย โอกาสอีกไกล การเป็น เศรษฐา จะลบภาพ พรรคครอบครัวได้อย่างดี ถูกผิดอย่างไรแล้วแต่จะมอง ไม่ว่ากัน

กลับมาที่ “สปีช” ที่กินใจเรา จึงไม่ใช่ “ชุดนโยบายเศรษฐกิจ” เช่น จะเติมเงินดิจิทัลให้ครอบครัวที่มีรายได้ไม่ถึง 2 หมื่น ให้เอาไปซื้อสินค้าจากร้านในรัศมี 4 กม. จากบ้านภายใน 6 เดือน จะเจรจากับประเทศต่าง ๆ ให้คนไทยไม่ต้องใช้ “วีซ่า” จะทำให้ไทยเป็นศูนย์กลาง “Fintect” อาเซียน หรือค่าแรง 600 บาท หรือจีดีพีโตเฉลี่ย 5% ทั้ง 4 ปี เป็นต้น

แต่คือ ตอนหนึ่งที่ว่า “ผมมีความคับแค้นใจ…(ขีดเส้นใต้) เรื่องความไม่เท่าเทียมของคนไทย กระบวนการยุติธรรม กฎหมายที่มีปัญหา บางคนมีอภิสิทธิ์ล้นฟ้า เอาเปรียบประชาชน ทำผิดไม่เคยผิด กลับอยู่ดีมีหน้ามีตาในสังคม เรามีผู้นำที่ไร้หัวใจ (ขีดเส้นใต้) ขับไล่ประชาชนของตัวเองที่มีศักยภาพรักประเทศ อยากทำให้ประเทศดีขึ้นไปอยู่ต่างประเทศ เพียงเพราะคนเหล่านั้นไม่อยู่ในโอวาท (…ขีดเส้นใต้) ผมอยากแก้กฎหมายให้คนเท่าเทียม คนรวยคนจน ผู้ใหญ่ ผู้น้อย ทุกคนคือเท่าเทียม กระบวนการยุติธรรมไม่ถูกบิดพลิ้ว…..”

นี่คงเป็น “ตะกอน” ในหัวใจของคนชื่อ เศรษฐา ทวีสิน มาช้านาน หากไม่ “อิน” จริง ๆ คงยากที่จะกลั่นออกมาเยี่ยงนี้ได้ มันไม่ใช่คำพูดใหญ่โตใด ๆ เลย แต่ทั้งภาษากาย และวาจาที่เปล่งออกมา หนักแน่น ตรึงใจ

สมศักดิ์ศรี “สปีช” แคนดิเดตนายกฯ และล่าสุดหาเสียงที่อยุธยา ทั้ง แบม-ตะวัน เยาวชนที่อดอาหารประท้วง ก็ได้รุกไปทำโพล ท่ามกลางคนฟังมากมาย โดย “เพื่อไทย” ยินดีต้อนรับและเปิดโอกาสเต็มที่ นี่แหละประชาธิปไตยที่มีหัวใจ

——————-
ดาวประกายพรึก