แม้ชัยชนะ 1-0 เหนือ วูล์ฟส์ จะไม่ใช่ชัยชนะที่สวยหรู และออกจะดูทุลักทุเลไปสักหน่อย แต่สิ่งสำคัญที่สุดสำหรับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็คือ 3 คะแนนเต็มที่พวกเขาบุกไปควักมาได้จากรังของคู่แข่งจอมแสบรายนี้

            3 คะแนนจากเกมที่ โมลินิวซ์ ทำให้ ผีแดง มีคะแนนตามหลังจ่าฝูง ทอตแนม ฮอตสเปอร์ แค่ 2 คะแนน และมี 7 แต้มเท่ากับเต็งแชมป์อย่าง เชลซี และลิเวอร์พูล รวมทั้งเหนือกว่า แมนเชสเตอร์ ซิตี แชมป์เก่า อยู่ 1 แต้ม

        ช่องว่างเหล่านี้อาจจะดูน้อยนิด แต่มันจะกลายเป็นแต้มใหญ่ขึ้นมาทันทีเมื่อเข้าสู่ช่วงโค้งสุดท้ายของฤดูกาลในกรณีที่ แมนฯ ยูไนเต็ด ยังคงมีลุ้นแชมป์ไปจนถึงตอนนั้น

        เกมนี้ โอเล กุนนาร์ โซลชา จัดผู้เล่นลงสนามได้โดนใจเด็กผีดีเหลือเกิน เมื่อกล้าถอย ปอล ป็อกบา ลงมาคุมเกมตรงกลางคู่กับ เฟร็ด แทน สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ ที่ต้องพักร่วมเดือนจากการผ่าตัดโคนขาหนีบ

        นอกจากนี้ยังตัดสินใจเข็น 2 ผู้เล่นใหม่อย่าง เจดอน ซานโช และราฟาแอล วาราน ลงประเดิมตัวจริงเป็นนัดแรกอีกด้วย

        หากไล่เรียงรายชื่อบนหน้ากระดาษ ไม่ว่าจะมองมุมไหน แมนฯ ยูไนเต็ด ก็เหนือกว่า วูล์ฟส์ บานเบอะ และน่าจะควักชัยชนะกลับบ้านได้สบาย

        ทว่าพอเอาเข้าจริง อสูรแดง กลับโดน พลพรรคหมาป่า ของ บรูโน ลาช โขยกใส่จนแทบโงหัวไม่ขึ้น โดยเฉพาะในครึ่งแรก แต่ยังรอดตัวมาได้เพราะกองหน้าเจ้าถิ่นดันไม่มีทีเด็ดทีขาดมากพอที่จะส่งบอลผ่านมือ ดาบิด เด เคอา เข้าไปตุงตาข่ายได้

        เกมนี้แดนกลางของ แมนฯ ยูไนเต็ด กลายเป็นจุดอ่อน โดยเฉพาะ เฟร็ด ที่นอกจากจะปั้นเกมไม่ได้แล้ว เกมรับก็ยังปวกเปียก และเอา อดามา ตราโอเร ไม่อยู่เลยจนกลายเป็นว่า ปอล ป็อกบา ต้องคอยมาช่วยซ้อนจนแทบไม่มีเวลาสร้างสรรค์เกมตามบทบาทของตัวเอง

        จุดเปลี่ยนสำคัญของเกมน่าจะอยู่ในนาทีที่ 68 เมื่อ เด เคอา งัดฟอร์มเทพเซฟลูกโหม่งจากระยะเผาขน และลูกซ้ำดาบสองของ โรแมง ซาอิสส์ เอาไว้ได้ 2 ครั้งซ้อนอย่างเหลือเชื่อ

        จากนั้นต้องชม โซลชา ที่แก้เกมเร็วด้วยการถอด แดน เจมส์ ที่ยังเล่นไม่เอาอ่าวเหมือนเดิมออกไปพัก และส่ง เอดินสัน คาวานี ลงมายืนเป็นหน้าเป้าตั้งแต่ต้นครึ่งหลัง พร้อมขยับ กรีนวูด ออกไปเล่นฝั่งขวาตามถนัด ก่อนที่เกมของ ผีแดง จะค่อย ๆ ดีขึ้น และมาได้ประตูชัยจาก เจ้าไม้เขียว ที่รับบอลจาก วาราน ก่อนจะลากเข้าไปสับไกผ่านมือ โชเซ ซา เข้าไปตุงตาข่ายในนาทีที่ 80 ซึ่งนับเป็นประตูที่ 3 จากการลงเล่น 3 นัดของเจ้าตัวในฤดูกาลนีอีกด้วย

        แม้จะคว้าชัยได้สำเร็จตามเป้าหมาย แต่ต้องยอมรับว่า แมนฯ ยูไนเต็ด น่าจะลุ้นแชมป์ยากสักหน่อย หากยังใช้กลางรับคุณภาพดาด ๆ อย่าง เฟร็ด ขณะที่คู่แข่งอย่าง แมนฯ ซิตี มี แฟร์นันดินโญ กับ โรดรี, เชลซี มี เอ็นโกโล ก็องเต และจอร์จินโญ และลิเวอร์พูล มีทั้ง ฟาบินโญ, ติอาโก อัลคันตารา และจอร์แดน เฮนเดอร์สัน

        จะว่าไปมันก็น่าแปลกใจอยู่เหมือนกันในเมื่อมีเงินซื้อนักเตะค่าตัวแพงอย่าง แฮร์รี แม็กไกวร์, เจดอน ซานโช และดึง คริสเตียโน โรนัลโด กลับคืนสู่ “โรงละครแห่งความฝัน” แต่ แมนฯ ยูไนเต็ด กลับไม่คิดจะขยับดึงกลางรับชั้นดีเข้ามาร่วมทีมเลย แถมยังทู่ซี้ใช้แข้งบราซิลเสิ่นเจิ้นมานานหลายปีรวมทั้งยังไม่ยอมโละนักเตะที่หมดสภาพอย่าง เนมานยา มาติช ทิ้งอีกต่างหาก

        อย่างไรก็ตามมุมดี ๆ จากเกมนี้ก็พอมีให้เห็นเช่นกัน นั่นคือการเปิดตัวได้อย่างยอดเยี่ยมของ วาราน ที่แสดงให้เห็นแล้วว่า เพราะอะไร แมนฯ ยูไนเต็ด จึงอยากได้เขาเหลือเกิน และเพียรพยายามล่าตัวมาตั้งแต่ปี 2011 ตั้งแต่ยังเป็นนักเตะดาวรุ่งของล็องส์ด้วยซ้ำ

        เกมนี้ วาราน ไม่แสดงความผิดพลาดในเกมรับให้เห็นเลย โดยเฉพาะลูกกลางอากาศที่ขึ้นชนกับแนวรุกคู่แข่งได้อย่างหนักแน่นแม่นยำ และช่วยแบ่งเบาภาระของ แม็กไกวร์ ไปได้เยอะทีเดียว

        นอกจากนี้ ดาวเตะแชมป์โลก ยังเปิดบอลยาวได้ดี และมีไปแล้ว 1 แอสซิสต์ในการประเดิมสนามนัดแรก ทั้งที่ทำแอสซิสต์ไม่ได้เลยสักครั้งตลอดการลงสนามในลีก 31 นัดให้ รีล มาดริด เมื่อฤดูกาลที่แล้ว

        ตลอด 90 นาทีที่ โมลินิวซ์ สเตเดี้ยม วาราน สัมผัสบอล 74 ครั้ง จ่ายบอลเข้าเป้า 88 เปอร์เซ็นต์ จ่ายบอลเข้าสู่พื้นที่สุดท้าย 5 ครั้ง ดวลลูกกลางอากาศ 5 ครั้งชนะ 2 ครั้ง เคลียร์บอล 3 ครั้ง บล็อกลูกเปิดเข้ากลางได้ 1 ครั้ง ตบท้ายด้วยการทำแอสซิสต์อีก 1 ครั้งอย่างที่เรียนไป

        งานนี้บอกได้เลยว่าถ้า วาราน หรือ แม็กไกวร์ ไม่ล้มหมอนนอนเสื่อไปเสียก่อน ทั้ง วิคตอร์ ลินเดเลิฟ และเอริก ไบยี มีหวังได้นั่งตบยุงกันยาว ๆ แน่นอน

        ด้าน ซานโช ที่ถูกถอดออกไปพักตั้งแต่นาทีที่ 72 น่าจะต้องใช้เวลาปรับจูนกับเพื่อนร่วมทีมใหม่อีกสักพักจึงจะสามารถปล่อยของได้มากกว่านี้ เพราะเท่าที่เห็นเหมือนจะยังเล่นได้ไม่เข้าขารู้ใจกับ บรูโน แฟร์นันด์ส, ป็อกบา และกรีนวูด มากนัก

        สำหรับอีกคนที่จะไม่พูดถึงไม่ได้เลยก็คือ เด เคอา ที่กลับมาเป็น เด เคอา คนเดิมอีกครั้งในฤดูกาลนี้

        จากการที่ ดีน เฮนเดอร์สัน โชคร้ายติดโควิด-19 ทำให้ “เดฟเซฟ” ได้ลงเฝ้าเสาเป็นตัวจริงให้ แมนฯ ยูไนเต็ด ตลอด 3 นัดที่ผ่านมา และเจ้าตัวก็ใช้โอกาสของตัวเองได้อย่างคุ้มค่าจนน่าจะพูดได้เลยว่า มือกาวสแปนิช สามารถยึดมือ 1 กลับคืนมาจาก “ดีโน่” ได้เรียบร้อย

        สำหรับเกมนัดต่อไปในพรีเมียร์ลีก แมนฯ ยูไนเต็ด มีคิวจะเปิดบ้านรับการมาเยือนของ นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ในวันที่ 11 ก.ย. ซึ่งเมื่อถึงตอนนั้นเชื่อว่า นักเตะหลายคนน่าจะมีสภาพความฟิตดีขึ้น อันหมายถึงคุณภาพเกมที่ดีขึ้นของทีมด้วย

        ที่สำคัญหากไม่มีอะไรผิดพลาดสาวก เรด อาร์มี ยังน่าจะได้เห็นการกลับมาลงประเดิมสนามให้ในสีเสื้อปิศาจถือสามง่ามเป็นครั้งที่ 2 ของขวัญใจคนเดิมอย่าง คริสเตียโน โรนัลโด อีกด้วย และในฐานะผู้ขายวิญญาณให้ ปิศาจแดง คนหนึ่งเรียนตามตรงว่า แทบอดใจรอให้ถึงวันนั้นไม่ไหวแล้วจริง ๆ ….

แท ยอน