ช่วงนี้เรายังคงอยู่กับควันหลังหลัง Fnatic ทีมยักษ์ใหญ่ของวงการ Valorant ฝั่ง EU คว้าเเชมป์ Valorant // LOCKIN ด้วยการเอาชนะ LOUD E-sports เเชมป์ VALORANT Champions 2022 เเละในฐานะทีมเจ้าภาพ ไปได้ หนึ่งในคีย์สำคัญของ Fnatic นั่นคือ Jake “Boaster” Howlett ผู้เล่น In-Game Leader สายคอนเทนท์ที่อยู่กับทีมมานาน ตั้งเเต่ก่อตั้งทีมวันนี้เราจะมาดูกันว่ากว่า เขาจะได้เป็นเเชมป์นั้น Boaster ผ่านอะไรมาบ้างไปดูกันเลยครับ
เริ่มต้นจาก Counter Strike Global Offensive
เหมือนกันกับเด็กสาย FPS ทุกๆคน เด็กชาย Jake Howlett เข้าสู่วงการ E-sports จากการเล่นเกม Counter Strike Global Offensive เเต่ก็ไม่ใช่ทุกคนที่จะประสบความสำเร็จในวงการที่ช่วงนั้นมีการเเข่งขันที่สูงมากๆ Boaster เริ่มต้นจากทีมเล็กอย่าง Curse These Metal Hands เเละ ไปสู่จุดสูงสุดอย่างทีม CEX Esports ที่นั้นเขาคว้าเเชมป์เเรกในทัวร์นาเมนต์ Multiplay Insomnia 56 ในปี 2015 ก่อนที่จะไปประสบความสำเร็จสูงกับ Epsilion ที่เขาเข้าไปเป็น Stand-in ให้ในรายการ ESL Premiership – Spring 2018 เเต่ก็ยังวนอยู่ในรายการเเละทีมระดับ Tier B หรือ C เท่านั้น
หันจากคน Turn Pro สู่ Vlogger
เมื่อการเป็นโปรมันไม่รุ่ง Boaster เลยผันด้วยมาเป็น Vlogger ควบคู่กับการ นักเเข่ง เเละ Analysis ในช่วงที่เขาอยู่กับทีม exceL eSports จนในปี 2018 ที่เขาผันด้วยไปเป็น Steamer เต็มตัว ซึ่งตัวเขายอมรับออกมาผ่านคลิป ด้วยตัวเองเลยว่า เขาได้เห็นมุมมองอะไรที่มันมากขึ้น กว่าตอนเป็นนักเเข่งเสียอีก เเล้วรู้สึกว่า “มันโคตรจะคูล” โดยคอนเทนท์ที่เจ้าตัวทำนอกจากเป็นเกี่ยวกับเกมเเล้ว ยังมีคอนเทนท์ไลฟ์สไตล์ ท่องเที่ยว รวมถึงคอนเทนท์ฮาๆ ที่ไปร่วมกับสตีมเมอร์คนอื่นๆ ด้วย
นอกจากการเป็น Vlogger เเละ Steamer เต็มตัวเเละเจ้าตัวยังรับงานเป็น Analysis ให้กับรายการการเเข่งขันต่างๆ เเถมยังทำคลิปวิเคราะห์การเเข่งขันต่างๆลง Youtube อีกด้วยโดยงานใหญ่ๆที่เจ้าตัวเคยได้ร่วมคือ ECS Season 4-5 Finals ที่ด้วยความที่คาเเรคเตอร์เจ้าตัวเป็นคนอารมณ์ดี ทำให้ทางทีมงานมองเห็นให้เจ้าตัวไปรับหน้าที่เป็น นักข่าวเเละพิธีกรภาคสนามประจำทัวร์นาเมนต์ หรืออีกอันนึงที่เเฟน CSGO คงจะจำกันได้นั่นคือการที่เจ้าตัวได้รับเชิญไปเป็น Content Host ประจำการเเข่งขัน FACEIT Major: London 2018 เลยทีเดียว
เเต่ใครจะไปรู้ว่าเส้นชีวิต Proplayer ที่ดูเหมือนจะไกลเกินเอื้อมเเล้วของ Boaster จะเกิดการเปลี่ยนเเปลงครั้งสำคัญที่จะเปลี่ยนชีวิตเข้าไปตลอดกาล
การเข้ามาของการเปลี่ยนเเปลงที่จะเปลี่ยนชีวิต Boaster ไปตลอตกาล
ใครจะไปคิด ทำ Vlogger อยู่ดีๆรู้ตัวอีกทีกลายเป็น Pro Valorant ไปซะเเล้ว ตัว Boaster เองก็เช่นกัน เจ้าตัวคงคิดมันคงเป็นไปได้ยากที่จะกลับไปเป็น Esports Player อีกครั้ง เเต่เเล้วการเข้ามาของ Valorant ทำให้เจ้าตัวได้รับเชิญเข้าไปเล่นในรายการ Showmatch อย่าง G2 Esports European Brawl ใน Team UK ทำให้เจ้าตัวได้เห็นโอกาสในการกลับมาใน Pro scene อีกครั้ง ด้วยฝีมือเเละทักษะที่เจ้าตัวมีอยู่เเล้วทำให้ได้เข้าสู่สโมสร SUMN FC ซึ่งเป็นสโมสรฟุตบอลที่ผันดัวมาทำทีม Esports ก่อนที่จะถูกสังกัดใหญ่อย่าง Fnatic ซื้อทีมไปหลังจากโชว์ผลงานได้ดีในรายการ First Strike Europe ใน 1 ปีต่อมา เเม้ว่าจะเเพ้ต่อ Team Liquid ในนัดชิงก็ตาม
เริ่มต้นคลุกคลาน เเต่สุดท้ายได้เข้ารอบ
ด้วยความที่ Fnatic เป็นสังกัดใหญ่ที่คนรู้จักกันทั่วโลก ย่อมมีความคาดหวังสูงเป็นธรรมดา เเต่ Fnatic กลับเริ่มต้นได้ไม่ดีนักไม่สามารถผ่านเข้ารอบได้เลย VCT 2021: Europe Stage 2 Qualliflies Challengers 1 ตั้งเเต่รายการ จนกระทั่ง VCT 2021: Europe Stage 2 Challengers 2 ที่ Fnatic สามารถคว้าเเชมป์ ด้วยการเอาชนะยอดทีมขวัญใจมหาชนอย่าง Liquid ที่ ณ ตอนนั้น มี Edshort Machine อย่าง Scream อยู่ด้วย ถือว่าเป็นการล้างเเค้นหลังจากที่ Team Liquid ดับฝันมาหลายครั้งหลายครา
สำเร็จขั้นเเรกไม่ได้หมายความว่าจะสำเร็จในขั้นต่อไป
เเม้จะผ่านเข้ารอบไปเล่นใน VCT 2021: Stage 2 Masters – Reykjavík เเละรวมถึงจะเล่นได้อย่างดีได้ถึงอันดับที่ 2 เเต่ในทัวร์นาเมนต์ต่อๆมาอย่าง VCT 2021: Europe Stage 3 Challengers 2 เเละ VALORANT Champions Tour ก็ยังไม่ดีพอที่จะเป็นเเชมป์เเถมบางครั้งก็ตกม้าตายง่ายๆ จนน่าตกใจ ที่น่าเสียดายที่สุดคือ VCT 2022: Stage 2 Masters – Copenhagen ที่โดน FunPlusPheonix ล้างเเค้นจากรอบคัดเลือก EMEA ทั้งที่เกมก็สูสี เเต่ก็เหมือน Fnatic จะชอบเเพ้ภัยตัวเอง เเถม VALORANT Champions 2022 ก็ฟอร์มไม่ดีตกรอบตั้งเเต่รอบ 16 ทีม จนทั้งทีมเริ่มถูกวิพากษ์วิจารย์อีกครั้ง โดยเฉพาะตัว Boaster เองที่โดนวิจารณ์ว่า “เน้นคอนเทนท์มากบนเวทีกว่าเเข่งจริง”
เเม้จะเป็นนักเเข่งเต็มตัวเเละงานเดิมที่ทำได้ดีก็ยังไม่ทิ้ง
เเม้ในการเเข่งขัน Boaster เองจะทำได้ไม่ดีเเต่สิ่งที่เข้าทำได้ดีนั่นคือการเป็น Analyst เเละ Content Creator ของเจ้าตัวในช่วงระหว่างการเเข่งขัน VALORANT Champions 2021 ที่เเม้เจ้าตัวตกรอบไปเเล้วเเต่ด้วยคาเเรคเตอร์ของเจ้าตัวทำให้ทางทีมงานเชิญเจ้าตัวมาเป็น Guest บนโต๊ะ Comentator สร้างสีสันสีให้กับรายการร่วมกับเเฟนของเขาอย่าง Yinsu สาวลูกครึ่งเอเชียอังกฤษที่คบกับเจกมาตั้งเเต่ตอนเธอเป็น Manager ของ SUMN FC รวมไปถึง Tournament หญิงของ Valorant อย่าง Game Changer เจ้าตัวก็ได้รับเกียรติให้เป็น Comentator/Analyst ประจำรายการด้วยเรียกได้ว่าเลิกเล่นไปมีงานทำในวงการต่อเเน่นอน
หลังจากนั่นความเปลี่ยนเเปลงก็เกิดขึ้นอีกครั้งกับวงการ Valorant เมื่อทาง Riot ประกาศจัด Valorant League ซึ่งทาง Fnatic นั้นก็ของ Boaster เองเป็นหนึ่งใน Partner ของ Riot ด้วย
Comback ด้วยฟอร์มเเรงจนถึงเเชมป์
หลังจากที่วงการ Valorant เข้าสู่ช่วง Partner League เเละ ปลายปี 2022 ที่เป็นช่วง OFF//SEASON ทาง Fnatic เเละ Boaster เองเหมือนได้เข้าสู่โหมดพักจิตพักใจอีกครั้ง เเละเหมือนว่ามันจะได้ผล เพราะทัวร์นาเมนต์ต่อมาอย่าง Superdome ก็ตบ Acend อดีตเเชมป์มาอย่างง่ายดาย 2-0 ก่อนที่จะมาเอาชนะ LOUD อีก 1 อดีตเเชมป์โลก 3-2 โดย Boaster นั้นมีส่วนสำคัญเป็นอย่างมากทั้งในฐานะ IGL ที่สังเเผนได้เฉียบขาด จะเห็นได้ว่าจนกระทั่งรอบชิง Fnatic ไม่เสียเเผนที่เลยเเม้เเต่เเผนที่เดียว เเละในฐานะผู้เล่น โดยเฉพาะในรอบรองชนะเลิศที่พบกับ NAVI ที่เขาสามารถเก็บได้ถึง 4 Kill ในเเผนที่ Louts ทำให้ทีมผ่านเข้ารอบชิงมาได้
เเละหลังจากคว้าเเชมป์เเล้วเจ้าตัวถึงกลับโพสเลยว่า “ผมคิดว่าเราจะแพ้นัดชิงอีกครั้งที่บราซิล เพื่อนร่วมทีมของผมไม่ยอมให้มันเกิดขึ้น เเละ LOUD เป็นทีมที่ยอดเยี่ยม! ผมมีความสุขมากที่ได้ชูถ้วยรางวัลและเบ่งกล้ามเนื้อมัดใหญ่! ขอบคุณสำหรับการสนับสนุน และขออภัยสำหรับอะไรที่มันเครียดไปนะคนดู” Boaster กล่าวปิดท้ายอย่างติดตลกในเเบบฉบับของตัวเอง
เเละนี่คือทั้งหมดของ Boaster จากชายผู้ที่เป็น Vlogger สู่เเชมป์ Major Valorant ชายผู้ที่เคยคิดว่าหมดอนาคตในการเป็นโปรเพลย์เยอร์ไปเเล้ว เเต่ด้วยทัศนคติที่ดี มีความพยายาม เเละเพื่อนๆที่ไม่ยอมเเพ้ ทำให้เขาขึ้นสู่จุดสูงสุดของวงการ Valorant ได้สำเร็จ
——————————————–
GAMESTALK BY INSIDE THE GAMES
คอลลัมน์โดย Wacther
ติดตามรีวิวเกมส์ และ อื่นๆ ที่น่าสนใจได้ที่ : INSIDE THE GAMES
