เรียนคุณหมอ ดร.โอ สุขุมวิท 51 ที่เคารพ

ตอนนี้ผมอายุ 33 ปี ยังเป็นโสดไม่ได้แต่งงาน แต่มีแฟนวัยเดียวกัน ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันมาเป็นเวลาปีเศษแล้ว มีโรคประจำตัวคือโรคภูมิแพ้ ต้องกินยารักษาโรคดังกล่าวอยู่เป็นประจำเมื่อมีอาการ ช่วงไม่กี่เดือนมานี้จู่ ๆ ก็เริ่มมีปัญหาทางเพศคือมักจะใช้เวลาร่วมเพศกับแฟนสั้นลง พูดง่าย ๆ ก็คือมีอาการหลั่งไวขึ้น พร้อมกันนั้นสังเกตว่าอวัยวะเพศแข็งไม่ค่อยเต็มที่ก่อนที่จะสอดใส่ จึงสงสัยว่าน่าจะเกี่ยวกับยาที่กินอยู่หรือไม่ จึงอยากขอคำแนะนำว่ายารักษาโรคภูมิแพ้ที่กินอยู่นี้มันจะเกี่ยวข้องกับการแข็งตัวของอวัยวะเพศเป็นไปได้มากน้อยเพียงใด อาการที่เป็นอยู่นี้ทำให้ไม่มีความมั่นใจในตัวเองเอาเสียเลย จนบางครั้งมีอารมณ์เพศแต่ก็ไม่กล้าที่จะร่วมเพศกับแฟน กลัวว่าแฟนจะผิดหวัง จึงมาขอปรึกษาคุณหมอโอ เพื่อช่วยแนะนำหาทางออกและวิธีการแก้ไขปัญหาได้หรือไม่อย่างไร

ด้วยความเคารพ

ภูชิต 33

ตอบ ภูชิต 33

ชายหนุ่มวัย 33 ปี ป่วยเป็นโรคภูมิแพ้ แล้วทานยารักษาโรคภูมิแพ้ ซึ่งยารักษาโรคภูมิแพ้นั้นเป็นยาที่ไปทำให้กล้ามเนื้อหดตัว ซึ่งก็ทำให้กล้ามเนื้อเรียบในองคชาตก็หดตัวตามไปด้วย เพราะฉะนั้นระหว่างที่กินยารักษาโรคภูมิแพ้อยู่ ก็อาจจะทำให้การแข็งตัวขององคชาตไม่ดีตามไปได้ ซึ่งไม่ค่อยได้พบมากนัก สำหรับอาการหลั่งเร็วนั้นไม่เกี่ยวกับการทานยารักษาโรคภูมิแพ้แต่อย่างใด แต่การที่มาหลั่งเร็วในตอนหลังนี้ ส่วนใหญ่จะพบว่า ถ้าคุณภาพการแข็งตัวของผู้ชายไม่ดีก็จะหลั่งเร็ว รีบหลั่ง เพราะถ้ามีเพศสัมพันธ์ไปสักระยะแล้วไม่รีบหลั่ง มันจะอ่อนตัวจนไม่สามารถกลับมาแข็งตัวได้ และไม่สามารถหลั่งได้อีกเลย ก็เลยกลายเป็นการบังคับให้หลั่งเร็วไปอัตโนมัติ เพราะฉะนั้นก็ต้องไปแก้ที่ต้นเหตุคือคุณภาพการแข็งตัว คือทำให้การแข็งตัวให้ได้นาน 30 นาทีทุกครั้งที่ร่วมเพศอย่างแข็งตัวมาก แล้วปัญหาการหลั่งเร็วก็จะหายไป 

ปัจจุบันมีวิธีการฟื้นฟูเรื่องการแข็งตัวให้เต็มที่หลากหลายวิธีไม่ว่าจะเป็นการใช้ยากินแบบเฉพาะกิจ ช่วยฟื้นฟูระบบหลอดเลือดทั้งระบบ การบริหารกล้ามเนื้อเพศช่วยเพิ่มออกซิเจนแก่กล้ามเนื้อเพศให้กล้ามเนื้อเพศแข็งแรง ช่วยให้เกิดการแข็งตัวดีขึ้น แต่ถ้าคุณภาพการแข็งตัวยังดีแล้วยังหลั่งเร็ว ก็ต้องแก้เรื่องการหลั่งเร็ว ปัจจุบันมีการรักษาอาการหลั่งไวด้วยการเพิ่มสารซีโรโทนินในระบบประสาทเพื่อช่วยให้สามารถควบคุมการหลั่งออกไปได้ 20-30 นาที การรักษาอาการทางเพศที่ถูกต้องจะต้องตรวจหาสาเหตุของอาการที่เป็นก่อน เพราะจะช่วยให้ผู้ป่วยได้รับการรักษาที่ถูกต้อง หากการรักษาไม่ตรงกับเหตุก็ยิ่งเพิ่มความรุนแรงของโรคให้มากขึ้น และยังเสียเวลา สิ้นเปลืองเงินโดยใช่เหตุ ขอให้มีความอดทนในการรักษา.

——————-
ดร.โอ สุขุมวิท 51