คณะรัฐมนตรี (ครม.) รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา คงได้ประชุมกันอีก 2 ครั้ง หลังจากนั้นจะถึงคราวอวสาน “ระบอบประยุทธ์” หรืออวสาน “ระบอบ 3 ป.” เหลือเพียงแค่ “ครม.รักษาการ”

ถามว่าเลือกตั้งครั้งหน้า! ใครจะเลือก พล.อ.ประยุทธ์เพื่อเข้ามาสานงานบริหารประเทศ มากอบกู้ปัญหาเศรษฐกิจ และแก้ปัญหาต่าง ๆ ของประเทศ ในช่วงเวลาเพียงแค่ 2 ปี ที่สามารถเป็นนายกฯ ได้อยู่

แต่ที่แน่ ๆ เลือกตั้งคราวหน้า พี่น้อง 3 ป. ซึ่งเคยหลับนอนอยู่ห้องเดียวกัน ตั้งแต่สมัยเป็นผู้หมวด-ผู้กอง ในค่ายทหารเสือราชินี (ร.21 รอ.) จ.ชลบุรี ถึงคราต้องพลัดพรากจากกันทาง การเมือง เนื่องจาก พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ประกาศชัดเจนว่าขอพักผ่อน! ส่วน พล.อ.ประยุทธ์ ยังไปนัวเนียกับ “ลุงกำนัน” ที่พรรครวมไทยสร้างชาติ

ประวิตร'เลือก - 'ประยุทธ์'ไล่! นับถอยหลัง '3 ป.' กับทฤษฎีสองนครา  บนทางสี่แพร่งให้ 'บิ๊กตู่' เลือกเดิน | เดลินิวส์

ทางด้าน พล..ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ มีเป้าหมายจะเป็นนายกฯสักครั้งในชีวิต และช่วงนี้ได้ร่อนจดหมายไปแล้ว 5 ฉบับ ด้วยเนื้อหาสาระทิ้งบอมบ์! “อีลีทอนุรักษนิยม” เพื่อเกาะกระแสไปกับการเปลี่ยนแปลงในระบอบประชาธิปไตยของโลกยุคใหม่ และคงขอเกาะไปกับขบวน “แลนด์สไลด์” ด้วยนั่นแหละ!

ไม่ต้องดูอื่นไกล “กลุ่มสามมิตร” นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ และ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน ไม่ปรารถนาเป็นฝ่ายค้าน! ดังนั้น ตอนนี้ 99% แล้วที่ “สุริยะ-สมศักดิ์” จะย้ายมาอยู่พรรคเพื่อไทย แค่รอจังหวะเหมาะ ๆ เข้าไปลา พล.อ.ประวิตร แค่นั้นเอง

ส่วนพรรคร่วมรัฐบาล “ระบอบประยุทธ์” ออกมาสาวไส้สาดน้ำลายกันเอง จนน่วมไปตาม ๆ กัน ตั้งแต่คนของพรรคประชาธิปัตย์ไหลทะลักออกไปอยู่พรรครวมไทยสร้างชาติ-พรรคภูมิใจไทย กันหลายคน

บรรดาหัวขบวนของประชาธิปัตย์ จึงออกมาแซว! ออกมาเหน็บ! เรื่อง “พรรคเฉพาะกิจ” ถ้าประชาชนเลือกพรรคเฉพาะกิจ ก็จะได้แต่นโยบายเฉพาะกิจ บ้างก็ออกมาทวงบุญคุณคนย้ายพรรค เหน็บกันบ้างว่าเป็นพรรคที่ตกปลาในบ่อเพื่อน ใช้เงินฟาดซื้อตัว ส.ส. แถมเย้ยหยันคนที่ย้ายพรรค คือพวกยาหมดอายุ แค่ปีเดียวย้ายพรรค 2-3 รอบ

แต่มีคนเหน็บกลับว่ามีการใช้เงินซื้อตำแหน่งกรรมการบริหารพรรคเก่าแก่ และอุดมการณ์เปลี่ยนไป จึงต้องย้ายพรรค

ส่วนพรรคภูมิใจไทยก็สะบักสะบอม! เนื่องจากถูกศาลสั่งพักงานรัฐมนตรี 2 คน คือ นางกนกวรรณ วิลาวัลย์ อดีตรมช.ศึกษาธิการ กรณีออกโฉนดที่ดินทับพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ จ.ปราจีนบุรี ตามมาด้วย นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม และเลขาธิการพรรค เจอเรื่องใช้ “นอมินี” ถือหุ้นในบริษัทรับเหมา มาประมูลงานในกระทรวงคมนาคม

ไม่เว้นแม้แต่พรรคชาติไทยพัฒนา ตั้งใจจะอยู่เงียบ ๆ เพื่อกวาด ส.ส.สุพรรณบุรี ทั้ง 5 เขต ไว้รอเรียกตัวไปเสียบร่วมรัฐบาลเที่ยวหน้า แต่ต้องอารมณ์เสีย เมื่อมีคนกันเองจากพรรครวมไทยสร้างชาติ ย่องมาจีบน้องชายของ ส.ส.สุพรรณบุรี เขต 2 ให้ลงแข่งขันกับคนของพรรคชาติไทยพัฒนา ที่เขต 1 สุพรรณบุรี งานนี้เล่นเอาตระกูล “ศิลปอาชา” หัวเสียไม่น้อย!

ไม่ต้องพูดถึงพรรคเล็ก ๆ “พรรคเขย่ง” ส.ส.ปัดเศษ! ที่เป็นตัวประกอบให้ระบอบประยุทธ์อีกนับ 10 พรรค ต่างเจอฤทธิ์เดชของกติกาบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ และสูตรคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หารด้วย 100 เท่ากับจำนวน ส.ส.บัญชีรายชื่อ 100 คน ส่งผลให้บรรดา “พรรคเขย่ง” ถึงคราวต้องสูญพันธุ์ไป

ระบอบประยุทธ์ ทำให้พรรคการเมืองอ่อนแอ ส.ส.ลาออก-ย้ายพรรค กันเป็นว่าเล่น ส่วนใหญ่มาจากเหตุผลเรื่อง “กล้วย” จึงทำให้การประชุมสภาล่มซ้ำ ๆ ซาก ๆ จนถึงวันสุดท้ายของวันประชุมสภา เมื่อปลายเดือน ก.พ. 66 เหลือ ส.ส.ปฏิบัติหน้าที่ได้แค่ 417 คน จากจำนวน ส.ส.ทั้งหมด 500 คน มันเป็นไปได้อย่างไร?

ดังนั้น จึงถึงคราวอวสาน “ระบอบประยุทธ์” ระบอบที่ทำให้สถาบันการเมืองอ่อนแอ พรรคการเมืองเหมือนคนป่วยไข้ แล้วบ้านเมืองจะไปรอดได้อย่างไร? ถ้าจะเลือกตั้งเพื่อดัน พล.อ.ประยุทธ์ ให้เป็นนายกฯ ต่อไปอีกแค่ 2 ปี!!

——————————
พยัคฆ์น้อย