ถูกพูดถึงหนักมากจริงๆ สำหรับซีรีส์สุดปัง “TANMAN ทำแทนได้” ซีรีส์สุดปังทางทรูไอดี ที่โกยเรตติ้งได้อย่างถล่มทลายอย่างที่คาดเดากันไว้ โดยนอกจากเนื้อหาของเรื่องจะสนุกสนานแล้ว นักแสดงนำและการลำดับเรื่องราวยังถูกพูดถึงหนักมากว่า ดีสุดๆ อีกด้วย โดยเรื่องนี้ได้หนุ่มหล่อมากความสามารถ เต ตะวัน วิหครัตน์ มาประกอบคู่กับสาว มะปราง อลิสา และสมทบด้วยนักแสดงมากมาย งานนี้เรียกว่าปังเบอร์นี้ yimyim เลยพลาดไม่ได้เลย จึงไปคว้าตัวทั้งสองคนมาเล่าถึงการทำงานในเรื่องนี้กัน บอกเลยว่าฮากระจายแน่นอนจ้า
ทักทายแฟนๆ สักหน่อย
เต : สวัสดีครับ ผม เต ตะวัน ครับ
มะปราง : มะปราง อลิสา ค่ะ (ยิ้ม)
อย่างเป็นทางการกับทั้งคู่เลย
เต : เหรอครับ งั้นก็สวัสดีครับ ผม เต ตะวัน วิหครัตน์ นะครับ เกิดวันที่วันเสาร์ที่ 20 กรกฎาคม 2534 กรุ๊ปเลือดบีครับ งานอดิเรกที่ชอบถ่ายภาพ สีที่ชอบสีเขียวแก่นะครับ อาหารที่กินแกงเหลือง และลาบปลาร้าปลาดุก สวัสดีอย่างเป็นทางการนะครับ (ยิ้ม)
มะปราง : สวัสดีค่ะ มะปรางเองค่ะ เกิดวันศุกร์ 13 ค่ะ เดือนสิงหา แล้วกรุ๊ปเลือด AB (ยิ้ม)
ความสนุกของเรื่องนี้ ดูตลกเฮฮาตั้งแต่แนะนำตัวแล้ว ในเรื่องก็สนุกแบบนี้ใช่ไหม
มะปราง : ใช่ แต่ส่วนใหญ่ก็สนุกเกินไปมากค่ะ 555 มันเป็นคอมเมดี้แบบว่าเบาสมอง แต่ว่าเนื้อหาก็จะมีความสุขสนุกซับซ้อน
จริงๆ ทั้งสองท่านเคยโคจรมาเจอกันก่อนมั้ย
มะปราง : จริงๆ ซีรีส์เราก็ครบรสเลยนะคะ (หัวเราะ) ก็คือเปิดต้นปีมาเนี่ย ก็อยากให้ดูอะไรที่มันเบาสมอง แล้วก็สนุกด้วย แล้วก็เริ่มต้นด้วยความรักมาเติมเต็มหัวใจหวานๆ และเอาจริงๆ ก็เคยร่วมงานกันมาแล้ว แต่ตอนนั้นก็ร่วมงานกับแบบจะเป็นเกี่ยวกับเรื่องราวสยองขวัญ เป็นผีกับคน แล้วพี่ก็จะตามมาเอาชีวิตเรา แต่ตอนนี้คือมากันในโหมดหวานมาก ตอนนั้นคือ 8 โมงเช้า ก็ยังคลานกันอยู่ แล้วก็มีการบีบคอกันด้วย แต่ว่าเรื่องนี้ก็คือสลัดออกไปแล้ว ก็มาอยู่ในโหมดปกติ เรื่องที่แล้วเอาชีวิต เรื่องนี้เอาใจ (หัวเราะ)
คาแรกเตอร์ในเรื่องเป็นยังไง
เต : เป็นอย่างงี้แหละครับ ในเรื่องก็เป็นอย่างงี้ แล้วมะปรางมีความใกล้เคียงมั้ย
มะปราง : เอาจริงๆ ไม่ค่อยใกล้เคียงเพราะตัวจริงหนูเป็นคนจริงจัง เครียดมันเครียด แต่ว่าพุดน้ำบุษย์เป็นคนเอนเนอร์จี้เยอะ ร่าเริง แล้วพุดน้ำบุษย์เนี่ย ก็จะเป็นพนักงานบริษัทออฟฟิศของคุณปีค่ะ ก็คือบริษัท tanman แล้วก็จะเป็นคนที่แอบชอบเจ้านายเรา เหมือนเขาทำงานเก่ง แล้วเราก็มีความฝันที่อยากจะทำให้ได้เท่าเจ้านายเรา ก็เลยเหมือนแบบแอบชอบอะไรแบบนี้ แต่อยู่มาวันหนึ่ง เขาก็เปลี่ยนไปเป็นคนละคน จากคนขรึมๆ แต่กลับมาอ่อนโยนกับเรา แล้วก็มาดูแลใส่ใจเรา จนทำให้เราหวั่นไหวนั่นเอง แต่หารู้ไม่ คนนั้นไม่ใช่คุณปี โอ้โหก็คือเล่าหมดเลยนะคะ (หัวเราะ)
งั้นขอถามพี่เตนะคะ เล่นเป็นสองคนเลย เรื่องนี้เล่นยากมั้ย
เต : ก็แตกต่างกันค่อนข้างมากนะครับ ก็คนหนึ่งเล่นเป็นคุณปี เป็นประธานบริษัท เป็นผู้รากมากดี เป็นนักธุรกิจหนุ่มจากเมืองนอก ไฟแรงจริงจังกับชีวิต ไม่สนใจอะไรเลยนอกจากความสำเร็จของชีวิต คุณปีเนี่ย ก็สร้างธุรกิจหนึ่งขึ้นมานะครับ ชื่อว่า tanman ก็เป็นบริษัทที่เหมือนดิลิเวอรี่นะครับ แต่ว่าเป็นบริษัทที่รับทำแทนได้ทุกอย่าง เป็นเกี่ยวกับการบริการใคร อยากให้ทำอะไรแทน ทำให้ได้หมดเลย
มะปราง : ทำร้ายจิตใจก็รับ ให้บอกเลิกคนก็รับ
เต : แบบอย่างวันนี้ไม่ว่าง ไม่อยากไปตามนัดแล้ว ไม่อยากบอกเพื่อน ก็จ้าง tanman ไปบอกก็ได้ ถ้าไม่อยากบอกเพื่อนเอง ก็คือทำได้ทุกอย่าง ก็คือบริษัทดูแลทุกอย่างเลย
แสดงว่าเรื่องนี้พี่เตก็ได้เล่นบทแตกต่างกันเยอะมากเลยใช่มั้ยคะ แล้วแตกต่างกันยังไงเอ่ย
เต : ก็คือถ้าเป็นตัวคุณปีนะครับ ก็อย่างที่บอกไป ถ้าเปรียบเป็นสีเงี้ย ผมจะเปรียบคุณปีเป็นแบบสีแดงเลือดหมู มีความสุขุม แต่ถ้าเป็นคุณต้นบุญเนี่ย ก็จะมีความแบบออกสีเหลืองมัสตาร์ดละกัน คือเรียกได้ว่าก็ไม่ได้สดใสเหลืองมากละกัน เพราะชีวิตเขาก็มีแบบความระทมในใจ เขามีความลำบากมา แต่ว่าในความลำบากเนี่ย คือเนื้อแท้เขา เป็นคนที่สดใสแล้วก็ให้พลังบวกคน เป็นคนที่อุทิศตัวเองให้งานให้กับทุกคน เป็นคนที่อบอุ่น ส่วนคุณปี ด้วยความที่คุณปีเขาเป็นเจ้านายกับลูกน้องอะครับ คุณปีเขาก็เลยเลือกที่จะเลี่ยงการแสดงความรู้สึกออกมา เป็นคนที่ไม่แสดงความรักจะแข็งๆ หน่อย จะเหมือนเสาหินอ่อนที่แบบดูหรูหรา ดูไม่ได้ มอบความอบอุ่นขนาดนั้น แต่คุณต้นบุญนี่จะแบบเป็นไม้ จะอบอุ่นๆ
อย่างพี่เตยากมั้ยคะ ต้องเปลี่ยนเป็นสองคาแรกเตอร์เลย
เต : ก็ค่อนข้างยากครับ ก็ยากแหละ เพราะเราต้องทำให้ชัดเจนครับ เพราะหน้าเราแบบมันเหมือนกันอะ เลยต้องแสดงออกให้แบบชัดเจนที่สุด อย่างคุณต้นบุญที่หน้าเหมือนปีอย่างเงี้ย เราก็ต้องเป็นต้นบุญที่พยายามจะเป็นคุณปี มันก็เลยจะต้องแบบเหมือน แต่ก็ต้องห้ามเหมือนร้อย ต้องเหลือๆ ไว้บ้าง
มีฉากที่ชอบกันมั้ย
มะปราง : หนูชอบซีนที่ไปทะเล เพราะว่าได้เปลี่ยนบรรยากาศด้วยแล้ว ก็มีฉากมีซีนน่ารักๆ ในซีรีส์อีก บอกไม่ได้พูดแค่นี้พอ
เต : จริงๆ นี่ก็ชอบซีนทะเล แต่มีซีนที่ชอบอีกซีนหนึ่ง คือซีนที่กินอาหารอีสาน เหมือนเป็นฟิลเจ้านายลูกน้องกันแล้ว เราก็พาไปกินอาหารข้างทาง ซึ่งเขาก็จะรู้สึกแบบ เอ้ย เขาเป็นคนแบบนี้หรอ เอาจริงๆ เรื่องนี้ เนื้อเรื่องมันไม่ได้ง่ายขนาดนั้น มันไม่ใช่แค่ว่าโอ๊ย ก็แค่เลือกคนที่ชอบชีวิต ฉันก็รวยมีความสุขจบ มันไม่ใช่ง่ายๆ แบบนั้น หรือแบบเลือกคนรวยสิ มันง่ายๆ สบายๆ มันไม่ใช่แบบนั้น เรื่องมันแบบเล่นกับใจเรามากกว่านั้นครับ
แฟนๆ ฝากถามมาว่า ชอบคนไหนมากกว่ากัน ระหว่างคุณปีกับคุณต้นบุญ
เต : จริงๆ ก็ชอบทั้งสองคนเลยครับ แต่ถ้าเอาจริงๆ ก็ชอบคุณต้นบุญที่บ้านเขาสนุก เป็นต้นบุญคือสบายตัว ก็คือจะมีคนรอบตัวที่น่ารักเช่นแม่เม้า เป็นคุณยายที่รักมากๆ แล้วก็พี่ชมพู่ พี่ตี๋ ก็จะมีความสนุกสนานเฮฮาบ้านๆ เป็นแบบลูกทุ่งหน่อยอะไรแบบนี้ คือถ้าเป็นต้นบุญก็จะได้เจอแบบเนี้ย แล้วก็จะมีน้องสาวเซียเซีย ที่มีความเป็นน้องสาวสูงมาก แต่พอไปเป็นฟิลคุณปี ก็จะรู้สึกเชิดๆ หน่อย ด้วยความเป็นผู้บริหาร ก็จะรู้สึกเดินไปไหน ก็จะมีแต่คนก้มหัวให้ ด้วยความเราไม่เคยอะเนอะ
ถ้าสมมุติมี tanman ได้หนึ่งคนอะค่ะ อยากจะใช้ไปทำอะไรในหนึ่งภารกิจ
มะปราง : อยากให้ไปขับรถแทน เพราะเหมือนเราอยากลองเปลี่ยนเป็นผู้โดยสารบ้าง ตอนนี้เราขับเองไง ตอนนี้เราอยากเป็นคนนั่งบ้าง ทางพี่เตล่ะคะ
เต : นึกไม่ออกเลยครับ งั้นเอาแบบนี้ละกัน จ้าง tanman มานั่งข้างๆ แล้วผมก็ขับรถ เพราะไม่ค่อยมีคนกล้านั่งตอนผมขับรถเอามาเป็นเพื่อนแก้เหงา เอาจริงๆ tanman ก็เอามาเป็นเพื่อนแก้เหงาได้เหมือนกันนะ เป็นแบบเออมากินข้าวเป็นเพื่อน เที่ยวเป็นเพื่อน เลยจ้างมานั่งฟังเพลงด้วยกัน ฝากเพลงด้วยนะครับ ชื่อเพลง พร้อมทำแทนได้ทุกอย่างนะครับ
ข้อคิดที่ได้จากตัวละครที่แสดงคืออะไร
เต : สำหรับผมคิดว่าที่ได้จากคุณปีเนี่ย จะเป็นเรื่องความอบอุ่นหรือความสัมพันธ์รอบๆ ตัวเนี่ย เป็นเรื่องที่ซื้อกันไม่ได้ หรือแบบเหมือนใจอะ ถ้าเราไม่พร้อมที่จะให้เขาไปก่อน เราก็จะไม่ได้คืน
มะปราง : สำหรับพุดน้ำบุษย์ ก็จะเป็นแบบทำตามใจตัวเอง เดี๋ยวนี้คนเราก็จะมีเงื่อนไขในชีวิตเยอะ ว่าจะเลือกคนที่รูปร่างหน้าตา ฐานะหรืออะไรดี แต่ว่าพุดน้ำบุษย์เนี่ย ก็จะเป็นตัวแทนของคนที่แบบทำตามหัวใจว่า แบบมันเป็นยังไง ชีวิตจะสุขแค่ไหนค่ะ
แหม..เต็มอิ่มมากๆ กับ 2 นักแสดงนำจากเรื่องนี้ ยังไงใครที่ดูแล้วก็สามารถไปดูย้อนหลังได้ หรือใครยังไม่เคยดู ก็เปิดใจดูเถอะจ้า บอกเลยฮาและดีต่อใจ ได้ข้อคิดด้วย ฟันธง
คอลัมน์ “1 Day With ซุปตาร์”
โดย “yimyim”
