พรรคร่วมฝ่ายค้านได้ยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม กับรัฐมนตรีอื่น ๆ อีก 5 คน
โดยเฉพาะ พล.อ.ประยุทธ์นั้น ฝ่ายค้านขึ้นบัญชีจัดหนัก! ว่าเป็นบุคคลที่ไร้ภูมิปัญญา ไร้องค์ความรู้ ไร้จิตสำนึกรับผิดชอบ ไร้คุณธรรมจริยธรรม ไร้ความสามารถเป็นหัวหน้ารัฐบาล ผู้นำประเทศ ทำให้การบริหารราชการแผ่นดินล้มเหลว ผิดพลาดบกพร่องเสียหายร้ายแรงทุกด้าน ทั้งด้านการเมือง เศรษฐกิจและสังคม
ทั้งในภาวะปกติและภาวะวิกฤติโควิด-19 พล.อ.ประยุทธ์ได้รวมศูนย์อำนาจแบบเบ็ดเสร็จ แต่กลับปฏิบัติและละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบและไม่สุจริต มีพฤติการณ์ฉ้อฉลทุจริตต่อหน้าที่ จงใจใช้อำนาจหน้าที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ กฎหมาย มติคณะรัฐมนตรี (ครม.) รวมทั้งค้าความตาย เหิมเกริม และมีข้อสั่งการของตนในลักษณะ “กลืนน้ำลาย” ตัวเอง
ใครอ่านข้อกล่าวหาของฝ่ายค้านที่มีต่อ พล.อ.ประยุทธ์จะว่าแรง! ก็แรงจริง ๆ เนื่องจากสภาพปัญหาบ้านเมืองที่เผชิญอยู่ขณะนี้ ถ้าจะอภิปรายไม่ไว้วางใจ พล.อ.ประยุทธ์ด้วยเหตุผลนุ่มนิ่ม หน่อมแน้ม! พรรคฝ่ายค้านจะเสียรังวัดเปล่า ๆ
“พยัคฆ์น้อย” สะดุดกับมุมมองของฝ่ายค้านที่ว่า “กลืนน้ำลาย” ตัวเอง เพราะในพรรคร่วมรัฐบาลมีคนถนัดกลืนน้ำลายตัวเองกันอยู่หลายคน ไล่มาตั้งแต่ พล.อ.ประยุทธ์เคยบอกว่าจะไม่ทำรัฐประหาร แต่ก็ทำ!
เมื่อทำรัฐประหารปี 57 ก็ปล่อยเพลงคืนความสุขให้ประเทศไทย เพลงเราจะทำตามสัญญา ขอเวลาอีกไม่นาน แต่กลับนั่งบริหารประเทศมา 5 ปี กว่าจะปล่อยให้มีการเลือกตั้ง
ส่วนหัวหน้าพรรคการเมืองอีกคนประกาศตอนหาเสียงว่าไม่ร่วมทางกับพรรคทหาร จะไม่ร่วมสังฆกรรมกับการให้ ส.ว.แต่งตั้งมาโหวตเลือกนายกฯ แต่หลังเลือกตั้งเดือน มี.ค.62 กลับกลืนน้ำลายของตัวเองหมดสิ้น
ตอนแรก รมว.สาธารณสุข บอกว่าไวรัสโควิด-19 เป็นแค่ไข้หวัดธรรมดา กระจอก ๆ แต่สุดท้ายมันไม่กระจอก เนื่องจากมียอดผู้ป่วยโควิดสะสมทะลุ 1 ล้านคนไปแล้ว เสียชีวิตสะสมอีกกว่า 1 หมื่นคน
เห็นประกาศว่าจะปูพรมฉีดวัคซีนทั่วประเทศตั้งแต่วันที่ 7 มิ.ย. 64 แต่ปรากฏว่าฉีดไปแค่ 3 วัน ยอดการฉีดค่อย ๆ ลดลง เพราะวัคซีนไม่พอ บางแห่งไม่มีวัคซีน ประชาชนที่ลงทะเบียนฉีดวัคซีนตามช่องทางต่าง ๆ ถูก “เท” กันทั่วประเทศ
ผู้คนต่างจังหวัดจำนวนไม่น้อยต้องซิกแซ็กหาช่องทาง เพื่อเข้ามาฉีดวัคซีนในกรุงเทพฯ เนื่องจากต่างจังหวัดได้รับการจัดสรรแต่วัคซีนที่ยังถกเถียงกันเรื่องประสิทธิภาพต่ำหรือไม่ เป็นส่วนใหญ่ ซึ่งคนต่างจังหวัดไม่ต้องการฉีดวัคซีนตัวนี้
ไทยจะเป็นชาติแรกในอาเซียนที่มีวัคซีนมากที่สุด เป็นเพียง “เฟคนิวส์” เพราะถ้าไม่มีวัคซีนทางเลือกที่คนไทยควักเงินจ่ายเอง ไม่มีวัคซีนบริจาคและวัคซีนขอยืมจากต่างประเทศ ช่วงเดือน ก.ค.-ส.ค. รัฐบาลคงไม่มีวัคซีนมาฉีดให้ประชาชน
ไม่ต้องพูดถึง “ราคาคุย” ว่าจะมีวัคซีนเต็มโรงพยาบาล เต็มแขนประชาชนช่วงเดือน ก.ค.-ก.ย. 64 แต่วัคซีนไปเต็ม 2 แขนซ้าย-ขวาในวันเดียวกันของคุณยายในบุรีรัมย์
17 ส.ค. 64 พล.อ.ประยุทธ์มีข้อสั่งการให้เร่งจัดหาชุดตรวจโควิดที่ผ่านการรับรองจาก อย. และ WHO แต่เมื่อ 24 ส.ค. 64 ได้เปลี่ยนข้อสั่งการใหม่ ไม่ต้องผ่านการรับรองจาก WHO ก็ได้! อย่างนี้เรียกว่า “กลืนน้ำลายตัวเอง” แล้วถ้าผลการตรวจออกมาผิด ๆ เพี้ยน ๆ จะไม่เสียหายหนักหรือ?
หรือว่าผลตรวจจะออกมาผิด ๆ เพี้ยน ๆ ตามที่แพทย์ชนบทวิตกกังวลก็ช่างมัน! แต่อย่าให้ “หนูทิ้งราชสีห์” ก็แล้วกัน!!.
——————–
พยัคฆ์น้อย