@@@@ เมืองใหญ่ที่สุดของออสเตรเลียกำลังเผชิญกับอุณหภูมิที่ร้อนขึ้นสำหรับการเริ่มต้นฤดูใบไม้ร่วง คาดการณ์ว่านครซิดนีย์จะมีอุณหภูมิสูงถึง 35°C ในวันจันทร์ ซึ่งหากถึงจะทำให้เป็นวันที่ร้อนที่สุดของเมืองในรอบ 2 ปี นับตั้งแต่วันที่ 26 มกราคม 2564

เมื่ออากาศร้อนจากภายในถูกผลักไปทางชายฝั่งตะวันออก อุณหภูมิจะยังคงสูงขึ้นในช่วงสุดสัปดาห์ก่อนที่จะพุ่งถึง 35°C ในวันจันทร์ อุณหภูมิจะอยู่ที่ประมาณ 26°C ในวันเสาร์ เนื่องจากฝนจะช่วยให้ความร้อนเบาลงก่อนที่จะเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเป็น 28°C ในวันอาทิตย์ โดยมีท้องฟ้าแจ่มใสเป็นส่วนใหญ่ Anthony Sharwood จาก Weatherzone กล่าวว่า “ซิดนีย์เพิ่งผ่านไป 331 วัน อุณหภูมิระหว่าง 30 องศา ซึ่งเป็นสถิติที่ยาวที่สุดเป็นอันดับสองในประวัติศาสตร์ ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องน่าแปลก 769 วัน อุณหภูมิอยู่ระหว่าง 35 ° C หรือสูงกว่าถ้น ถ้าหากวันจันทร์ถึงจุดนั้น “

ในพื้นที่ชายฝั่งทะเล วูลลองกองมีอุณหภูมิสูงถึง 34°C Nowra 35°C และ Bega 31°C และความร้อนจะแผ่ขยายไปทั่วรัฐนิวเซาท์เวลส์ โดยมีอุณหภูมิถึง 30 กลางๆ ถึงสูงแถวๆ Forbes ในวันเสาร์ และเข้าใกล้ 40°C ในวันจันทร์ ขณะที่กรมอุตุนิยมวิทยาเตือนชาวออสซี่ทางทวิตเตอร์ถึงอุณหภูมิที่ร้อนกว่าปกติ “อุณหภูมิสูงสุดจะสูงขึ้น 2-8°C เหนือค่าเฉลี่ยในรัฐเซาท์ออสเตรเลีย รัฐวิกตอเรีย รัฐแทสเมเนีย และรัฐนิวเซาท์เวลส์ในช่วงสุดสัปดาห์นี้ก่อนหน้าหนาวจะมาเยือน และจะลดลงตามหลังอีกครั้งในต้นสัปดาห์หน้า ฝนตก โปรยปราย พายุฝนฟ้าคะนอง และลมที่เป็นไปได้จะส่งผลกระทบต่อตะวันออกเฉียงใต้ของ ประเทศ ในวันอาทิตย์และวันจันทร์”

ส่วนที่อื่นๆ ทั่วประเทศ รัฐเวสเทิร์นออสเตรเลียจะเห็นแสงแดดและอุณหภูมิที่อบอุ่น โดยเพิร์ทคาดการณ์ว่าจะมีอุณหภูมิถึง 30°C ในวันเสาร์ และลดลงเหลือ 28°C ในวันอาทิตย์ ในทำนองเดียวกัน บริสเบนจะมีอุณหภูมิสูงถึง 30°C ในวันเสาร์ และลดลงเล็กน้อยจนถึง 29°C ในวันอาทิตย์ โดยมีท้องฟ้าแจ่มใสตลอดสุดสัปดาห์ ร่องมรสุมและที่ราบต่ำในเขตร้อนจะยังคงมีฝนตกหนัก พายุ และลมกรรโชกแรงทั่วภูมิภาค

ประเทศออสเตรเลียกำลังเผชิญกับอุณหภูมิที่ร้อนขึ้นสำหรับการเริ่มต้นฤดูใบไม้ร่วง คาดการณ์ว่านครซิดนีย์จะมีอุณหภูมิสูงถึง 35°C ในวันจันทร์ ซึ่งหากถึงจะทำให้เป็นวันที่ร้อนที่สุดของเมืองในรอบ 2 ปี นับตั้งแต่วันที่ 26 มกราคม 2564

@@@@ เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2566 นางสาวอาจารี ศรีรัตนบัลล์ เอกอัครราชทูต ณ กรุงแคนเบอร์รา เป็นเจ้าภาพเลี้ยงรับรองอาหารกลางวันแก่คณะนักวิชาการจากสถาบันการศึกษาและวิจัยในกรุงแคนเบอร์รา เพื่อแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นเกี่ยวกับความสัมพันธ์ไทย-ออสเตรเลีย และมุมมองออสเตรเลียต่อสถานการณ์ต่างๆ ในภูมิภาค ประกอบด้วย Professor John Blaxland ประจำ Strategic and Defence Studies Centre, ANU, Dr. Greg Raymond ประจำ Coral Bell School of Asia Pacific Affairs, ANU และนาง Melissa Conley Tyler FAIIA, Executive Director, Asia-Pacific Development, Diplomacy & Defence Dialogue ที่ทำเนียบเอกอัครราชทูตฯ ทั้งนี้ คณะนักวิชาการดังกล่าวเคยเข้าร่วมการเสวนาใน Track 1.5 Dialogue to Strengthen the Relationship between Thailand and Australia เมื่อเดือนกันยายน 2565

เอกอัครราชทูต ณ กรุงแคนเบอร์รา เป็นเจ้าภาพเลี้ยงรับรองอาหารกลางวันแก่คณะนักวิชาการจากสถาบันการศึกษาและวิจัยในกรุงแคนเบอร์รา เพื่อแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็น และมุมมองออสเตรเลียต่อสถานการณ์ต่างๆ ในภูมิภาค เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2566

@@@@ ข่าวดีสำหรับชาว Newcastle และพื้นที่ใกล้เคียง บริการกงสุลสัญจร ณ เมือง Newcastle วันเสาร์ที่ 18 มีนาคม 2566

สถานกงสุลใหญ่ ณ นครซิดนีย์ จะให้บริการกงสุลสัญจรในวันหยุดราชการแก่ประชาชน ในวันเสาร์ที่ 18 มีนาคม 2566 เวลา 09.00-15.00 น. ณ ห้อง Ballroom สถานที่ โรงแรม Rydges Newcastle (Wharf Rd & Merewether St, Newcastle NSW 2300) ท่านที่ประสงค์จะเข้ารับบริการ โปรดกรอกแบบแสดงความประสงค์เข้ารับบริการที่ลิงค์ bit.ly/newcastle-consular เพื่อให้สถานกงสุลใหญ่ฯ ทราบจำนวน สำหรับเตรียมความพร้อมในการให้บริการท่านสามารถมาทำหนังสือเดินทาง บัตรประจำตัวประชาชน รับรองเอกสาร หนังสือยินยอม หนังสือมอบอำนาจ และปรึกษาปัญหาด้านกงสุลอื่น ๆ ทั้งนี้ กรุณาเตรียมเอกสาร และหลักฐานต่าง ๆ ให้ครบถ้วน (ตรวจสอบเอกสารประกอบคำร้องบริการได้ที่ sydney.thaiembassy.org) สำหรับกงสุลสัญจรชุมชนไทยในเมืองอื่นๆ “ในรัฐนิวเซาท์เวลส์” สถานกงสุลใหญ่ฯ จะแจ้งให้ทราบทาง Facebook และเว็บไซต์ต่อไป สำหรับชุมชนไทยในรัฐอื่น ๆ “นอกรัฐนิวเซาท์เวลส์” โปรดติดตามกำหนดการดำเนินโครงการกงสุลสัญจรของ สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงแคนเบอร์ราที่ https://m.facebook.com/557722827663746

@@@@ ลัทธิยาค์ มูลละ ประธานสมาคมไทยออสเตรเลียนแห่งรัฐควีนสแลนด์ TAAQ จัดฉายภาพยนตร์ “ทิดน้อย” รอบพิเศษการกุศล วันอาทิตย์ที่ 26 กุมภาพันธ์ 2023 ที่ผ่านมา ในงานเปิดตัว ภาพยนตร์ “ทิดน้อย” ในครั้งนี้ ได้มีผู้มาร่วมงาน และแต่งชุดไทยสวยงามมาชมภาพยนตร์ร่วม 200 คน โดยบรรยากาศในโรงภาพยนตร์ Event Cinemas Brisbane Myer Centre อบอวลไปด้วยความสุข สนุกสนาน ซึ่งนอกจากงานในครั้งนี้ จะเป็นการอุดหนุนภาพยนตร์ไทยแล้ว ยังสนับสนุนโครงการสอนภาษาไทย และวัฒนธรรมไทยของลูกหลานไทยในออสเตรเลียอีกด้วย

สำหรับไฮไลต์ในการแสดงดนตรีไทยนั้น ได้มีการบรรเลงวงอังกะลุง เพลง “Advance Australia Fair” เปิดงาน ซึ่งเป็นวงอังกะลุงวงแรกของประเทศออสเตรเลีย ภายใต้การสนับสนุนของสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงแคนเบอร์รา ที่ครูปลา พีรัญยา วิสิฐจันทรกูล ทุ่มเทในการสอนและการฝึกซ้อมมากเพื่องานนี้ ซึ่งมีผู้สนใจเข้าร่วมเป็นนักดนตรีทั้งเด็กๆ และผู้ปกครอง ด้วยใจรัก โดยที่หลายๆ คน ไม่เคยมีพื้นฐานทางดนตรีไทยมาก่อน แต่ก็สามารถบรรเลงร่วมกันเป็นเพลงที่ไพเราะ และได้รับการตอบรับที่ดีมากจากผู้ชมทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติ

เดลินิวส์ขอปรบมือให้ประธานสมาคมไทยออสเตรเลียนแห่งรัฐควีนสแลนด์ TAAQ และกรรมการทุกคน ที่ได้เปิดโอกาสให้วงอังกะลุง และวงขิมหมู่ ได้มีโอกาสมาทำการแสดงในงานเปิดตัว ภาพยนตร์ “ทิดน้อย” และสนับสนุนกิจกรรมการแสดงดนตรีไทยเพื่อสืบสานวัฒนธรรมไทยของเด็กไทยในต่างแดน เปิดโอกาสให้เด็กๆ ได้แสดงความสามารถพิเศษ มีความกล้าแสดงออก เรียนรู้การทำงานเป็นทีม และมีความสามัคคีผ่านการบรรเลงดนตรีไทย

ครูปลา พีรัญยา วิสิฐจันทรกูล ขอขอบพระคุณพี่ๆ ผู้ปกครองทุกท่าน สำหรับทุกความช่วยเหลือทั้งเบื้องหน้า เบื้องหลัง ร่วมแรง ร่วมใจ สามัคคี ช่วยเหลือเกื้อกูลกัน ทำให้งานสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี และขอกราบนมัสการขอบพระคุณท่านเจ้าคุณพระศรีพุทธิวิเทศ  ท่านเจ้าอาวาสวัดไทยพุทธาราม นครบริสเบน และคณะพระสงฆ์ ที่ได้เมตตาอำนวยความสะดวกเรื่องสถานที่ฝึกซ้อม และสถานที่เรียนดนตรีไทย ณ โรงเรียนสอนภาษาไทย วัฒนธรรมไทย นครบริสเบน วัดไทยพุทธาราม สมาคมไทยออสเตรเลียนแห่งรัฐควีนสแลนด์ TAAQ ขอขอบพระคุณ Diamond Organizer ผู้จัดคอนเสิร์ตและนำเข้าภาพยนตร์ไทยในออสเตรเลีย และผู้สนับสนุนทุกท่านที่ทำให้เกิดงานดีๆ น่ารัก อบอุ่น ส่งเสริมความดีงามของวัฒนธรรมไทยขึ้นในครั้งนี้ ติดตามผลงานของครูปลาและเด็กๆได้ที่ https://thaimusicaustralia.com/ Facebook: Brisbane Thai Music By Kru Pla

สมาคมไทยออสเตรเลียนแห่งรัฐควีนสแลนด์ TAAQ จัดฉายภาพยนตร์ “ทิดน้อย” รอบพิเศษการกุศล วันอาทิตย์ที่ 26 กุมภาพันธ์ 2023 ที่ผ่านมา ในงานเปิดตัว ภาพยนตร์ “ทิดน้อย” ในครั้งนี้ ได้มีผู้มาร่วมงาน และแต่งชุดไทยสวยงามมาชมภาพยนตร์ร่วม 200 คน

@@@@ เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2566 นางสาวอาจารี ศรีรัตนบัลล์ เอกอัครราชทูต ณ กรุงแคนเบอร์รา พบหารือกับนาย Reece Kershaw APM ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติออสเตรเลีย (Australia Federal Police Commissioner) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติออสเตรเลีย ทั้งสองฝ่ายยินดีกับความสัมพันธ์ระหว่างหน่วยงานตำรวจและบังคับใช้กฎหมายของไทยและออสเตรเลียที่มีความใกล้ชิด โดยแสดงความมุ่งมั่นที่จะส่งเสริมให้มีการสานต่อและต่อยอดความร่วมมือเพื่อรับมือกับประเด็นท้าทายต่างๆ ในภูมิภาค

เอกอัครราชทูต ณ กรุงแคนเบอร์รา พบหารือกับนาย Reece Kershaw APM ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติออสเตรเลีย (Australia Federal Police Commissioner) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อส่งเสริมให้มีการสานต่อและต่อยอดความร่วมมือ เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2566

@@@@ ข่าวจากนคร เพิร์ธ ออสเตรเลียตะวันตก โปรแกรมการสอนทำอาหารไทยของสมาคมภาษาและวัฒนธรรมไทยแห่งรัฐออสเตรเลียตะวันตก (Centre for Thai Language and Culture of WA Inc.) โดยการนำของครูอู๊ด เสาวรักษ์ ศรีสุขโข ที่ได้จัดขึ้นเป็นครั้งแรก เมื่อ 25 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ที่ Hillview Intercultural Community Centre

เอ่ยชื่อว่าอาหารไทยแล้ว  ไม่มีใครไม่รู้จัก….เราไม่เคยน้อยหน้าใครเลย ….โด่งดังไปไกลแสน ถูกปากถูกใจใครต่อใครทั้งนั้น และนี่ก็เป็นกิจกรรมแรกของปีนี้เลย ที่สมาคมฯเปิดสอนทำอาหารไทย มีคนลงทะเบียนเรียนมากมาย บางคนมาไกลมาก….จากแมนดูร่า การสอนในวันนั้นก็เป็นแบบทฤษฏีและปฎิบัติผสมผสานกันไป  นักเรียนทุกคนมีส่วนร่วมในการทำแกงเขียวหวานไก่ เรียกว่าเริ่มจากหั่นไก่ เด็ดใบโหระพาเป็นต้น …สนุกสนานกัน ทีมเวิร์คที่ครูอู๊ดจัดให้เขาเยี่ยมยอด…หลังจากทำแกงเขียวหวานและยำวุ้นเส้นเสร็จ ทั้งครูทั้งนักเรียนก็ร่วมรับประทานอาหารด้วยกัน

ครูอู๊ดก็ได้เชิญทีมรำไทยทุกภาค (Thai Dance Studio Perth) ของสมาคมฯมาแสดงรำให้นักเรียนได้ชมในระหว่างทานข้าวไปด้วย ปรบมือให้เลย เรียกได้ว่าสมาคมฯได้นำเสนอวัฒนธรรมไทยแบบยกกำลังสองในวันนั้นเลย เริ่มจากอาหารไทย และก็ตามมาด้วยรำไทย สมาคมฯ ขอขอบคุณนางรำทุกคนเลย น้องนกกี้ น้องพลอย น้องแพร หนูแคท และหนูแม็ค ที่รำได้สวยงาม และขอขอบคุณผู้ช่วยของครูอู๊ดทุกคน น้องน้ำค้าง พี่ก้อย และน้องเปิ้ล ที่ช่วยให้งานเดินหน้าอย่างมีประสิทธิภาพ รวดเร็ว ทันใจ ขอขอบคุณ Hillview Hub, City of Canning and LotteryWest ที่ให้การสนับสนุนกิจกรรมนี้ เป็นอย่างดี คอยติดตามรายการสอนในรอบต่อไป ข่าวว่านักเรียนรอบต่อไปเต็มแล้ว ……………… It was a great day for all.

สมาคมภาษาและวัฒนธรรมไทยแห่งรัฐออสเตรเลียตะวันตก (Centre for Thai Language and Culture of WA Inc.) จัดโปรแกรมการสอนทำอาหารไทยของโดยการนำของครูอู๊ด เสาวรักษ์ ศรีสุขโข ที่ได้จัดขึ้นเป็นครั้งแรก เมื่อ 25 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา

@@@@ เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2566 นางสาวอาจารี ศรีรัตนบัลล์ เอกอัครราชทูต ณ กรุงแคนเบอร์รา ได้พบหารือกับนางสาว Lucienne Manton, Ambassador to Counter Modern Slavery, People Smuggling and Human Trafficking ที่กระทรวงการต่างประเทศออสเตรเลีย โดยทั้งสองฝ่ายได้แลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นเกี่ยวกับภารกิจด้านการต่อต้านการค้ามนุษย์และการลักลอบขนผู้โยกย้ายถิ่นฐานแบบไม่ปกติ รวมถึงแนวทางขับเคลื่อนความร่วมมือในด้านดังกล่าวทั้งในกรอบทวิภาคีและพหุภาคี รวมถึงภายใต้กระบวนการบาหลี (Bali Process)

เอกอัครราชทูต ณ กรุงแคนเบอร์รา ได้พบหารือกับ นางสาว Lucienne Manton, Ambassador to Counter Modern Slavery, People Smuggling and Human Trafficking ที่กระทรวงการต่างประเทศออสเตรเลีย เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2566

@@@@ ฉบับนี้เดลินิวส์ขอนำเสนอชีวิตสาวนักสู้ที่ทำธุรกิจทำความสะอาด Cleaning service และสามีที่มีธุรกิจงาน Gutters และซ่อมบำรุงรักษา Solar panels แต่กว่าจะมาถึงวันนี้ เธอก็ต่อสู้มามากตั้งแต่กรุงเทพจนถึงกรุงแคนเบอร์รา ประเทศออสเตรเลีย กิ๊บ ฐาปนี บุญประเสริฐ เล่าให้ฟังว่า “ย้อนคิดถึงความหลังกว่าเราจะมีวันนี้ก็ลำบากกันมามากคะ ร้านอาหาร ล้างจาน งานฟาร์ม ทำมาหมดแล้วคะ วันนี้เราลบคำสบประมาทได้ ที่เคยมีคนคิดว่าเรามาทำงานที่นี่จะผิดกฎหมายรึเปล่า เราพิสูจน์แล้วว่าถ้าเราเป็นคนดี ขยัน ตั้งใจทำงาน หนักเอาเบาสู้ ใฝ่ดี เราก็จะประสบความสำเร็จได้คะ กิ๊บเรียนจบโรงเรียนหลักสูตรภาษาอังกฤษ St.Theresa  และต่อมหาวิทยาลัยรามคำแหงภาคอินเตอร์ Ramkhamhang institute of international studies (RIS) และมาเรียนจบ Advanced diploma ที่ Sydney สาขาบริหารการจัดการ พี่อ๋อย ไพโรจน์ อ่ำหลี สามีจบวิศวะลาดกระบังสาขาอิเล็กทรอนิกส์คะ”

เธอเริ่มทบทวนความหลังถึงสาเหตุต้องย้ายถิ่นานมาปักหลักสู้ชีวิตที่ออสเตรเลีย เธอว่า “ก่อนจะมาออสเตรเลีย กิ๊บมีกิจการส่วนตัวขายกระเป๋าแบรนด์เนมที่ทองหล่อ ส่วนพี่อ๋อยเป็นวิศวะทำงานบริษัทคะ ธุรกิจกิ๊บไปได้ดีมาก มีลูกค้าดังๆมากมาย วันหนึ่งกิจการของกิ๊บมีปัญหา ตอนแรกกิ๊บตัดสินใจจะไปอเมริกาเพราะเราเคยไปเรียนไปทำงานที่นั่น แต่ลูกค้าประจำท่านหนึ่งของร้าน ชื่อพี่อ๊อฟ ทุกวันนี้ยังรู้สึกขอบพระคุณพี่อ๊อฟมาตลอด จำได้เลยพี่อ๊อฟแปลกใจว่าทำไมเราจึงปิดกิจการ เพราะพี่อ๊อฟเป็นลูกค้าประจำ ซื้อกระเป๋าร้านเราครั้งละหลายแสน รวมทั้งเราก็มีลูกค้าประจำท่านอื่นๆ หลายท่าน ร้านเราก็อยู่ใจกลางเมือง แต่เมื่อถึงวันที่เรายอมรับว่าเราบริหารผิดพลาด จนมีหนี้สินหลักล้านแล้วเราแจ้งลูกค้าให้ทราบ พี่อ๊อฟเลยถามว่าสนใจอยากไปออสเตรเลียมั้ย พี่มีเพื่อนเปิดร้านอาหารอยู่ออสเตรเลียชื่อพี่เชอรี่ เมื่อได้คุยกับพี่เชอรี่ พอพี่เชอรี่ทราบว่าภาษาเราดี และมีประสบการณ์พี่เชอรี่เลยทาบทามมาเป็นผู้จัดการร้านอาหารไทยชื่อร้านZenyai ที่ Canberra คะ กิ๊บเลยตัดสินใจมาออสเตรเลีย จำได้เลยว่าตอนนั้นมีทั้งแรงสนับสนุน และแรงคัดค้านที่สบประมาทว่าเราจะไปทำสิ่งผิดกฏหมายหรือเปล่า การไปทำงานต่างประเทศมันเป็นไปได้หรือเปล่า แต่เราก็ตัดสินใจเด็ดขาดว่ามา ตรงนี้ต้องกราบขอบพระคุณพี่เชอรี่ที่ให้โอกาสรวมทั้งขอบพระคุณพี่นัท Great study Sydney ที่ช่วยดูแลเรื่องวีซ่าและให้คำปรึกษาในช่วงเริ่มใช้ชีวิตที่ออสเตรเลียคะตอนนั้นกิ๊บแจ้งพี่เชอรี่เลยคะว่ าอยากทำงาน 7 วัน7 คืนพี่เชอรี่ถามว่าถ้าทำได้พี่ก็ให้ทำ เราก็ตั้งใจทำงาน ช่วยพี่เชอรี่ดูแลร้านอย่างเต็มความสามารถ พี่อ๋อยไม่เคยเข้าครัวเลยทั้งชีวิต ก็มาฝึกฝนจนเป็นที่นี่แหละคะ จำได้ว่ามีผู้ใหญ่คนไทยในแคนเบอร์ราถามติดตลกกิ๊บกับพี่อ๋อยว่า เอาเวลาที่ไหนซักผ้า เราก็ตอบไปว่าซักตอนกลางคืนตากทิ้งไว้เช้ามาไปทำงานต่อคะ ทำงานทุกวัน ตั้งแต่สิบโมงเช้าจนเกือบเที่ยงคืนอยู่ 2 ปี ก็ปลดหนี้ได้ ปลดได้จริงๆนะคะ”

เมื่อปลดหนี้ได้หมด เธอและสามีก็เริ่มสบายตัว และพบจุดเปลี่ยนสำคัญในชีวิตของเธอและสามี จุดที่ทำให้ได้ Permanent Residen เธอเล่าต่อว่า “กิ๊บเป็นผจก.ร้านพี่เชอรี่ได้ 2 ปี ร้านของพี่เชอรี่ก็ปิดปรับปรุงคะ ตอนนั้นเลยได้มาทำร้าน Pancake Parlour Canberra  (ก่อนจะเปลี่ยนชื่อมาเป็น Capital Pancakes) ซึ่งคนที่ชักชวนมาทำ คือ ลูกชายเจ้าของร้าน Jefferson Barton เขาเคยมาร้าน Zenyai แล้วเห็นเราทำงานเลยทาบทามเรามาทำร้านเขาคะ ซึ่งเป็นร้านดังของ Canberra เปิดมาเกือบ 40 ปี ถ้าชาวซิดนีย์ก็น่าจะรู้จัก Pancake on the Rocks ร้านPancake Parlour ก็คือต้นตำหรับคะ มีหลายสาขาใน Melbourne พอกิ๊บได้ทำงานที่ Pancake parlour โชคชะตาได้พาให้กิ๊บได้ฝึกงานกับ Philip Barton คะ Philip คือ ผู้ร่วมก่อตั้ง Pancake Parlour ปัจจุบันอายุ 77ปี ซึ่งจริงๆ ตอนนั้น Philip เกษียณจากร้านไปอยู่เบื้องหลังนานแล้วคะ เพราะPhilip เองก็ทำธุรกิจ เขียนหนังสือตีพิมพ์ และเป็น President ของ Gold standard institute จึงเรียกได้ว่าเป็นโชคชะตาที่ Philip มาดูแลร้านอีกครั้งและได้ฝึกงานกิ๊บคะ

ระหว่างที่กิ๊บทำงานที่ Pancake parlour กิ๊บรักร้านนี้มาก ร้านนี้มีมนต์ขลังคะ ถ้าใครเคยไปจะทราบดีคะ ร้านแต่งภายในด้วยไม้ทั้งร้าน กลางร้านมีโต๊ะ Chess ไม้ใหญ่ๆ หน้าร้านมีเครื่อง Pancake stamper ที่พอใครเดินผ่านสมัยก่อนจะขยับได้คะ ด้านในก็จะมีรูปภาพที่มีคาแรคเตอร์ เพลงในร้านที่เปิดก็เพลงที่เราชอบ (กิ๊บชอบฟังเพลงเก่าอยู่แล้วคะ) บรรยากาศในร้าน ผู้คน เราหลงรักร้านตั้งแต่วันแรกที่เราทำงาน มันไม่ใช่แค่ร้านอาหาร แต่มันคือจิตวิญญาณของ Canberraชาว Canberra เติบโตมากับที่นี่ค่ะ ร้านนี้เป็นร้านดังก็จริง แต่ช่วงก่อนที่ Philip จะกลับมา และก่อนที่กิ๊บจะมาเริ่มทำงาน มันค่อนข้างทรุดโทรม ไม่มีการทำการตลาด แต่พอ Philip กลับมา พอเราทุกคนช่วยกันทำการตลาดเริ่มทำ Facebook ทำ Instagram ทำ Prints ads (กิ๊บทำเองหมดค่ะ แรงบันดาลใจจากสไตล์ของร้าน จะเป็นแนวvintage แบบแทรกอารมณ์ขันคะ) ร้านก็กลับมามีชีวิตชีวาใหม่ แล้ววันสำคัญวันหนึ่งในชีวิตกิ๊บก็มาถึงคะ วันนั้นกิ๊บตั้งใจทำงานเหมือนกับทุกวัน Philip เองก็ถามไถ่สารทุกข์สุขดิบตามปกติ Philip ถามว่า ทำไมเธอทำงานเยอะจัง กิ๊บก็เล่าความจริงไปว่า อยากจะสมัคร PR โดยจะจ่ายเงินให้ร้านอาหารไทยที่รู้จักให้ทำ Sponsor ให้โดยต้องใช้เงินประมาณ $25,000 พอเล่าให้ Philip ฟังก็งงคะ ที่เราต้องจ่ายเงินจ้างนายจ้างให้จ้างเราและเราต้องทำงานให้เขา Philip เลยถามว่าทำไมไม่ให้เขาทำให้อย่างถูกกฏหมาย เขาเองก็อยากให้กิ๊บทำงานประจำกับเขา เขายินดีทำสัญญาจ้าง กิ๊บถามเขาว่าแน่ใจหรือ เพราะการที่บริษัทจะ Sponsors Permanent Resident เขาต้องทำสัญญาจ้างเรา 4 ปี เขาต้องจ่ายเงินเดือนเราค่อนข้างสูง เขาต้องทำเอกสารมากมาย ซึ่งตรงนี้ Philip ก็รีบออกตัวคะว่า ยูจัดการนะ ไอไม่ชอบงานเอกสาร คือ เขาไว้ใจเรามากมาย เขาแค่เซ็นทุกอย่างที่เรายื่นให้ ในการเดินทางของเส้นทางการสอบ PR ถึงกิ๊บจะเรียนหลักสูตรภาษาอังกฤษมา แต่ก็ห่างเหินการสอบมานานคะ Philip ก็ช่วยตรวจ essay ที่กิ๊บเขียน เพื่อนร่วมงานทุกคนก็ support จนวันที่กิ๊บได้ทราบผลว่าเป็น PR ครอบครัวชาว Pancakes เราดีใจกันมากคะ ยังจำบรรยากาศวันนั้นได้ดี” …………………… เธอเล่าย้อนอดีตอย่างมีความสุข “แม้กระทั่งในวันสอบ Citizenship ตอนนั้นกิ๊บเพิ่งมีลูก ทารันลูกชายเพิ่ง 4 เดือน กิ๊บก็เอาลูกไปฝากไว้กับ Philip ที่ร้าน โดยมีเพื่อนสนิทที่รู้จักกันที่ร้าน มาช่วยดูลูกตอนเราไปสอบ เพราะเรามาอยู่ที่นี่ไม่มีญาติไม่มีใครคะ แต่ชาว Pancakes คือครอบครัวของเรา กิ๊บรัก Philip รักครอบครัวเขาทุกคน เพื่อนสนิทกิ๊บที่สุดตอนนี้ก็รู้จักกันที่นี่ ลูกชายลูกสะใภ้เขาก็เหมือนพี่ชายพี่สาวเรา ร้านนี้เป็นจุดเริ่มต้นของชีวิตที่ออสเตรเลียคะ แล้ววันหนึ่ง Philip ก็ชวนกิ๊บกับพี่อ๋อยเป็นหุ้นส่วนร้านคะ เรารู้คะว่า Philip รักเราในฐานะพนักงานที่ดีคนหนึ่งแต่ไม่นึกว่าเขาจะให้เราเป็นหุ้นส่วนธุรกิจด้วย เพราะ Philip เองเป็นคนรอบคอบและละเอียดมาก กิ๊บรู้สึกเป็นเกียรติมาก ตอนนั้น Philip ตั้งใจเกษียณ โดยให้ลูกชายทั้งสอง Jefferson และ Luca Barton รับช่วงต่อดูแลร่วมกับกิ๊บและพี่อ๋อยคะ ยังจำได้ว่า Philip กลัวว่าพวกเราจะตีกัน แล้วพวกเราก็ตีกันจริงๆ คะ  แต่เรารักกันนะคะ ทุกการถกเถียงจบด้วยการพัฒนาแก้ไขคะ

แต่ช่วงเวลาที่ทุกคนไม่เคยคิดว่าจะเกิดขึ้น โควิดมา ร้านเราฝืนอยู่กับสถานการณ์นั้นได้ระยะหนึ่ง แต่สุดท้ายเราก็ตัดสินใจปิด เพราะเรามีปัญหากับ Landlord ด้วยคะ ตอนนั้นกิ๊บกับพี่อ๋อยเคว้งอยู่สักพัก จนพี่อ๋อยได้ไปทำงานบริษัทช่างไฟ ติดตั้งไฟ ติดตั้งกล้องวงจรปิด ตอนนั้นกิ๊บเพิ่งมีลูกคะ เลยยังไม่ได้คิดว่าเราจะทำธุรกิจอะไรต่อไป มีโควิดมาก็ถือเป็นช่วงพักดูแลลูกพอดี จนกระทั่ง Jefferson (ลูกชาย Philip) และพี่จอยภรรยา ทาบทามให้มาช่วยกันทำธุรกิจทำความสะอาด ส่วนพี่อ๋อยก็เริ่มมาทำธุรกิจงาน Gutters และซ่อมบำรุงรักษาSolar panels ตอนนี้กิจการไปได้ดีคะ”

เธอซื้อบ้านของตัวเองที่ Canberra เมื่อเกือบ 2 ปีที่แล้ว บ้านเดี่ยว 3ห้องนอนมีพื้นที่เล็กๆ เป็นครอบครัวที่อบอุ่น สามีที่ดี ลูกที่น่ารัก เอเล่าต่อว่า “เราอยู่กันง่ายๆ ใช้ชีวิตธรรมดา สบายๆ ปลูกผักสวนครัวของไทย มะกรูดมะนาวตะไคร้ มีสนามเล็กๆ มีสวนเล็กๆ ชีวิตตอนนี้มีความสุขมาก รอบล้อมไปด้วยกัลยาณมิตร และคนดีๆ ที่แคนเบอร์รานี่อากาศดีอยู่ใกล้ธรรมชาติ สวัสดิการดี ทุกคนเคารพกันไม่ว่าจะทำงานอะไรทุกคนเท่าเทียมกัน ลูกชายใช้ชีวิตที่นี่มีความสุขมาก มีสนามเด็กเล่น มีพื้นที่ให้เด็กและผู้ใหญ่ได้ทำกิจกรรม ได้พักผ่อน ผู้คนก็น่ารักเป็นมิตร กิ๊บรักเมืองนี้มากเพราะไม่แออัดจนเกินไป อาจจะมีร้านอาหารน้อยกว่าใน ซิดนีย์และเมลเบิร์น แต่เราก็สามารถเดินทางไปเที่ยวที่นั่นได้ตลอดคะ (ห่าง Sydneyประมาณ 3 ชม)”

เธอเล่าทิ้งท้ายไว้ให้คุณผู้อ่านได้คิดอีกเรื่อง “อีกเรื่องคือที่ Canberra ค่อนข้างขาดแรงงาน เลยอยากชักชวนน้องๆ ที่สนใจอยากมาทำงานเก็บเงินที่แคนเบอร์ราคะ ที่นี่เหมาะจะทำงานเก็บเงิน เพราะไม่ใช่เมืองที่มีแสงสี สิ่งยั่วยุแบบเมืองอื่น และการแข่งขันน้อย เพราะคนไทยส่วนใหญ่อาจจะชอบไป Sydney ไป Melbourne คะ ที่สำคัญคือ รายได้ดีมาก และเป็นอิสระ ได้เป็นนายตัวเอง เพราะกิ๊บยกงานให้เลยคะ  Regular cleaning ทั้งบ้าน และ ออฟฟิศคะ ทุกวันนี้น้องๆ ก็รักดูแลงานให้กิ๊บดีคะ เพราะเราจ่ายค่อนข้างสูง เราอยากให้เค้าทำงานอย่างมีความสุขแล้วเขาจะได้ดูแลงานให้เราดี เราก็ได้ลูกค้าเพิ่มขึ้นไปเอง น้องๆ ก็ผูกพันกับลูกค้าด้วย เพราะทำประจำเหมือนผูกปิ่นโตกัน น้องบางคนมีลูก ช่วงปิดเทอมก็สามารถพาลูกมาทำงานได้ งานทำตั้งแต่ 9โมงเช้า ประมาณ 4โมงเย็นก็เลิกงานได้แล้วคะ ถ้าขยันอยากเพิ่มรายได้ น้องสามารถไปทำร้านอาหารตอนกลางคืนต่อได้เพราะงานร้านอาหารตอนกลางคืนเริ่มงานประมาณ 5โมงเย็นคะ เรื่องรายได้ ช่วงเทรน (ทุกคนต้องมาเทรนกับเราก่อนนะคะ ต่อให้มีประสบการณ์เพราะต้องให้ได้มาตรฐานของเรา รวมทั้งเราเน้นไม่ใช้สารเคมี ก็ต้องมาเทรนเรื่องการใช้ผลิตภัณฑ์ด้วยคะ) กิ๊บจ่ายที่ ชมละ $20-$25 พอผ่านเทรนได้ประมาณชมละ $30 ขึ้นไปเฉลี่ยแล้วทำได้วันละ $250-$300 ระยะเวลาเทรนขึ้นอยู่กับความสามารถของแต่ละบุคคล บางคนเรียนรู้ไว ทำงานดี เราก็ปล่อยงานให้เร็วคะ ระยะเวลาเฉลี่ยอยู่ที่ 2-3วีค เรายกอุปกรณ์ของใหม่ให้ยกชุด รวมทั้งเราดูแลลูกค้าให้ทุกอย่าง เราจัดตารางให้เต็มตามวันเวลาที่น้องทำได้คะ เฉลี่ยแล้วน้องๆ ทำรายได้อยู่ที่ $200-$300 ต่อวัน บางคนทำแค่งานเดียวก็พอแล้วคะ มีเวลาพักผ่อน บางคนมีลูกก็มีเวลาให้ลูกคะ แต่ถ้าอยากเก็บเงินก็มีเวลาไปทำงานกลางคืนต่อได้ด้วยคะ กิ๊บต้องการคนมีวีซ่าทำงานได้ถูกกฏหมาย เช่นนักเรียน หรือ Work holidays ยินดีแนะนำเอเจ้นที่ช่วยทำวีซ่า ยินดีให้คำปรึกษากับน้องๆ ที่เพิ่งมาเริ่มใช้ชีวิตที่ออสเตรเลีย เพราะเราเองก็ลำบากมาเยอะคะ เราได้รับโอกาสมาก็อยากส่งต่อโอกาส แต่ออกตัวก่อนว่ากิ๊บไม่มีส่วนได้ส่วนเสียกับเอเจ้นนะคะ แต่อยากแนะนำพี่นัท ที่เคยทำวีซ่าให้กิ๊บกับสามีตอนมาครั้งแรกเมื่อสิบกว่าปีก่อน พี่นัทนอกจากเก่งมาก ช่วยให้วีซ่าผ่านได้ ถ้ามีปัญหาก็หาวิธีแก้จุดที่จะไม่ผ่านให้ และอยู่ Sydney มานาน เป็นที่รู้จักคะ พี่นัทยังเป็นคนดี เป็นพี่ที่น่ารักของน้องๆ เลยเป็นเอเจ้นที่กิ๊บมั่นใจและอยากแนะนำให้ทุกคน สรุปคุณสมบัตินะคะ มีวีซ่าทำงานถูกกฏหมาย ขับรถได้ มีใบขับขี่ไทย หรือ ออสเตรเลีย ขยัน อดทน เพราะเป็นงานใช้แรงงาน ซื่อสัตย์ ต้องทำ Police checked ด้วยนะคะ มีความรับผิดชอบ ทัศนคติดี ขออายุไม่เกิน 45 ปีคะ หรือถ้าอายุมาก คิดว่าขยันทำงานดีก็ติดต่อมาเลยคะ”

ฐาปนี บุญประเสริฐ ทำธุรกิจทำความสะอาด Cleaning service และไพโรจน์ อ่ำหลี สามีที่มีธุรกิจงาน Gutters และซ่อมบำรุงรักษา Solar panels เคยอยู่วงการไฮโซ เปิดธุรกิจส่วนตัวขายกระเป๋าแบรนด์เนมให้ดารา นักร้อง นางแบบ คนมีฐานะดี ที่ทองหล่อ

ไตรภพ ซิดนีย์