คงมี “ผู้นำ” ประเทศประชาธิปไตยแห่งเดียวในโลกที่เจอสื่อมวลชนถามว่าจะ “ยุบสภา” เมื่อไหร่ แล้วออกอาการหงุดหงิด ฉุนเฉียว เฉไฉ อารมณ์เสีย รีบเดินหนีขึ้นทำเนียบรัฐบาลไปทันที

พยัคฆ์น้อย” ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องออกอาการแบบนั้น เพราะการยุบสภา เป็นกติกาธรรมดา ๆ ในระบอบประชาธิปไตย ไม่ใช่เรื่องเป็นเรื่องตาย ไม่ใช่ความลับสุดยอด หรือเป็นภัยต่อความมั่นคงตรงไหนเลย

ในทางตรงกันข้าม ถ้า พล.อ.ประยุทธ์ชัดเจนในวันยุบสภา บรรดาพรรคการเมือง ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้ง จะได้เตรียมพร้อม และวางไทม์ไลน์ถูกว่าควรจะทำอะไร เมื่อไหร่

ที่สำคัญยังเป็นภาพลักษณ์ที่ดีกับพล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งมาจากการรัฐประหาร แต่เมื่อถึงเวลาก็ไม่ลังเล ด้วยการประกาศไปเลยว่าจะยุบสภาวันไหน!

????????????????มาลาริน/ช่วยกันบริจาคช่วยน้ำท่วม พรุ่งนี้  ผ่านธ.กรุงไทยสาขาทำเนียบนะคะ ลุงตู่ออกทีวีพร้อม ครม. - Pantip

พล..ประยุทธ์อย่าลืม! ว่าทูตจากต่างประเทศเขารายงานให้ “ผู้นำ” ของเขาทราบหมดว่า พล..ประยุทธ์มีท่าที แสดงอาการอย่างไร เมื่อเจอคำถามที่ไม่เป็นพิษเป็นภัยกับใครเลย ว่าจะยุบสภาวันไหน

ตัดภาพกลับมาที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ตอนนี้แสดงบทบาทในฐานะนักการเมืองได้สมาร์ทกว่านายกฯประยุทธ์

วันก่อน พล.อ.ประวิตรร่อนจดหมายบอกว่า หลายคนเห็นว่าควรหยุด แล้วกลับไปใช้ชีวิตสบาย ๆ แต่เหตุผลที่ยังไม่หยุดคือความผูกพันกับคนที่ร่วมกันสร้างพรรคพลังประชารัฐขึ้นมา

กับเหตุผลสำคัญ คือทางออกของชาติบ้านเมือง ที่มีคนกลุ่มหนึ่งซึ่งมีบทบาทสูงต่อความเป็นไปของประเทศ หรือจะเรียกว่า “กลุ่มอีลีท” เป็นผู้มีอิทธิพลต่อการกำหนดความเป็นไปของประเทศ มองความเป็นมาและพฤติกรรมของนักการเมือง ด้วยความไม่เชื่อถือ ไม่เชื่อมั่น ลามไปสู่ความข้องใจในประชาธิปไตย และความรู้ความสามารถของประชาชน ในการเลือกนักการเมืองเข้ามาบริหารประเทศ

ความไม่เชื่อมั่นต่อนักการเมือง และการเลือกของประชาชนนั้น ทำให้ผู้มีบทบาทกำหนดความเป็นไปของประเทศเหล่านี้ เห็นดีเห็นงามกับการหยุดประชาธิปไตย เพื่อปฏิรูป หรือปฏิวัติกันใหม่

อ่านแค่นี้ก็รู้แล้วว่า พล.อ.ประวิตร มองทะลุมิติรากเหง้าปัญหาการเมืองไทยก่อนรัฐประหารปี 49 ด้วยซ้ำไป แล้วก็เข้าใจโลก เข้าใจในความเปลี่ยนแปลงมากขึ้น

ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ ย้ายจากพรรคพลังประชารัฐ ไปอยู่พรรครวมไทยสร้างชาติ เพิ่งอวดสโลแกนใหม่อย่างฮึกเหิมว่า “ทำแล้ว ทำอยู่ ทำต่อ” แต่หงุดหงิด ฉุนเฉียว เฉไฉทุกครั้ง เมื่อถูกถามเรื่องวันยุบสภา เหตุผลที่หงุดหงิด ฉุนเฉียว น่าจะเป็นเพราะกลัวการเลือกตั้ง ถ้าเลือกตั้งก็กลัวว่าจะได้ ส.ส. ไม่ถึง 25 คน

อาจเป็นรูปภาพของ 3 คน, ผู้คนกำลังยืน และ สถานที่ในร่ม

ก็อยู่มากว่า 8 ปี เพิ่งสร้างรถไฟความเร็วสูงสายแรกในพื้นที่ จ.นครราชสีมา เสร็จไปแค่ 3.5 กม. รวมทั้งมอเตอร์เวย์ สายบางปะอิน-โคราช เริ่มสร้างตั้งแต่ปี 59 กำหนดเปิดใช้ปี 63 ป่านนี้ยังไม่เสร็จ แต่ยังกล้าไปหาเสียงที่โคราช

วันนี้จึงเป็นไปได้ว่า “นายกฯประยุทธ์” กลัวการเลือกตั้ง! กลัวพรรครวมไทยสร้างชาติได้ ส.ส. ไม่ถึง 25 คน จึงเสนอชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ อีกไม่ได้!!

——————
พยัคฆ์น้อย