ทำเอาคนไทยทั้งประเทศ!! ตั้ง “ความหวัง” รอคอยอีกแล้วกับการเพิ่มวงเงินใน “บัตรคนจน”

เพราะ…ล่าสุด “บิ๊กตู่” ในฐานะประธานคณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์ และ ว่าที่แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรครวมไทยสร้างชาติ ได้ขึ้นเวทีปราศรัยที่ จ.นครราชสีมา เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยจะเพิ่มเป็น 1,000 บาท แต่ต้องไปดูวงเงินงบประมาณว่าเป็นไปได้มากน้อยเพียงใด

May be an image of 2 people, people standing and outdoors

บัตรคนจนหรือ…บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ถือเป็นหนึ่งในนโยบายของรัฐบาลที่เข้ามาช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย มาตั้งแต่ปี 60 ในยุครัฐบาล คสช. หรือคณะรักษาความสงบแห่งชาติ โดยจัดงบประมาณปีละประมาณ 50,000 ล้านบาท ผ่านกองทุนประชารัฐสวัสดิการเพื่อเศรษฐกิจฐานรากและสังคม

รัฐบาลเริ่มจัดสรรเงินงบประมาณมาตั้งแต่ปีงบฯ 61สิริรวมจนถึงปัจจุบันก็ใช้งบประมาณไปแล้วกว่า 2.67 แสนล้านบาท ไม่รวมเงินเพิ่มในช่วงการระบาดของไวรัสโควิด-19

นับตั้งแต่ ต.ค. 60 บรรดาผู้มีรายได้น้อยได้รับความช่วยเหลือจากบัตรคนจนโดยเฉลี่ยประมาณ 2,145 บาทต่อคนต่อเดือน ช่วยบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายได้ 77% ของค่าใช้จ่ายต่อเดือน

สวัสดิการในบัตรคนจน นอกจากมีเงินช่วยเหลือเป็นค่าซื้อสินค้าเดือนละ 200 บาท และ 300 บาท แล้วยังมีเงินช่วยเหลือค่ารถโดยสารสาธารณะ 500 บาท มีส่วนลดค่าแก๊สหุงต้ม 45 บาทต่อ 3 เดือน และ 100 บาทต่อ 3 เดือน รวมไปถึงเงินช่วยค่าไฟฟ้าไม่เกิน 315 บาท ช่วยค่าน้ำประปาไม่เกิน 100 บาท

ต้องยอมรับว่า…ทุกวันนี้ประชาชนคนไทยยังคงเรียกร้องให้ทุกฝ่าย ทั้งรัฐบาล ทั้งการเมือง เข้ามาช่วยเหลือเยียวยาเรื่องปัญหาปากท้องเป็นอันดับหนึ่งของทุกผลสำรวจ

ดังนั้น!! จึงไม่ต้องสงสัยว่า สารพัดนโยบายแก้ปัญหาปากท้องชาวบ้าน จึงกลายเป็นแม็กเน็ตสำคัญ ที่บรรดาพรรคการเมืองต่างรังสรรค์กันออกมา เพื่อดึงดูดคะแนนเสียงให้ได้มากที่สุด

แต่สิ่งสำคัญที่สุด เมื่อตัดสินใจที่จะเลือก!! แล้วก็ต้องทำให้ได้เพื่อรับผิดชอบกับคำพูดของตัวเอง เหนือสิ่งอื่นใดที่กลายเป็นอุปสรรคขวากหนามมากที่สุด ก็คือเรื่องของงบประมาณ

นั่นหมายความว่า… จะกลายเป็นภาระของงบประมาณเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัวทีเดียว!! ซึ่งต้องหันไปถามว่าแล้วจะหาเงินมาจากไหน? นั่นแหละสำคัญยิ่งกว่า!!

อย่าลืมว่า เวลานี้ไม่ใช่เวลาที่หอมหวาน สารพัดปัจจัยกำลังกดดันเศรษฐกิจไทยอยู่มากมาย โอกาสการลืมตาอ้าปากให้เศรษฐกิจเติบโตได้ปีละ 5% ตามที่ควรจะเป็น!! นั้น…ยังมองไม่เห็นหนทาง

นอกจากนี้ต้องยอมรับว่า การจัดทำบัตรคนจนที่ผ่านมานั้น มีคนที่มีอันจะกินแฝงเข้ามาอยู่ไม่น้อย โดยมีข้อมูลจากนักวิชาการว่ายังมีคนจนตัวจริงตกหล่นอยู่มากถึง 51% ที่เข้าไม่ถึง

การจัดทำบัตรคนจนรอบใหม่ครั้งนี้ จึงเข้มงวด ตรวจสอบเช็กประวัติกันอย่างเข้มข้น จนล่าสุดรอบแรกคัดมาได้เพียง 14.5 ล้านคนที่จะประกาศรายชื่อกันทางเว็บไซต์ของกระทรวงการคลังในวันที่ 1 มี.ค.นี้ หลังจากรายงานให้ ครม.รับทราบในวันที่ 28 ก.พ.นี้

ที่สำคัญ!! เมื่อมีการประกาศรายชื่อกันออกมาแล้ว ก็ต้องไปตรวจสอบสิทธิยืนยันตัวเอง ก่อนที่จะเริ่มใช้สิทธิได้ในวันที่ 1 เม.ย.นี้ต่อไป

ขณะเดียวกันใครที่พลาดโอกาสในรอบแรก ก็ยังมีสิทธิอุทธรณ์ที่ธนาคารกรุงไทยได้ภายใน 60 วัน เพื่อตรวจสอบข้อมูลให้ถูกต้องอีกครั้ง ก่อนประกาศรอบเก็บตกในเดือน พ.ค.66 นี้

ส่วนสิทธิประโยชน์ที่ได้รับ สำหรับบัตรคนจนรอบปี 65 นี้ ก็ยังคงเหมือนเดิม ยังไม่มีอะไรเพิ่มเติมเข้ามาใหม่ ยกเว้นการเดินทางด้วยระบบรถไฟฟ้าที่จะไม่สามารถใช้บัตรไปแตะที่เครื่องเพื่อเข้าสถานีได้

เพราะบัตรคนจนรอบใหม่…จะไม่มีแยกออกมาต่างหาก แต่สิทธิทั้งหมดอยู่ในบัตรประชาชน ดังนั้นคนที่ต้องการใช้รถไฟฟ้าก็ต้องนำบัตรประชาชนไปแสดงตัวที่ห้องออกบัตร แล้วจึงนำมาเข้าระบบรถไฟฟ้าต่อไป

ที่น่าสนใจคือ คนที่ไม่ได้รับสิทธิบัตรคนจนอีกต่อไป ทางรัฐบาลจะยังคงให้สิทธิเก่าที่เหลืออยู่เหมือนเดิมและทดการใช้จ่ายไปในเดือนถัดไปหลังจากประกาศตัดสิทธิโครงการเก่าไปแล้ว

ขณะที่บัตรคนจนรอบใหม่รอบปี 65 จะได้สิทธิเพิ่มเติมโดยได้เงินค่าซื้อสินค้าเพิ่มเป็น 700บาท เป็น 1,000 บาท ตามที่ หาเสียงกันไว้หรือเปล่า เรื่องนี้ก็ต้องไปรอดูว่าใครจะเข้ามาเป็นรัฐบาลชุดใหม่กันบ้าง?

ณ วันนี้ เอาแค่เพียงให้ตัวเอง เป็นหนึ่งในผู้รับสิทธิไว้ก่อนก็น่าจะเพียงพอ ส่วนจะมีอะไรเพิ่มเติมค่อยมาว่ากัน!!

……………………………………….
คอลัมน์ : เศรษฐกิจจานร้อน
โดย “ช่อชมพู”