“เสือสมุทร” เคยบอกเล่าถึงเรื่องราวการทำดีที่ผ่านมา
จะพบว่าบุคคลที่ทำดีนั้น หลากหลายเพศวัย ช่วงอายุ รวมทั้งหน้าที่การงาน
ทุกคนล้วนทำความดีได้หมด
แน่นอนว่าพื้นฐานของการทำดี มาจากก้นบึ้งของหัวใจที่ “คิดดี-ทำดี”
อย่างสัปดาห์นี้ “เสือสมุทร” มีเรื่องราวการทำความดีของ 2 บุคคล 2 อาชีพ ที่มีน้ำใจและมีเป้าหมายเดียวกันคือ “ตามหาส่งคืนเจ้าของ”
เรื่องราวแรก เกิดขึ้นเมื่อผู้ใช้ TikTok ชื่อ pramual77 ได้โพสต์คลิปเหตุการณ์ พร้อมแคปชั่นระบุว่า “คืนความสุข สร้างความประทับใจผู้มาเยือนเมืองโคราช #เฉาก๊วยลูกหมาแสนซนกับลุงคนข้างบ้าน” วินมอเตอร์ไซค์รับจ้างเบอร์ 77 ซึ่งเป็นวินมอเตอร์ไซค์รับจ้างประจำวินหน้าห้างเดอะมอลล์โคราช พบเห็นสิ่งของปลิวตกจากรถกระบะบริเวณถนนมิตรภาพ ก่อนรถกระบะจะขับมุ่งหน้าไปตามถนน 304 ปักธงชัย-กบินทร์บุรี ภายในถุงที่หล่นจากรถมีเสื่อและเต็นท์สนาม
จากนั้นจึงรีบเก็บแล้วขี่มอเตอร์ไซค์ตามไปทันที พร้อมกับบีบแตรรัวๆ ไปด้วย จนสุดท้ายรถกระบะก็จอดและคืนของได้สำเร็จ โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 22 ก.พ. ที่ผ่านมา
ประมวล กวนทุมมา หรือ พี่มวล วินน้ำใจงาม อายุ 46 ปี เล่าว่า มีอาชีพขับวินมอเตอร์ไซค์มาแล้ว 4 ปี ในขณะกำลังจอดรถติดไฟแดงแถวแยกเดอะมอลล์ ได้มองเห็นรถกระบะที่อยู่ถนนฝั่งตรงข้ามกำลังกลับรถ ขณะนั้นเห็นว่ามีสิ่งของหล่นลงมาจากท้ายรถกระบะ จึงได้พยายามขี่มอเตอร์ไซค์แทรกรถคันอื่นๆ ที่จอดติดไฟแดงอยู่ เพื่อไปเก็บเอาของที่หล่นอยู่กลางถนน แต่ตอนนั้นได้มีแม่ค้าขายของที่แยกไฟแดงได้เดินมาเก็บไป จึงเดินไปบอกแม่ค้าว่า จะขออาสานำของไปส่งคืนเอง
หลังจากนั้นก็รีบขี่ตามรถกระบะไปประมาณ 4 กิโลเมตร สามารถตามรถกระบะได้ทัน รู้สึกดีใจที่สามารถนำของส่งคืนเจ้าของได้ ซึ่งก่อนหน้านี้ก็เคยเก็บโทรศัพท์ ไอโฟน 14 ได้และนำส่งคืนเจ้าของโดยไม่หวังผลตอบแทน โดยจะมีสโลแกนวินมอเตอร์ไซค์หน้าเดอะมอลล์ “ของหายต้องได้คืน”
ต่อกันด้วยเรื่องของ “บรรเจิด เจริญศิริ” อายุ 52 ปี เจ้าหน้าที่งานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยระดับชำนาญงาน เทศบาลเมืองขลุง เก็บสร้อยข้อมือทองคำมูลค่าหลายหมื่นบาท ตามหาเจ้าของ
เหตุเกิดเมื่อช่วงเช้าตรู่ของวันที่ 23 ก.พ. ที่ผ่านมา “บรรเจิด” ได้ขี่รถจักรยานยนต์ไปส่งมะม่วงที่ร้านแห่งหนึ่งภายในตลาดสดเทศบาลเมืองขลุง ซึ่งเป็นอีกหนึ่งอาชีพ นอกเหนือจากเวลาราชการที่ตัวเองทำอยู่เป็นประจำทุกๆ วัน ในขณะที่กำลังจะจอดรถ สายตาได้เหลือบไปเห็นสร้อยข้อมือทองคำเส้นหนึ่งตกอยู่บนพื้น จึงก้มเก็บลงมาแล้วเก็บใส่กระเป๋าไว้ก่อน หลังจากขนมะม่วงส่งลูกค้าเสร็จ ได้เข้าไปสอบถามเจ้าของร้านว่า มีใครทำของมีค่าตกหล่นไว้หรือไม่ ให้ลองตรวจสอบดูว่า มีอะไรหายหรือเปล่า
ขณะที่เจ้าของร้านได้สอบถามญาติที่อยู่ภายในร้าน ได้รับคำตอบว่า ไม่มีใครทำอะไรหาย แต่ด้วยความเป็นห่วงว่า เจ้าของสร้อยจะเดือดร้อน จึงแจ้งกับเจ้าของร้านว่า ถ้าเกิดมีใครมาตามหาสิ่งของมีค่า ให้โทรฯ หาได้ทันที พร้อมทั้งทิ้งเบอร์โทรศัพท์ 08-9245-0268 ไว้ให้กับเจ้าของร้าน
ต่อมา “บรรเจิด” ได้นำสร้อยข้อมือเส้นดังกล่าวกลับมาหารือกับ สุรชัย ปรีชาชาญ ซึ่งเป็นหัวหน้าหน่วยงานที่ทำงานอยู่ เพื่อหารือว่าทองเส้นดังกล่าวเป็นของจริงหรือไม่
จากการตรวจสอบพบว่า สร้อยทองเส้นดังกล่าวเป็นของจริง เนื่องจากมีตราปั๊มปริมาณน้ำหนักอยู่บนสร้อยข้อมือทองคำเส้นดังกล่าว น้ำหนัก สีเรียกว่าของจริงแน่นอน
“บรรเจิด” พร้อมด้วยหัวหน้างานป้องกัน เข้าทำการตรวจสอบกล้องวงจรปิด ในบริเวณที่จุดที่พบทอง เพื่อหาเบาะแสติดตามหาเจ้าของ
ตรวจสอบแล้วพบว่า มีคนทำทองตกในบริเวณดังกล่าวจริง ในช่วงเวลา 05.28 น. ของวันที่ 23 ก.พ. เป็นชายนิรนามเห็นหน้าไม่ชัด ประกอบกับยังไม่มีใครติดต่อแสดงตัว เพื่อมาขอรับสร้อยคืน
ด้วยความตั้งใจ อยากให้เจ้าของสร้อย มีโอกาสได้รับสร้อยข้อมือคืน “บรรเจิด” จึงขอให้หลายฝ่ายช่วยติดตามหาเจ้าของที่แท้จริง ให้มารับสร้อยข้อมือเส้นดังกล่าวคืน เกรงว่าเจ้าของสร้อยเส้นดังกล่าวจะมีความเดือดร้อน เนื่องจากตัว “บรรเจิด” เองก็มีประสบการณ์ในการทำของมีค่าหาย เข้าใจความรู้สึกนึ้เป็นอย่างดี
เรื่องราวของคนดีมีน้ำใจ แม้ต่างอาชีพ แต่ก็มีหัวใจที่น่าชื่นชมยกย่อง.
……………………………………..
คอลัมน์ “คนดีของสังคม”
โดย “เสือสมุทร”
ขอบคุณข้อมูล-ภาพ “ปรีดา สาระลัย” ผู้สื่อข่าวเดลินิวส์ออนไลน์ จ.นครราชสีมา / “อธิคม สิงขรณ์” ผู้สื่อข่าวเดลินิวส์ออนไลน์ จ.จันทบุรี
อ่านเรื่องราว “คนดีของสังคม” ได้ที่นี่..